รีวิวภูเก็ต :: The Perfect 3 Days in Phuket Itinerary with Cocomax

กระพริบตาสองทีก็เข้าสู่ปลายปีแบบงง ๆ กับช่วงไฮซีซั่นที่มีวันหยุดยาวแน่นที่สุด อากาศดีที่สุด น่าเที่ยวที่สุด ดังนั้นคงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเอฟชุดใหม่ จัดพร็อพให้แน่น ไลน์หาเพื่อน กดจองตั๋ว แล้วบินไปรัวชัตเตอร์กันที่ ภูเก็ต ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นจังหวัดนี้ … อีกแล้ว คำตอบก็คือมาภูเก็ตที่เดียว จะเที่ยวแบบมินิมอลคาเฟ่ฮอปปิ้งก็ปัง จะเที่ยวมันส์ ๆ กิจกรรมเน้น ๆ ก็เพลิน จะเน้นกินทำน้ำหนักก็อร่อยฟินจุก ๆ จะตะลอนทะเลทั้งวันให้ผิวแทนก็เผ็ช หรือจะเที่ยวแบบเก๋ ๆ ใช้ชีวิตลักซ์ชัวรีบนเกาะส่วนตัวก็ตอบโจทย์ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าตามรอย 3 วัน 2 คืน ใน 9 โลเคชั่น ของเรารอบนี้ การันตีว่าพวกเธอจะมีรูปดี ๆ ลงยาวถึงต้นปี 2021 แน่นอนจ้า

สับขาขึ้นเครื่องพร้อมกระเป๋าสัมภาระที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหน้าหนาวแบบไทย ๆ มันเป็นยังไง แดดต้องแรง ฟ้าต้องใส แต่ลมหนาวหายไปไหนน้องอยากรู้ งานนี้จะร้อนกี่ดีกรีก็สบายใจได้ เพราะเรามี โคโค่แม็ก น้ำมะพร้าวแท้ 100% เป็นเพื่อนร่วมทาง จะขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นเขา ลงทะเลก็หายห่วงสมสโลแกนที่ว่า สดชื่นเต็มที่ สุขภาพดีเต็มแม็ก เพราะภายในขวดขนาดพอดีมือสีขาวเขียวนี้บรรจุน้ำมะพร้าวสดแท้จากธรรมชาติถึง 1 ลูกครึ่ง โดยไม่แต่งสี ไม่มีไขมัน ไม่มีคอเลสเตอรอล ไม่เติมน้ำตาล แถมไม่ใส่วัตถุกันเสีย ให้เราได้สดชื่นไปกับรสชาติน้ำมะพร้าวที่อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินแบบเต็มแม็กได้ง่าย ๆ ทุกที่ทั่วไทย บอกเลยว่าจะกี่ทริป กี่ที่ ก็ต้องมีโคโค่แม็กนะคะคุณพี่

001 Coconuts Cafe’

แลนด์ดิ้งถึงภูเก็ตปุ๊บเราก็รีบเปิดแมพหาทางไปร้าน Coconuts Cafe’ อย่างว่องไว เพราะร่างกายต้องการความสดชื่น และโซเชียลต้องการภาพถ่ายปั๊วะ ๆ ไว้โพสต์พร้อมแคปชั่นเก๋ ๆ one fine day at Phuket ที่นี่เป็นคาเฟ่ขนาดเล็ก ตัวร้านเป็นบ้านปูนสีขาวขนาดกะทัดรัด ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และงานหวายเป็นหลัก แต่น่ารักกลางสวนมะพร้าวต้นสูงที่เหมาะกับการแกล้งเดินเล่น ๆ ถ่ายรูปเผลอ ๆ หรือจะหิ้วจัดเซ็ทปิกนิกของทางร้านที่มาพร้อมเก้าอี้หวายและร่มขาวมาแอคติ้งจิบชายามบ่ายก็เก๋เว่อร์

