ฮ๊ายยยยเพื่อน ๆ .. อยู่บ้านจนเบื่อจนเปื่อยกันหรือยัง??
วันนี้ขอให้ทุกคนลุกขึ้นยืน วอร์มร่างกาย สะบัดแข้งสะบัดขาให้พร้อม… เพราะเราจะพาไปเดินเที่ยวย่านพระนคร เมืองเก่าของกรุงเทพฯ กันแบบอินไซท์ เดินเบิร์นกันให้ขาเรียว เดินเชิดให้คนมองเหลียว เรียกว่าถ่ายรูปแค่วันเดียว แต่ลงโซเชียลได้ถึงกลางปี กับร้านเก่าแก่ระดับตำนาน อัพเดทคาเฟ่ใหม่ ๆ พร้อมเสพงานศิลป์ให้สมองปลอดโปร่ง และตามล่าหาไอจีสปอตไว้ลงสตอรี่รัว ๆ ประหนึ่งเรียลริตี้โชว์กันไปเลย
ด้วยความหลากหลายของย่านนี้ ทำให้สายโซเชียลอย่างเราสามารถสร้างคอนเท้นท์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง หรือวีดิโอ ทำอะไรออกมาก็ปังแน่นอน!! แล้วยิ่งถ้าทุกคนมีกล้องตัวจิ๋ว ฟังก์ชั่นแจ๋วอย่าง Canon EOS M50 Mark II ก็ยิ่งหายห่วง เพราะรุ่นนี้เขาอัพเดทฟีดเจอร์สำหรับนักรีวิวมาแบบเน้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการโฟกัสที่ว่องไว และแม่นยำขึ้นด้วย Eye Detection AF, ปรับมุมมองการถ่ายได้สบายด้วย LCD หมุนได้, ถ่ายวิดีโอแนวตั้ง อัพโหลดไฟล์ผ่าน wi-fi ได้อย่างรวดเร็ว งานนี้ไม่ว่าจะสาย Blogger หรือ Vlogger ได้ลองใช้ต้องเลิฟแน่นอน สำหรับความดีงามต่าง ๆ เราขอเล่าผ่าน 7 โลเคชั่น ที่จะพาตะลอนกันวันนี้
001 On Lok Yun (ออน ล๊อก หยุ่น)
เร่ิมต้นวันเดย์ทริปกันแต่เช้าตรู่ เพื่อมาเป็นคิวแรก ๆ ของร้านอาหารเช้าระดับตำนาน ออน ล๊อก หยุ่น ที่คอยเสิร์ฟอาหารเช้าแก่เหล่าสภากาแฟทั้งหลายมายาวนานกว่า 80 ปี ขนาดร้านแค่ 1 คูหา แต่ด้วยทรงตึกที่โดดเด่น คงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ขัดกับตึกสมัยใหม่รอบ ๆ ทำให้เป็นที่สนใจของผู้คนที่ผ่านไปมา การตกแต่งตั้งแต่ป้ายร้าน เฟอร์นิเจอร์ ยันจานชามที่เสิร์ฟ ก็ยังเป็นแบบดั้งเดิม ตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า จนทำให้ร้านออน ล๊อก หยุ่นกลายเป็นเอกลักษณ์ของย่านนี้ไปโดยปริยาย
