What to do in Kaohsiung

เดสติเนชั่นหลักที่คนมักจะนึกถึงเมื่อพูดถึงไต้หวันก็จะเป็นไทเป แต่พูดถึงไทเปมันก็อาจจะธรรมดาสำหรับใครหลายๆ คน รวมถึงคนที่ชอบเสาะหาความต่างอย่างเราด้วย วันดีคืนดีเราก็เปิดแผนที่ไต้หวันขึ้นมาดู แล้วไปสะดุดตากับเมืองทางตอนใต้ที่ชื่อ “เกาสง” ว่าแล้วก็เซิร์ทถามอากู๋ซะหน่อยว่าเมืองนี้มันมีอะไรน้า แล้วเราก็ตาสว่างขึ้นมาว่านี่คืออีกเมืองที่ถ้าเราพลาดในคราวนี้ เราจะร้องไห้เสียใจไปอีก 3 วัน 7 วันแน่ๆ เห้ย!!! นี่มันตอบโจทย์นักท่องเที่ยวอย่างเราสุดๆ มีทั้งทำบุญ เที่ยว กิน คาเฟ่ เช็คอิน มีมุมถ่ายรูป แตกต่างและครบเครื่องอย่างที่ใจเราอยากได้จากไต้หวัน

เอาล่ะ… ขี้เกียจจะอวยอะไรให้มันมากมาย ตามเราไปดูรีวิวเมืองที่เที่ยวง่ายๆ ชมภาพถ่าย และเตรียม Copy 10 Destinations ที่ต้องไปให้ได้กับเรากันเถอะน้าาาา

โบราณว่าไว้ไก่งามเพราะขนฉันใดคนเราก็งามเพราะแต่งฉันนั้น และเราก็เป็นเด็กดีเชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่เลยจัดหนักจัดเต็มกันไปกับคอสตูมเรียบง่ายแต่มีสไตล์อย่าง Calvin Klein เพื่อเสริมออฟชั่นความคูลดูแพง ซึ่งการเลือกเสื้อผ้ารอบนี้ก็ตรงกับ Set Collection Fall 2017 Campaign ของ Calvin Klein ที่สวมใส่แล้วอุ่นสบายเหมาะกับสภาพอากาศในเกาสงที่เริ่มเย็นลงทุกวัน เซ็ทนี้มีทั้งโค้ทเท่ ๆ แจ็คเก็ตเก๋ๆ หรือเสื้อยืดชิคๆ ที่เราสามมารถเอามา mix & match กันได้ พร้อมท้าทายเมืองโลเคชั่นสวยสวยที่เมืองเกาสง

001 Moon World Landscape Park
Moon World Landscape Park หากฟังแค่ชื่ออาจดูแหววหวานแต่เมื่อพบพานก็ทำเราแปลกใจเพราะนางคือเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหินภูเขาไฟที่แห้งแล้งไร้สิ่งมีชีวิตใดๆ คล้ายดังพื้นผิวของดวงจันทร์ แต่รอบข้างนั้นกลับโอบล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเทือกเขาแห่งนี้เกิดจากฝนที่ซะล้างและกัดกร่อนหน้าผิวหินมาหลายปีจนกลายเป็นแลนด์มาร์คที่สวยงามแปลกตาน่ามาท่องเที่ยวนั่นเอง ส่วนการเดินทางให้นั่ง KMRT ไปที่สถานี Gangshan South เพื่อต่อรถบัสสายสีแดงหมายเลข 70  大岡山假日觀光公車 ที่มุ่งหน้า Tianliao District ไปลงที่สถานี Moon World Bus Station เลยจร้า

002  Pier-2 Art Center
จากแหล่ง Warehouse ที่ถูกทิ้งร้างเนื่องจากการย้ายฐานอุตสาหกรรมของเมือง Pier-2 Art Center จึงสร้างจุดยืนใหม่ด้วยการเป็นศูนย์รวมงานอาร์ต งาน exhibition งานจัดแสดงแหล่งปล่อยความคิดสร้างสรรค์ บวกกับทัศนียภาพนั้นก็ไม่ธรรมดาด้วยวิวท้องฟ้าและมหาสมุทร สถานที่แห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์ที่เราห้ามพลาดกันจริง ๆ ด้วยความที่ Pier-2 Art Center ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือจึงเป็นฉากที่เอื้อต่อการถ่ายรูปคูลๆ มาเก็บไว้ดูไว้อวด และจะแจ่มกว่านั้นหากได้แจ็คเก็ตเท่ๆคู่กับท่อนล่างจากกางเกงสีดำของ CK ก็ Made Photo of the Day ได้ง่ายๆ