เดินเล่น ถ่ายรูป แอคติ้งจนเพื่อนเริ่มชมว่าสวยอยู่ ๆ ได้อยู่ ๆ ก็ได้เวลาหามุมนั่งชิลมองวิวสวนมะพร้าวผ่านผ้าม่านลูกไม้สีขาว ฟังเพลงคลาสสิคที่ทางร้านเปิดคลอเบา ๆ ยกแก้วชาขึ้นมาจิบคู่กับเบเกอร์รี่โฮมเมดที่ทำสดใหม่ออกมาจากเตาแบบกรุ่น ๆ พร้อมกับกลิ่นเนยหอม ๆ ซึ่งก็เลิศไปหมดทั้งบราวนี่ ชีสเค้ก และสโคน เรียกได้ว่าเป็นการปลุกความสดชื่นให้ตื่นหลังลงเครื่องได้ดีจริง ๆ

002 Lay Cafe’

อันยองฮาเซโยออนนี่ ที่นี่ปูซานไม่ใช่ภูเก็ต เอ้ย! ที่นี่ภูเก็ตไม่ใช่ปูซาน อีกหนึ่งคาเฟ่เล็ก ๆ ขาว ๆ คลีน ๆ น่ารักสไตล์เกาหลี มินิมอล ที่แค่แรกเห็นก็ทำเอาใจบางพร้อมเผลออุทานว่าโซคิ้วท์ในทันที ตัวร้านอยู่ริมทะเลในหมู่บ้านชาวประมง เป็นบ้านหลังเล็กริมสุดทำให้สามารถมองเห็นวิวทะเลได้แบบพาโนราม่า โดยความน่ารักของร้านเราขอยกให้มุมกระจกบานใหญ่ที่เค้าตั้งใจหันออกไปให้เราชมวิวทะเลได้เต็ม ๆ สองตา ซึ่งมุมนี้แหละเธอมันได้ฟีลลิ่งปูซานมาก ๆ บวกกับเพลง K-pop ที่เปิดเบา ๆ ด้วยแล้ว ยิ่งบิ้วอารมณ์ให้ลืมตัวจนเผลอคิดว่าตัวอยู่เกาหลีหลายรอบเลยละ

เปลี่ยนชุด เติมหน้า แล้วฉีกยิ้มให้กว้างสุด แล้วก็ต้องไม่พลาดกับมุมไฮไลท์ที่จะนั่งเผลอ ๆ มองทะเลอยู่ข้างใน หรือจะแอ๊บสดใสท้าแดดอยู่ข้างนอกก็ปังกรุบ เรียกไลค์ได้อีกหนึ่งจุดอย่างแน่นอน นอกจากวิวสวย ๆ แล้ว ขนมและเครื่องดื่มของที่นี่ก็ดีไม่เบา มีความเกามากแม่ ทั้ง Burnt Cheesecake, Caramel Macchiato หรือจะ Black Orange Coffee ก็ดีงามในราคาหลักสิบวิวหลักหมื่นจนเราอยากจะตะโกนว่า ซารังเฮโย ดัง ๆ เลยทีเดียว!!!

003 Yanui Beach

จัดของหวานและกาแฟกันไปสองกรุบ ขอพักความหวานดึงน้ำตาลให้ลงมานิสนึงกับการเดินย่อยถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยที่ริม หาดยะนุ้ย ตามรอยซีรี่ย์สุดฮอต แปลรักฉันด้วยใจเธอ จุดเด่นของที่นี่คือหาดจะถูกแบ่งเป็นสองฝั่ง ตรงกลางเป็นเกาะเล็ก ๆ มีหาดทรายขนาบสองข้าง ซึ่งช่วงหน้าหนาวแบบนี้ทะเลฝั่งอันดามันเรียกได้ว่าน้ำใสสวยปังราวกับกระจก จะแวะถ่ายรูปแบบชิค ๆ หรือนั่งปิกนิกแบบเก๋ ๆ หรือเดินลงน้ำแบบเท่ ๆ ก็เป๊ะปังอลังการเว่อร์