เมนูของทางร้านเป็นอาหารเช้าง่าย ๆ ที่ขายตั้งแต่สมัยก่อน เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน ไข่ดาว ขนมปังทาเนย ชา กาแฟโบราณ แต่ทีเด็ดของร้านที่เราขาดไม่ได้เลยคือซอสพริก ไม่รู้ทำไมไส้กรอก ไข่ดาวจิ้มซอสพริกของที่นี่ถึงอร่อยกว่าทำกินเองที่บ้าน มันออกหอม ๆ กลิ่นรมควัน และตัวซอสไม่มีรสหวานเหมือนทั่วไป คิดว่าถ้าทุกคนได้มาลองแล้วต้องติดใจกันแน่ ๆ
002 ปากคลองตลาด
ที่ที่เรามาเดินหาซื้อดอกไม้แทบทุกวันสำคัญและวาระพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่ วันเกิด วันวาเลนไทน์ วันครบรอบ ฯลฯ บางทีรู้สึกติส ๆ อยากซื้อดอกไม้ง่าย ๆ ไปจัดเองไว้ในห้อง บอกเลยว่าปากคลองตลาดนี่แหละ เด็ดสุด ราคาดีสุด เพราะเขามีดอกไม้ทุกประเภท หลายระดับ ทั้งพันธุ์เมืองร้อน เมืองหนาว ราคาหลักสิบไปถึงหลักพัน คนขายความรู้แน่น อีกทั้งความเก่าแก่ของร้านค้า บรรยากาศจอแจวุ่นวาย ดูมีชีวิตชีวาตลอดทั้งเส้นถนนเดินเพลินจนเราแอบได้ดอกไม้ช่อเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านมาด้วย
และแม้ว่าเราจะเดินซื้อดอกไม้จนของเต็มมือ แต่ก็ยังถ่ายรูปได้นะจ๊ะ เพราะเจ้า Canon EOS M50 Mark II มีขนาดกระทัดรัดน่ารัก น้ำหนักเบา โฟกัสไวแม้จะใช้เลนส์ระยะกว้างหรือแคบ ก็ประมวลผลแบบอัจฉริยะได้ตรงใจเราตลอด จัดหน้าชัดหลังเบลอให้เอง ทำให้เราสามารถถือถ่ายมือเดียวได้ ภาพไม่สั่น แขนไม่เมื่อย และถ้าถามถึงคุณภาพของรูปที่ได้คือ เดปดีงาม 100 คะแนนเต็ม สีสดใส โบเก้ละลายได้ตะมุตะมิมาก พอเอาภาพมาแต่งต่อแล้วเรียกได้ว่ารักหมดใจค่ะซิส
003 Mother Roaster Coffee
ร้านกาแฟคุณแม่ที่โด่งดังจากย่านตลาดน้อย สู่ย่านประตูผีอย่างสมบูรณ์แบบ ทุกอย่างลงตัวเหมาะสม ตั้งแต่โครงตึกสุดคาสสิก ที่ยังมีร่องรอยแห่งกาลเวลา การตกแต่งภายในง่าย ๆ แค่บาร์เล็ก ๆ ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยที่นั่งแบบยาว หันหน้าเข้ากลางร้านทั้งหมด และที่ขาดไม่ได้เลย คือซิกเนอเจอร์ของร้านบาริสต้ารุ่นแม่อายุกว่า 70 ปี พร้อมคุณลุงและคุณป้าสุดคูล แต่งตัววัยรุ่น ชงกาแฟกันอย่างกระฉับกระเฉงเข้าขากันดี คอยแนะนำเมล็ดกาแฟได้แบบรู้ลึกรู้จริง ว่างเมื่อไหร่จะหันมาคุยกับลูกค้าเป็นระยะ ๆ ให้ฟีลคุยง่ายน่าร๊ากกก..
