เมื่อเขาใหญ่เมืองพักตากอากาศสุดชิค มีที่เที่ยวเก๋ ๆ เปิดใหม่แทบทุกเดือน ทางนี้เลยขอปักหมุดมาอัพเดทเช็คลิสต์ฉบับต้นปี 2022 กับทริป 2 วัน 1 คืน 5 โลเคชั่น เที่ยวตามยังไงก็ฟิน เพราะจัดมาให้ทุกคนแบบครบเว่อร์ ทั้งคาเฟ่ใหม่ล่าสุดที่ต้องแวะ ที่เที่ยวสุดชิลฟีลเดินถ่ายรูปเล่นสวย ๆ แถวทัสคานี รวมถึงที่พักฟูลเซอร์วิสบริการเลิศ หนึ่งในโรงแรมพาร์ทเนอร์ที่เราจะจองได้ง่าย ๆ ผ่าน Robinhood Travel แอปพลิเคชันสัญชาติไทยใหม่ล่าสุด ซึ่งจะเปิดตัวมีนาคมนี้ แอปฯ เขาดีตรงช่วยเจ้าของกิจการด้านการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ด้วยสิทธิประโยชน์สุดคุ้มค่า บอกเลยว่าทริปนี้มีแต่ของใหม่ ๆ มีแต่ช่วงเวลาที่ชุ่มฉ่ำหัวใจ เหมาะให้เราหิ้วเพื่อนมาแต่งตัวคิ้วท์ ๆ ถ่ายรูปเช็คอินช่วงวีคเอนด์นี้ที่สุด
แอปจองที่พักมีให้เลือกมากมายแล้วทำไมถึงต้องเลือก Robinhood Travel ? บอกก่อนเลยว่า.. แอปจองที่พักที่เรานิยมใช้กันอยู่ค่าคอมมิชชั่นที่เก็บกับโรงแรมนั้นแพงมาก ทำให้บางที่พักจะต้องบวกราคาห้องเพิ่มไปอีก บางทีจองจากหน้าเพจโดยตรงอาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำ แต่ด้วยความขี้เกียจเรามักยอมจ่ายแพงเพื่อทำแพลนให้มันเสร็จ ๆ ไป สำหรับผู้ประกอบการเองก็ต้องเสียเปอร์เซ็นไปเยอะเช่นกัน ทาง Robinhood เขาเลยแตกไลน์จากแอปส่งอาหาร ที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียม เพื่อช่วยเหลือร้านอาหาร จนได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี มาพัฒนา Robinhood Travel เพื่อช่วยเจ้าของกิจการการท่องเที่ยว และเพื่อง่ายสำหรับผู้ใช้อีกด้วย
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ทางโรงแรม หรือพาร์ทเนอร์จะได้รับจากแอปนี้ มันสุดจะปังล้ำหน้าทุกค่ายที่มีเลยคือ 0% Commission, ได้รับเงินไวหลังลูกค้าเช็คเอาท์ 1 ชั่วโมง, มีการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ตามหน้าเว็บและสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และมี Partner Care ตลอด 24 ชม. เหล่าเจ้าของธุรกิจโรงแรมทั้งเล็กและใหญ่สามารถเข้าร่วมได้ง่าย ๆ ผ่านการลงทะเบียนที่ https://otaregister.robinhood.in.th/ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02 777 7564 หรือดูข้อมุลเพิ่มเติมที่ www.robinhood.in.th/travel-partner/ เอาเป็นว่าได้ข้อมูลดี ๆ แล้วเราก็มาลุยทริป 2 วัน 1 คืนพร้อมกันได้เลย
01 Primo Piazza
ขอเริ่มเช้าอันสดใสกับแดดอุ่น ๆ ในหมู่บ้านใจกลางหุบเขาแห่งแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลีสักหน่อย โดยเราไม่ต้องเสียเวลานั่งให้เมื่อย เปลี่ยนเครื่องให้วุ่นวาย แค่ขับรถจากบ้านไม่กี่ชั่วโมงตรงมาที่ Primo Piazza ซึ่งรีโนเวทมาจาก Primo Posto ที่หลายคนคงเคยได้มาเช็คอินกันแล้ว แต่การทำใหม่ครั้งนี้เขาเน้นย้ำสถาปัตกรรมให้เหมือนหมู่บ้านทัสคานีสมัย 500 ปีก่อน ให้ทุกร้านภายในนี้มีคอนเซปต์เดียวกัน เป็นจัตุรัสการค้าที่ลงตัวมากกว่าแต่ก่อนมาก