ทั่วทั้งสถานที่ก็จะพบเจองานศิลปะชั้นดีจัดแสดงที่จัดแสดงไว้ทั่วทุกมุมให้คนทุกเพศทุกวัยที่สนใจมาป๊ะ มาดู มาชมให้สมอยาก และการเดินทางมาที่ Pier-2 Art Center ก็ไม่ยาก แค่นั่ง KMRT ลงสถานี Yangchengpu ทางออก 1 จากนั้นเดินไปทางขวาอีกประมาณ 500 เมตรเท่านั้นเอง

003 Cijin island
เกาะฉีจินเป็นเกาะเล็กๆ ที่นี่มีชื่อเสียงว่าเป็นแหล่งทานอาหารซีฟู้ดที่สดใหม่ที่สุดของเมืองเกาสงและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะแลนด์มาร์คงามๆ ตึกรามบ้านช่องที่ดูวินเทจ แต่เดิมเกาะฉีจินก็เป็นส่วนเดียวกับแผ่นดินเกาสง แต่เนื่องด้วยการจราจรทางน้ำที่คับคั่ง จึงจำเป็นต้องมีการเปิดทางเข้าท่าเรือเมืองเกาสงเพิ่มทางรัฐบาลเค้าจึงเปลี่ยนจุดที่เคยเชื่อมต่อกับแผ่นดินให้กลายเป็นทะเลแทนจนทำให้พื้นที่ย่านฉีจินเดิมกลายเป็นเกาะ โดยมีท่าเรือเฟอรี่ข้ามฝากและสะพานที่เชื่อมต่อกันระหว่างเกาะกับฝั่งแผ่นดินจนกลายกลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจไปในตัว

เกาะฉีจินสามารถเดินทางมาได้ง่ายด้วยเรือเฟอรี่ที่ใช้เวลาเพียง 5 นาที จากท่าเรือ Gushan ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Sizihwan สายสีส้ม ประมาณ 500 เมตร ส่วนการเดินทางบนเกาะสามารถเช่าจักรยาน จักยานไฟฟ้า หรือมอเตอร์ไซต์ ขี่ได้ในราคาที่ไม่แพงเลยฮะ ส่วนจะมีที่ไหนบนเกาะน่าสนใจบ้างเลื่อนหน้าจอลงไปดูกันได้เลย

  • Qijin Windmill Park

Cijin Windmill Park หรือ “สวนกังหันลมฉีจิน” คือแหล่งผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมที่แรกในไต้หวัน ซึ่งกระแสไฟภายในสวนก็ล้วนสร้างจากกังหันลมสวย ๆ เหล่านี้เช่นกัน นอกจากนั้นที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ หรือไปออกกำลังกายของคนในท้องถิ่นด้วย

  • Cijin Shell Museum

ไม่ไกลนักจากกังหันลมยักษ์เราก็พบกับอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค พิพิธภัณฑ์สัตว์ตระกูลเปลือกที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน Cijin Shell Museum ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสองของ Cijin Seaside Park’s Tourist Service Center ณ ที่แห่งนี้จะมีสายพันธุ์หอย ปู และสัตว์ทะเลมีเปลือกมากกว่า 2,000 ชนิดให้ได้ศึกษาหาความรู้ และกิมมิคประทับใจต้องไปชมก็คือหอยกาบคู่ชันไบวาลเวียที่ใหญ่ที่สุดในโลกจร้า!!!

และนอกจากนิทรรศการสัตว์ทะเลเปลือกแข็ง Cijin Shell Museum ยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ที่เต็มไปด้วยสีสัน Colorful ที่ดูตัดกับขอบฟ้า แนะนำว่าให้มาใน Theme เสื้อผ้าสีขาวเรียบๆ แต่มีสไตล์ของ CK ที่พอถ่ายเป็นรูป Profile ก็จะออกมามินิมอลเท่ๆ