แค่เปิดประตูเข้ามาเราก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากกลิ่นอโรม่าของกาแฟหลากชนิด ที่นี่เขามีเมล็ดให้เราเลือกลองกว่า 30 ชนิดเลยล่ะ ถ้าเลือกไม่ถูกก็บอกคุณแม่ได้ ว่าชอบกาแฟรสชาติแบบไหน แกจะเลือกให้เราเสร็จสรรพ มีทั้งเมล็ดไทย-เทศ ทำได้ทั้งแบบ coffee Machine และ Slow bar (Drip, Syphon) รีเควสตามรสสัมผัสที่เราอยากได้เลย
ในส่วนของเครื่องดื่มแบ่งออกเป็นสีดำ (กาแฟดำแบบต่าง ๆ), สโลว์บาร์ (ชงแบบดริป, ไซฟอน), สีขาว (กาแฟผสมนม) และสีสัน(กาแฟผสมผลไม้) จากที่ลองชิมทางเราประทับใจเมนูสโลว์บาร์ แฮนด์ดริปวิธไอซ์ที่สุด เพราะเป็นคนชอบดื่มกาแฟที่เน้นกลิ่นและความละมุนมากกว่าความขม ปลายของกาแฟดริปที่นี่จะเปรี้ยวนิด ๆ ให้ความสดชื่น อ่อ.. ถ้ามาสั่งก็ต้องใจเย็น ๆ ก่อนหน่อยนะ เพราะคุณแม่เขาตั้งใจทำทุกขั้นตอนจริง ๆ อย่างไซฟอนพอทำแล้วเขาจะรอให้อุณภูมิกาแฟเย็นลงนิดหน่อยแล้วค่อยเสิร์ฟ ทำให้แต่ละแก้วใช้เวลาชงนานกว่าปกติ ครั้งหน้ามาใหม่จะลองโหมดสีสันด้วย เอาให้ครบ
004 ตลาดน้อย
ถ้าบอกว่ามาเดินถ่ายรูปเล่นย่านกรุงเก่า ไม่มาที่ตลาดน้อยก็เหมือนมาไม่ถึงแหละ เพราะที่นี่มีมุมถ่ายรูปน่ารัก ๆ แอบซ่อนอยู่เต็มไปหมด ไหนจะบรรดาตึกเก่าที่เป็นแบบ นีโอคลาสสิค อายุเป็นร้อย ๆ ปี ที่บางร้านได้รีโนเวทด้านในให้เป็นคาเฟ่ ร้านขายของน่ารัก ๆ ตามกำแพงมีสตีทอาร์ต ให้ถ่ายรูปเล่นตลอดทาง เดินไปเรื่อย ๆ เราก็จะเห็นวิถีชีวิตของชุมชนชาวจีน ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ แน่นอนว่าแม้เวลาจะผ่านมานานแล้ว แต่กลิ่นอายเหล่านั้นยังคงมีอยู่ให้เราได้สัมผัส
ในส่วนของจุดนี้เราต้องการถ่ายภาพจังหวะสตรีท ๆ เผลอ ๆ หน่อยเลยเข้าโหมดวิดีโอ ความละเอียด 4K ถ่ายยาว ๆ แล้วมาแคปทีหลัง คุณภาพของภาพที่แคปมาดีงามจนเหมือนเซ็ทถ่ายเลยล่ะ
เนี้ย.. ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนท่าไหนก็ถือถ่ายได้สบาย เพราะตัวเครื่องขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือนิดเดียว แถมน้ำหนักของตัวกล้องเพียงแค่ 350 กรัมเท่านั้น ถือเซลฟี่หมุนหน้าจอให้เราเห็นหน้าตัวเองได้อย่างชัดเจน โฟกัสคมสีเนียนสวยจนเพื่อนสาวแย่งไปถ่ายเล่นไม่หยุดเลยล่ะ