ภายในหมู่บ้านเล็ก ๆ นี้เขาก็มีบริการมากมาย ทั้งร้านอาหารตะวันตก อาหารไทย ร้านขายไวน์ ร้านขายของฝาก พร้อมคาเฟ่ให้นั่งชิล เราเลือกสั่งไอศกรีมมากินท้าแดด เติมน้ำตาลให้ร่างกายตื่นเต็มที่ ถือเป็นพร็อพถ่ายรูปตรงนั้นตรงนี้ เอาจริง ๆ ถ้าจัดวาง Composition ถ่ายรูปดี ๆ ตามกำแพง มุมตึก ระเบียง โต๊ะกลางจัตุรัส ก็จะได้รูปประหนึ่งเที่ยวอิตาลีเลยนะ เหมือนเป็นสตูดิโอกลางแจ้งเลยก็ว่าได้
ส่วนใครอยากได้ภาพที่มีชีวิตชีวาขึ้นอีกหน่อย เราแนะนำให้มาตรงฟาร์มเล็ก ๆ กลางเนินเขาตรงนี้ เพื่อสัมผัสความน่ารักปุกปุยของเหล่าอัลปาก้า พันธุ์มอริโน่ ที่บินตรงมาจากออสเตรเลีย และเจ้าม้าแคระดองกี้ มารอต้อนรับอย่างว่าง่าย ค่าตั๋วคนละ 100 บาท เอาไปแลกหญ้ามาป้อนน้อง ๆ ได้
02 Banyakart Khaoyai
ต่อด้วย Banyakart Khaoyai คาเฟ่ที่เป็นเหตุผลหลักในการมาเขาใหญ่ครั้งนี้ของเราเลย ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นน่าค้นหา ภายใต้คอนเซปต์ ‘Bring the Outside In and Inside Out’ นำของออกแบบตกแต่งเก๋ ๆ ที่ส่วนใหญ่อยู่ภายในอาคาร ออกมาวางไว้กลางสวนสุดชิล ห้อมด้วยสถาปัตยกรรมเท่ ๆ คล้ายจะมินิมอล แต่มีกิมมิกซ่อนอยู่มากมาย นอกจากดื่มด่ำกับขนมและเครื่องดื่มแล้ว ยังมีมุมให้เราค้นหาครีเอทภาพว้าว ๆ อีกเพียบ!
ภายในร้านเผิน ๆ ดูออกจะเรียบง่ายสบาย ๆ นั่งชิลกับแอร์เย็นฉ่ำ ส่วนภายนอกจะบอกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว การทำซุ้มประตูโค้งทั้งแถบ ยามแสงตกกระทบจะเกิดเงาไม้งามเหมือนงานศิลปะให้เราไปยืนแซม มุมกระจกต่าง ๆ ไปนั่งเซลฟี่ใกล้ ๆ ได้ฟีลอปป้า ซึ่งทั้งสองโซนเน้นให้เราดื่มด่ำกับบรรยากาศสมชื่อร้านจริง ๆ
อีกอย่างที่ชอบมาก ๆ คือการใช้กระจกฟอร์มแปลกตาเป็นโต๊ะตัวใหญ่ ถือเป็นมุมห้ามพลาดที่ต้องถ่ายคู่พร้อมเซ็ตเครื่องดื่มขนมหน้าตาเรียบโก้ ขนมจะเป็น Croffle หน้าต่าง ๆ แป้งหอมกรุ่นรับรู้ถึงความสดใหม่ ซึ่งหน้าที่อยากแนะนำคือ Corn Soup Croffle ราดด้วยซุปข้าวโพดโปะด้วยแผ่นข้าวโพดเบิร์นหอม ๆ เป็นข้าวโพดหวานจากฟาร์มออร์แกนิกในเขาใหญ่ คู่กับ Original Dirty นมเนื้อละมุนที่ท๊อปด้วยเอสเปรซโซ่นุ่ม ๆ บอกเลยว่าฟินเต็ม 10
03 dusitD2 Khaoyai
มาถึงวิมานอันแสนสุขที่เรารีบเข้ามาเช็คอินตั้งแต่บ่าย dusitD2 Khaoyai โรงแรมที่เหมาะกับคนชอบที่พักมีสแตนดาร์ด อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อาคารไม่สูงมากเป็นสีเอิร์ธโทนเข้ากับบรรยากาศโดยรอบที่เป็นป่าสน และทิวเขายาว ซึ่งก็เป็นอีกโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Robinhood Travel เนี้ย.. ขนาดโรงแรมเครือใหญ่ ๆ ยังมั่นใจเข้าร่วม เราว่าที่พักรายเล็ก ๆ ก็น่าลองเหมือนกันนะ ได้เงินไว ไม่เสียคาคอมฯ ได้โปรโมทผ่านช่องทางต่าง ๆ แถมยังมีคนคอยให้คำปรึกษาอีก เลิศสุด!!!!!