  • Qijin Beach

ขยับจากพิพิธภัณฑ์อีกหน่อยก็ถึงเวลาปล่อยใจริมหาดฉีจิน ชายหาดที่ผู้คนท้องถิ่นชอบมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ บ้างก็มานั่งรอชมพระอาทิตย์ตกดินสร้างอารมณ์อินๆ โรแม๊นซกันเป็นคู่ๆ แต่ช่วงที่ไปคนดูบางตานิดหน่อยอาจเพราะด้วยเราไปในวันธรรมดา นอกจากชายทะเลแล้วที่นี่ก็มีสวยสาธารณธริมหาด มีบาร์เครื่องดื่มรอต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยมเยือนเพื่อดับกระหายคลายร้อน ให้เรานั่งพักกันชิลล์ๆ ก่อนจะพุ่งไปต่อกับโลเคชั่นถัดไป

 

  • Qijin Tunnel

แรกเริ่มเดิมทีอุโมงค์ฉีจินนี้สร้างมาเป็นเส้นทางทหารโดยตัดทะลุลอดผ่านเขา Cihou ซึ่งภายในจะตกแต่งด้วยแสงไฟใต้ concept กลุ่มดาวสิบสองราศีแถมยังมีลมเย็น ๆ จากท้องทะเลพัดเข้าไปยังด้านใน และก่อนจะเดินก้าวออกไปเราจะได้ยินซาวน์เพราะ ๆ ปิดท้ายเพื่อบอกว่ามาถึงปลายทางแล้วจร้า สิ่งที่งดงามอีกอย่างของแลนด์มาร์ดแห่งนี้คือเมื่อโผล่พ้นอุโมงค์จะมีทางเดินเล่นบรรยากาศดี๊ดีย์ที่ชวนถวิลหาใครสักคนมาเดินทอดน่องบนระเบียงไม้ชมวิวหาดทรายสวย ๆ ไปด้วยกัน

  • Qihou Fort

ป้อมปราการแห่งฉีจินที่สร้างขึ้นบนยอดเขา Cihou เมื่อสมัยจักรพรรดิ์ Kangxi โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นฐานทัพแห่งท่าเรือเกาสง ตัวป้อมปราการสร้างขึ้นโดยแผ่นกระเบื้องสีแดง ตกแต่งสถาปัตยกรรมแบบแบบจีน ส่วนไฮไลท์ของที่นี่คือจุดชมวิวที่เรายืนชิลล์มองวิวเมืองเกาสงได้แบบ 360 องศา และถ้าอยากเก็บภาพพระอาทิตย์ตก ก็พกกล้องกันมาได้เลย ส่วนตั๊ว ส่วนตัว เราว่าที่นี่ควรเก็บภาพ Portriat แหล่ม ๆ โดยใช้ Background ของผนังอิฐหและท้องฟ้ายามเย็น โดยให้เน้นจุดสนใจด้วยเครื่องแต่งกายโก้ๆ ยืนโชว์ได้ไม่อายอย่างเช่นของ CK ได้เลย

ช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดินคงไม่มีอะไรจะเหมาะกับการมานั่งนิ่ง ๆ เสพบรรยากาศสบาย ๆ รับอากาศบริสุทธิ์กับเพลย์ลิสต์โปรดที่โหลดไว้ฟังเวลาโหมด This is a vacation timeeeee 😀

004 Dome of Light
Dome of light แลนด์มาร์คที่สวยสะพรึงถึงใจด้วยงานศิลปะจากกระจกแก้วที่ใหญ่ที่สุดในโลกสร้างโดยศิลปินชาวอิตาลีที่ใช้เวลากว่า 4 ปีบันทึกเรื่องราวแห่งประชาธิปไตยในไต้หวันลงในงานศิลปะกระจกแก้ว เพื่อบอกเล่าให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษากันสืบไป Dome of Light เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ขึ้นชื่อมาก ๆ ของเกาสง ตั้งตระหง่าอยู่ใจกลางสถานี Formosa Boulevard สถานีรถไฟฟ้าที่งดงามเป็นอันดับต้นๆ ของโลกนะแกร๊!!

005 Liuhe Night Market
Liuhe Night Market 六合夜市 ( ตลาดกางคืนหลิ่วเหอ ) เป็นตลาดไนท์มาร์เก็ตชื่อดังที่สุดของเมืองเกาสง ตั้งอยู่บนถนน Zhongsan road และ ถนน Zili road ซึ่งตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ โดมีที่นั่งตรงกลางให้เราวางถ้วยชามรับประทานได้ตามใจ อิ่มเมื่อไรก็ไป Shopping ของฟรุ้งฟริ้งกิ๊งก่องแก้วทั้งเสื้อผ้าหน้าผมจะชื่นชมจะซื้อเครื่องประดับแล้วเอากลับบ้านไปฝากคนรักกันก็ซื้อไปปปปป