นอกจากสตรีทอาร์ตแล้วยังมีอีก 2 จุดไฮไลท์สุดป๊อป ที่ถ่ายลงไอจีกี่ครั้งยอดไลก์ก็พุ่งกระฉูดทุกที นั่นก็คือที่โซว เฮง ไถ่ หรือบ้านดวงตะวัน คฤหาสน์จีนโบราณอายุกว่า 220 ปี ออกแบบแบบจีนฮกเกี้ยนแต้จิ๋ว ที่ปัจจุบันผันเป็นโรงเรียนสอนดำน้ำ และขายขนมเครื่องดื่ม ส่วนอีกจุดคือ รถเต่าคันส้มขาวที่ผุกร่อน แต่ด้วยการวาง position ตรงกำแพงสีฟ้าเก่า ๆ เห็นเนื้ออิฐสีส้มเผยออกมา พร้อมต้มไม้สีเขียวสดใส กลายเป็นคู่สีที่เข้ากัน บวกกับหน้าต่างไม้ เมื่อแสงสาดเป็นแสงเงาเห็นเท็กเจอร์ความเก่าแก่ได้ชัดเจน ทำให้ตรงนี้เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ตลาดน้อยไปโดยปริยาย
005 Patina Bangkok
มาถึงตลาดน้อยไม่ฮอปปิ้งคาเฟ่สักหน่อยคงผิดจริตเราน่าดู วันนี้เราพามาคาเฟ่ร้านใหม่ Patina Bangkok ซ่อนตัวอยู่ในตึกพาณิชย์ย่านค้าขายของคนจีนอายุกว่าร้อยปี เรียกได้ว่าแค่ตกแต่งให้ดูทันสมัยขึ้นด้วยเฟอนิเจอร์ และรีโนเวทบางส่วนอีกเล็กน้อยให้ดูแข็งแรงขึ้นเท่านั้น ส่วนที่เหลือแทบจะเป็นโครงเก่าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเสา กำแพง บันไดต่าง ๆ เรายังเห็นเท็กเจอร์การถูกกัดเซาะตามกาลเวลาอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าเป็นเสน่ห์ของร้าน ที่เราเดินไปมุมไหนก็เหมือนได้ย้อนเวลาไปเห็นตลาดน้อยสมัยก่อนเลยล่ะ
ความโดดเด่นของที่นี่นอกจากสถาปัตยกรรมแล้ว เรื่องกาแฟก็ไม่เป็นสองรองใคร ด้วยเมนู Dirty ความนุ่มของนมเย็น ๆ เข้ากับเอสเปรซโซ่ช็อตเข้มข้นได้อย่างลงตัว เมื่อได้ทานตัดกับชีสเค้กรสเปรี้ยวหวานก็ยิ่งเข้ากัน หรือเคียงกับช็อกโกแล็ตเข้มข้นหวานหน่อย ๆ ก็อร่อยถูกปาก เหมาะกับช่วงบ่ายแก่ ๆ แบบนี้เป็นที่สุด
ที่พลาดไม่ได้สำหรับคาเฟ่ฮอปเปอร์อย่างเราคือ การหามุมถ่ายอาหารให้ดูชิคเก๋ที่สุด ซึ่งกล้อง Canon ตัวนี้ตอบโจทย์ข้อนี้ได้แบบผ่านฉลุย เพราะเขาสามารถหมุนจอ LCD ได้ถึง 270 องศา ให้เรามองภาพก่อนถ่ายได้สะดวกขึ้น พร้อมทั้งการโฟกัสโดยใช้เพียงปลานิ้ว จิ้มไปที่หน้าจอได้เลย ด้วยน้ำหนักที่เบาก็ยิ่งสะดวกในการถือมือเดียวด้วย ทำให้เราได้ภาพสวย ๆ ในหลายมุมมอง ตรงนี้บอกได้คำเดียวว่าเลิศ
006 Feng Zhu
ร้านเล็ก ๆ ที่เหมือนยกฮ่องกงมาวางไว้ใจกลางกรุงฯ ยังไงอย่างงั้นเลยล่ะ ร้านเป็นแบบ Stand alone ตรงทางเข้าท่าเรือสี่พระยา ด้วยการออกแบบให้ฟีลเหมือนหลุดมาจากหนังของหว่องกาไว มีหนังสือพิมพ์จีนแปะ ป้ายไฟนีออนอักษรจีน ประตูไม้ กระเบื้องสีเขียวหยก เฟอร์นิเจอร์ฟีลเหมือนร้านสตรีทฟู๊ดในฮ่องกง ทำไห้ไม่ว่าจะยกกล้องถ่ายมุมไหน รูปที่ได้ก็ปังทุกช็อตจริง ๆ
Feng Zhu ขายเฉพาะเมนูเกี๊ยวซ่าหน้าเปิด เกี๊ยวไส้หมูแน่น ๆ ให้เลือกถึง 5 รสชาติ สูตรดั้งเดิม สามก๊ก(รากผักชี กระเทียม พริกไทย) หม่าล่า แกงฮังเล เห็ดห้าอย่าง และมีท๊อปปิ้งให้เลือกทั้งไข่กุ้ง ชีส ผัก ไข่เค็ม ถ้าใครเบื่อเกี๊ยวแบบเดิม ๆ ที่นี่มอบความวาไรตี้ให้ได้แน่นอน