มาดูในส่วนของห้องพัก ก็ต้องขอพูดตรง ๆ แบบไม่อวย สมมงเครือดุสิตมาก เขามีห้องพักให้เลือกหลายแบบตอบโจทย์กับการท่องเที่ยวของทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนไพรเวทแบบคู่รัก หรือคอนเนคติ้งรูมสำหรับครอบครัว กลุ่มเพื่อน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบตามมาตรฐานโรงแรมชั้นนำ มองจากระเบียงห้องจะเห็นวิวป่าสนและทิวเขา ทุกห้องมีอ่างแช่น้ำให้เราโยนบาร์ทบอมหอม ๆ ลงไปแช่พร้อมจิบไวน์ชมพระอาทิตย์ตกดินได้จากในห้องเลย
ส่วนมุมถ่ายภาพเช็คอินที่อยากแนะนำให้หนุ่มสาวชาวอินสตาแกรมเมอร์มาประเดิมกันคือมุมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่น่าลงไปว่ายฟรีสไตล์ มีพื้นหลังเป็นป่าสนทรงงาม พอตกเย็นแสงเงาจะทำมุมให้เราถ่ายสะท้อนน้ำสวย ๆ แบบนี้ได้ มีบาร์เสิร์ฟค็อกเทลมานั่งจิบรับลมเย็นเคล้าเสียงนกเสียงใบไม้พัดโบก บอกเลยว่าชิลที่ 1
ตื่นเช้ามาพร้อมสุขภาพจิตที่แจ่มใส อาบน้ำแต่งตัวออกมาเพิ่มเอเนอร์จี้ให้กับร่ายกายด้วยไลน์อาหารเช้าสุดอลัง ที่รังสรรค์อาหารมาให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งอเมริกันเบรกฟาสต์ อาหารไทย ซุปมิโซะ โคลด์คัท สลัด เบเกอรี่นานาชนิด พร้อมผลไม้ตามฤดูกาล บอกเลยว่าวาไรตี้จนเลือกไม่ถูก รสชาติก็คือดีงาม ส่วนใครถ้าอยากได้ภาพสวยเราแนะนำให้ออกมานั่งรับวิตามินยามเช้า ตรงโต๊ะกลมริมสระน้ำ รูปที่ได้มันจึ้งไม่ไหว
เต็มอิ่มกับมื้อเช้า ทางเราก็มาเดินย่อยชมนกชมไม้กันสักหน่อย เพราะไฮไลท์ของที่นี่ยังมีมาเซอร์ไพรซ์ไม่หยุดหย่อน เขามีน้องอัลปาก้ามาแสตนบายรอต้อนรับเราอยู่ บอกเลยว่าน้องที่นี่คือขนนุ่มฟู จัดทรงสวย รู้เลยว่าได้รับการดูแลอย่างดี เลิฟสุดคือเขาให้เราเข้าไปให้อาหารน้องใกล้ ๆ จะกอดน้องก็ไม่ว่าด้วย
04 OLNA x PY Roasters
เม็มกล้องอย่าเพิ่งเต็มนะเพราะเรายังมีอีก 2 ร้าน ที่จัดมุมคิ้วท์ ๆ ให้ถ่ายแฟชั่นเซ็ตสไตล์ลูกคุณแดนผู้ดีกัน ที่แรกคือ Olna อีกร้านฮอตฮิตที่หลายคนคงผ่านตามาบ้างแล้ว กับบ้านสีเขียวหลังน้อยทรงน่ารักที่ชอบเห็นตามชนบทแถบยุโรป จนนี่คิดไปว่าเขาใหญ่หรืออิตาลี โลเคชั่นแต่ละจุดทริปนี้มันสุดจะปังจริง ๆ
บรรยากาศร้านนี้น่าพกเพื่อน พกแฟน พร้อมหนังสือเล่มโปรดมานั่งชิลกันสักหน่อย เพราะเขามีมุมสงบเยอะมาก ทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ อย่างภายในจะเป็นเหมือนห้องรับแขกสีขาวน้ำตาล มีโซฟานั่งสบาย ทุกด้านมีหน้าต่างพร้อมม่านบาง ๆ ให้แสงละมุนลอดผ่านเข้ามาดูโฮมมี่ หรือจะนั่งที่ชานด้านข้างของตึก เขาก็มีที่บังแดดให้อย่างดี กลางแจ้งฟีลฝรั่งก็ไม่ติด ถ่ายรูปสวยทุกจุดอย่างกับอยู่ต่างประเทศเลย