สายกินที่แท้ทรูต้องไม่พลาดเพราะไนท์มาร์เก็ตแห่งนี้เต็มไปด้วยสารพัดเมนูชวนลองทั้งของกินเล่น อาหาร เครื่องดื่ม คาเฟ่ ขนมนมเนย แต่ที่เด็ดสุดคงต้องยกให้อาหารท้องถิ่นที่ทำมาจากสารพัดสัตว์ทะเลที่การันตรีความสดเพราะเกาสงเป็นเมืองท่าติดทะเล นอกจากอาหารการกินที่ครบครันแล้ว ตลาดกางคืนหลิ่วเหอยังเต็มไปด้วยของเล่น ของสะสม ของฝาก ของที่ระลึก เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ให้เราได้เดินช้อปหลังจากทานของอร่อย

 

006 Café Strada 步道咖啡
อย่างที่รู้ๆ กันว่า จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น เป็นสาย Cafe ดังนั้นมาเกาสงทั้งทีจะไม่หา Cafe ชิค ๆ มาแบ่งปันก็คงไม่ใช่เรา ซึ่งทริปนี้หวยก็ออกที่ร้าน Café Strada ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ Spec สายชิลล์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเกาสงด้วย concept อาหารอิตาลีและแซนวิช ภายในตกแต่งแบบ Modern หน่อยๆ แบบมานั่งค่อยๆ จิบ Afternoon Tea รสชาติดี ๆ ได้รับการการันตีด้วย comment ลูกค้าจาก Tripadvisor นะแกร๊ ซึ่งร้านจะเปิดบริการตั้งแต่ 11:30 AM – 11:00 PM แบบแนวตื่นสายๆ แล้วมานั่งคลายชิลยามบ่ายกันยาวๆ

เมนูในร้านมีค่อนข้างหลากหลายทั้งคาวทั้งหวาน แต่ถ้าให้เราแนะนำก็จะมีแซนวิช สปาเก็ตตี้ซีฟู๊ด ทานคู่กับซุปร้อน ๆ ก่อนจะตบท้ายด้วยกาแฟเข้มเข้มเพิ่มคาเฟอีนให้ร่างกาย ก่อนจะนั่งใช้เวลาคุณภาพกับหนังสือเล่มโปรดเคล้าคลอเพลงคลาสสิคที่ทางร้านเปิดให้ฟัง

007 Lotus Pond 蓮池潭
หลักๆ ของแลนด์มาร์คแห่งนี้คือทะเลสาบดอกบัวที่มีเจดีย์อยู่รายล้อม แต่ที่โดดเด่นและดึงดูให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่ต้องยกให้เจดีย์คู่ Dragon & Tiger Tower ที่ลักษณะเป็นเจดีย์จีนคู่สูง 7 ชั้น บนผิวน้ำมีมังกรและเสือขนาบคู่กันอยู่ที่ด้านหน้าที่ทำเป็นทางเดินลอดเข้าสู่เจดีย์ หากมองวิวนอกหน้าต่างระหว่างที่ใช้บันไดด้านในเจดีย์ฝั่งใดฝั่งหนึ่งขึ้นสู่ยอดเจดีย์เราจะพบเจอทิวทัศน์อันตรึงตาของสระบัว ซึ่งแผ่กว้างใหญ่หลายไมล์ทั้งทางทิศเหนือและทิศใต้ เห็นอาคารระฟ้าของเกาสงที่อยู่ไกลออกไป ตลอดจนอุทยานพื้นที่ชุ่มน้ำโจวไจ่ รวมไปถึงเจดีย์อื่นๆ ที่ตั้งอยู่รายรอบทะเลสาบ ส่วนการเดินทางมาที Lotus Pond 蓮池潭 ให้นั่ง MRT ไปลงสถานี 16 Zhouying Station แล้วต่อ Shuttle Bus อีกครึ่งชั่วโมงนะฮะ

008 Fo Guang Shan Monastery
พุทธอุทยานพระใหญ่ โฝ กวง ซาน ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Dashu ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ Gaoping สร้างขึ้นโดย Master Hsing Yun และลูกศิษย์ โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีอาคารสไตล์จีนสุดยิ่งใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า เมื่อเดินทะลุผ่านตัวอาคารเข้าไปไปด้านในจะพบกับเจดีย์รูปแบบจีนตั้งเรียงรายด้านละ 4 เจดีย์ ถัดไปจะเป็นบริเวณ Main Hall ซึ่งมีพระ Sakyamuni องค์ใหญ่ตั้งอยู่ด้านหลังสุด โดยภายในอาคารบริเวณ Main Hall นี้ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาให้ได้เข้าชมอีกด้วย ส่วนการเดินทางก็ง่ายเพียงไปที่สถานีรถไฟ Kaohsiung Railway Station แล้วต่อรถบัสกันที่สาย 8010 หรือ 8011