007 Art Gallery @River City
ร้านกาแฟชิค ๆ ไปแล้ว จุดถ่ายภาพคูล ๆ ไปแล้ว มาแวะปิดท้ายทริปด้วยการเดินดูอาร์ตแกลให้สมมงคนเก๋อย่างเรากันสักหน่อย ที่ River City อาคารสวยริมน้ำที่คอยจัดนิทรรศการหมุนดเวียนอยู่เรื่อย ๆ ช่วงนี้เขามีงาน Venus in the shell งานอาร์ตสีสันจัดจ้าน รายละเอียดดีงาม นำเสนอธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ที่ไม่สมบูรณ์พร้อม มีหลายแง่มุม หลายอารมณ์ สิ่งที่ต้องเจอทั้งดีและไม่ดี ความสวยงามและมืดมนทุกอย่างล้วนเป็นส่วนประกอบของชีวิตทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับการตีความหมายของแต่ละคน พอเราเข้าไปดูนี่รู้สึกว้าวมากก.. ทุกห้องจัดแสดงมีการคุมธีมตั้งแต่พื้น ผนัง ยันไฟที่ส่องขับกับภาพศิลปะได้อย่างสวยงาม และลงตัว
สำหรับการถ่ายภาพที่ดีในทุกสภาพแสง เราก็ต้องขอยกให้ Canon EOS M50 Mark II ขึ้นแท่นกล้องตัวเล็ก แต่คุณภาพมือโปรจริง ๆ ขนาดอยู่ในที่มืด ยังสามารถเก็บรายละเอียดของงานศิลปะได้อย่างสวยงาม แถมแสงและเงายังไม่ตัดกันจนเกินไป พร้อมโฟกัสที่แม่นยำแม้ในที่แสงน้อย ภาพที่ได้เลยดูนวลสวยและกลมกล่อม ในห้องที่มีสีสันมากมายจนลายตา เขาก็สามารถแยกเฉดสีออกมาได้อย่างชัดเจน สีไม่เพี้ยน ง่ายต่อการแต่งภาพอีกด้วย สำหรับคนที่ชอบเสพงานอาร์ต อยากหามุมถ่ายรูปปัง ๆ ถ้าไม่ได้มาชมที่นี่ถือว่าพลาดมาก เพราะงานนี้เขาจัดถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 นี่เท่านั้นนะฮะ
นอกจากความสวยงามที่เห็นจากภาพที่เราเอามาฝากแล้ว สำหรับสาย Vlog ถ่ายวิดีโอเขาก็มีฟังก์ชั่นใส่มาให้ไม่น้อยหน้าเลย ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K, การไลฟ์สด สตรีมมิ่งไปที่ยูทูปได้โดยตรง, ซูมดิจิทัลได้3-10เท่าโดยคุณภาพไฟล์ยังคมชัด, การถ่ายวิดีโอแนวตั้ง เรียกว่ามีครบจบที่เดียวสำหรับคนรักการถ่าย
เห็นแบบนี้.. เชื่อว่าเพื่อน ๆ ก็คงเริ่มอยากออกมาเดินโลดแล่น ตามรอยกันบ้างแล้วล่ะ และมันคงจะดีมาก ๆ ถ้าเรามีเพื่อนร่วมทางมือโปรมาเคียงคู่ อย่างที่เรามี Canon EOS M50 Mark II ช่วยเก็บภาพทริปเดินเที่ยวย่านเมืองเก่ามาทั้งวัน เรารู้สึกว่ากล้องตัวนี้ช่วยให้เราปรับมุมในการถ่ายภาพได้มากขึ้น ถือถ่ายสะดวก ไม่หนักไม่เหนื่อย และยิ่งการโฟกัสที่ไวเราเลยไม่พลาดทุกจังหวะที่ต้องการ ดีขนาดนี้ของมันต้องมีแล้วล่ะ ไม่รีบไปซื้อระวังจะพลาดช็อตเด็ดเวลาไปออกทริปนะ