มาดูเรื่องเมนูกันบ้าง ขอออกปากชมก่อนเลยว่ากาแฟของที่นี่อร่อยมาก มีเมล็ดให้เราเลือกทั้งแบบคั่วอ่อนหรือคั่วเข้ม สามารถชงแบบ Slow Bar ได้ แถมบางช่วงยังมีเมล็ดจากหลายประเทศมาสร้างความแปลกใหม่ให้รสชาติและกลิ่นของกาแฟ ทางเราสั่ง Garnet Coffee เมนูซิกเนเจอร์ที่ผสมผลไม้ ช่วยสร้างความสดชื่น มาทานคู่กับครัวซองค์ กรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นเนยสด ซึ่งขนมของทางร้านจะไม่ซ้ำกันในแต่ละวันอย่างวันนี้จะมี Carrot Cake, Burnt Cheesecake เป็นโฮมเมดเบอเกอรี่ที่ทำวันต่อวันจริง ๆ
05 Tellus Cafe Khaoyai
ปิดท้ายกันด้วยคาเฟ่น้องใหม่ Tellus Cafe Khaoyai กับภายนอกที่ออกแบบให้เหมือนบ้านพักเมืองหนาวสไตล์นอร์ดิก เน้นสีขาวน้ำตาล โดดเด่นอยู่กลางลานหญ้าและทิวสนเขียวฉ่ำ มีหน้าต่างหลากทรงทำให้รู้เลยว่าภายในจะต้องมีมุมถ่ายรูปงาม ๆ รอเราอยู่
และก็เป็นอย่างที่คิด … เพราะหน้าต่างที่เห็นนอกจากจะช่วยให้แสงธรรมชาติลอดผ่านเข้ามาในร้านได้อย่างสวยสดงดงามแล้ว ตรงหน้าต่างทรงเหลี่ยมบานใหญ่ที่แสดงวิวด้านนอก เป็นต้นสนขึ้นกระจัดกระจายจัด ตัดกับสีฟ้าสดใส มีเสน่ห์น่าดึงดูดดั่งภาพศิลปะที่แขวนอยู่ในมิวเซียม จนน่าเอาตัวเองเข้าไปร่วมเฟรม ถือเป็นจุดถ่ายภาพที่ไม่ควรพลาด
เมนูของทางร้านตอนนี้มีแต่เครื่องดื่มยังไม่มีขนมอะไร เราเลยลองสั่ง Dark Cocoa มาดูปรากฏว่าอร่อยจึ้งอยู่นะว่าไป.. มันเข้มข้นหอมกลิ่นช็อคโกแลต แถมยังท๊อปด้วยช็อคโกแลตบดหยาบ สร้างเท็กเจอร์ให้เรามาเคี้ยวเล่น ช่วยตอกย้ำความ Milky เข้าไปอีก และเขายังมีเมนู non- coffee มากมายที่น่าสั่งโดยเฉพาะเหล่าผลไม้โซดาหน้าตาสวยสดใส.. สายนักดื่มรสหวานอมเปรี้ยวไม่ควรพลาดเลย
สำหรับเราคิดว่า Robinhood Travel คงจะเป็นอีกตัวเลือกในอนาคตอันใกล้ที่น่าสนใจกับผู้ประกอบการ เพราะเค้าเป็นอีกหนึ่งแอปที่ถูกพัฒนามาเพื่อช่วยรักษาผลประโยชน์อย่างแท้จริง แถมที่พักขนาดเล็กจนไปถึงขนาดใหญ่ก็สามารถเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ได้ง่าย ๆ และนอกจากผู้ประกอบการแล้วจากที่เราลองศึกษา แอปเขาดูเข้าถึงง่ายไม่ซับซ้อน ถือเป็นอีกช่องทางที่จะทำให้การหาที่พักในอนาคตของเราง่ายดายขึ้น คุ้มค่าขึ้น งานนี้บอกได้เลยว่าเรียกว่าคุ้มทั้งผู้ประกอบการ และคุ้มทั้งนักเดินทางอย่างเราสุด ๆ
มาเขาใหญ่ทีไรเวลาก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก ต้องกล่าวอำลาบ้านหลังที่สองไปอีกครั้ง พร้อมกับความรู้สึกดี ๆ จากการได้มาค้นพบสิ่งใหม่ ตั้งแต่คาเฟ่ ที่ท่องเที่ยวรีโนเวทใหม่ รับรู้ถึงแอปพลิเคชั่นใหม่ ๆ ทุกอย่างมีการพัฒนาให้ดีขึ้น จนเรารู้สึกตกหลุมรักเขาใหญ่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เดี๋ยวรอบหน้าถ้ามีอะไรมาอัพเดทอีก เราจะรีบมาเล่าให้ฟังนะ 🧡