009 Former British Consulate
Former British Consulate หรือ สถานกงสุลอังกฤษต๋าโก่ว แต่ก่อนนั้นมีความสำคัญคือเป็นสถานกงสุลที่ประเทศอังกฤษสร้างขึ้น แต่ต่อมาได้กลายเป็นสวนศิลปะวัฒนธรรมที่นำผู้คนมายลพระอาทิตย์ยามเย็น และด้วยความที่อยู่บนเนินเขาก็ช่วยให้เราเก็บภาพเมืองมุมสูงได้สบายๆ ผู้คนจะมาที่นี่เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดกับท้องทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มายืนนิ่งๆ ปล่อยใจไหลไปกับสายน้ำ คลื่นลม และแสงตะวันก่อนจะไปลุยคุ้ยความมันกันต่อยามค่ำคืนฮะ สำหรับสถานกงสุลอังกฤษต๋าโก่วจะมีค่าเข้าอยู่ที่ 99 NT หรือประมาณ 110THB และเปิดตั้งแต่เก้าโมงเช้ายาวถึงสามทุ่มจร้า

010 Ruifeng Night Market
อีกหนึ่งย่านราตรีทีเด็ดต้องยกให้ Ruifeng Night Market ( ตลาดหลุยเฟง ) ไนท์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดของเมือง เกาสง ซึ่งสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์ความตั้งใจให้เป็นสถานที่เยี่ยมเยือนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังนั้นตลาดหลุยเฟงจึงมีทุกอย่างครบจบในที่เดียวทั้งอาหาร สินค้าข้าวของเครื่องใช้ที่หลากหลายภายใต้ Concept แผงรถเข็นที่ให้เราเดินเล่นเดินชมได้มากกว่า 1,000 ร้านค้า ส่วนวิธีการเดินทางก็ให้ไปลงที่ MRT Kaohsiung Arena Station สายสีแดง ทางออกที่ 1 หรือ 2 แล้วเดินไปอีกไม่เกิน 200 เมตร

ทีเด็ดของไนท์มาเก็ตแห่งนี้ก็มีทั้งมื้อหนัก มื้อเบา มื้อยืนถือกินเอา หรือเข้าไปนั่งยาวก็ได้หมด อาหารก็สดอร่อยการันตีมีน้ำหนักขึ้น ซึ่งมื้อนี่เราก็จัดกันที่ร้านชาบูแห่งหนึ่งให้ถึงเกาสงกันสักหน่อย รสชาติก็เอร็ดอร่อยถูกอกถูกใจ ส่วนของกินอย่างอื่นที่อยากแนะนำให้ไปฟินกันก็คือไก่นางฟ้าห รือ Angel Chicken ความฮอตความแถวยาวก็ให้นึกถึงไก่ทอด Hot Star ที่ไทเป และชานมไข่มุกต้นตำรับฉบับหนุบๆ หนับๆ รสชาติไม่หวานเท่าไรแต่ดูดไปเคี้ยวไปก็อร่อยดีนะ

ก็จบกันไปกับ 10 Locations เมืองเกาสงที่เราไปเที่ยวไปดูแล้วเอามาบอกเล่าต่อ แต่เราก็เชื่อว่าเกาสงยังคงมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายไม่ว่าจะสถานที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม หรือแม้แต่เกษตรกรรม ตลอดทั้งความสวยงาสะอาดเรียบร้อยของตึกรามบ้านช่องที่ทำหน้าที่เป็น Background ชั้นดีให้เราได้โพสท่าถ่ายรูปใน Look เท่ๆกับเสื้อผ้าสุดคูลของ CK

และสำหรับทริปนี้ จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น ก็ขอลาไปพร้อมกับคำคมดี ๆ ว่า

One’s destination is never a place, but a new way of seeing things. – Henry Miller ( จุดหมายปลายทางนั้นไม่ใช่สถานที่ใดที่หนึ่ง หากแต่เป็นการมองเห็นสิ่งต่างๆ ด้วยมุมมองใหม่ต่างหาก )