สะบัดผ้าหมุนตัวหามุมถ่ายรูปกลางแสงแดดเปรี้ยง ๆ จนชักจะเวียนหัว เลยขอหยิบเครื่องดื่มเพื่อนซี้คู่ใจ Cocomax น้ำมะพร้าวแท้ 100% มาดื่มเพิ่มความสดชื่น เพิ่มเกลือแร่ธรรมชาติ เพิ่มวิตามินที่เค้าให้มาแน่น ๆ เต็มขวด ไม่ว่าจะเป็นโพแทสเซียม แมงกานิส ฟอสฟอรัส แคลเซี่ยม แมกนีเซียม และโซเดียม จะได้มีแรงหามุมถ่ายรูป โพสท่าสวย ๆ ต่อไปแบบไม่ต้องกลัวกระหายกลางแดดจ้า งานนี้ใครกระหายมากก็ดื่มมาก กระหายน้อยก็ดื่มน้อย ได้ตามอัธยาศัยไม่ต้องกลัวหมด เพราะ Cocomax เย็น ๆ ฉ่ำ ๆ เค้าหาซื้อง่ายได้ที่ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าทั่วไปไงล่ะจ้ะ

004 Black Rock View Point

อีกหนึ่งสถานที่ถ่ายรูปสุดป๊อบที่ต้องมาสักครั้ง นั่นก็คือ จุดชมวิวผาหินดำ ที่นี่เราสามารถชมวิวทะเลอันดามันของภูเก็ตได้แบบสุดลูกหูลูกตา แม้ว่าการเดินทางอาจจะต้องขับรถผ่านเส้นทางขรุขระ แล้วเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 200 เมตร แต่ก็นับว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าอยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะได้รูปที่สวยปังแล้ว สายลมอ่อน ๆ ที่ปราศจาก PM 2.5 ก็เปิดโอกาสให้เราได้หายใจจนเต็มปอดแบบที่ทำไม่ได้ที่กรุงเทพอย่างเต็มที่

จริง ๆ แล้วการหายใจแบบเต็มปอดเป็นเพียงเรื่องรอง เพราะเรื่องหลักของเรานั้นคือการถ่ายรูป ถ่ายรูป แล้วก็ถ่ายรูป ซึ่งต่อให้ทางจะยากลำบากแค่ไหนเราก็ไม่เคยหวั่นเกรง ขอขนพร็อพจัดเต็มทั้งขนม อาหาร ตระกร้าหวาย ผ้าปูพื้น และ Cocomax มานั่งปิคนิคมองวิวที่โคตรจะปังปุริเย่ ยิ่งถ้าวันไหนแต้มบุญสูง … ฟ้าเปิดอากาศดี มองด้านซ้ายก็จะเจออ่าวฉลอง เกาะเฮ เกาะโหลน มองตรง ๆ แบบเฉียงองศาลงไปข้างล่าง ก็จะเจอแหลมพรหมเทพ หาดยะนุ้ย จุดชมวิวกังหันลม หาดในหาน แม้แต่เกาะแก้วพิสดารหรือเกาะไม้ท่อนก็มีมาโผล่ให้เห็นตรงหน้า แบบอเมซิ่งไทยแลนด์แดนไข่มุกอันดามันเว่อร์

005 Ko Ben Khao Tom Haeng Phuket

แม้จะจัดของกินขึ้นไปชมวิวแบบจุก ๆ แต่ทุกครั้งที่เดินทางท่องเที่ยวกระเพาะของเราก็ไม่เคยจะเต็มง่าย ๆ ก่อนกลับโรงแรมเลยขอแวะอีกหนึ่งร้านดังในตำนานที่ใครมาภูเก็ตแล้วจะพลาดไม่ได้ ข้าวต้มแห้งโกเบนซ์ ร้านข้าวต้มแห้งที่ส่งต่อความอร่อยมายาวนานกว่า 16 ปี และมีคนรอคิวยาวเหยียดตั้งแต่ร้านเปิดแทบทุกวัน ใครยังไม่เคยมาลอง … ทางเราขอแนะนำให้สั่งข้าวต้มแห้งใส่ทุกอย่าง เพิ่มหมูกรอบอีกสักจาน พอทานคู่กับน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวกันเป็นวัน ๆ แล้ว รับรองว่าฟิน … จบวันแรกได้ปังปุริเย่แน่นอน

006 Juan Hiang Dimsum

ลืมตาตื่นปุ๊บ ก็ได้ยินเสียงท้องร้องว่าติ่มซำ ขนมจีบ บะกุ๊ดเต๋ ขนาดจิ้งจกทักเรายังเชื่อ แล้วท้องร้องขนาดนี้จะไปเหลือหรอ เช้านี้เลยไปจัดติ่มซำอายุกว่า 100 ปี ที่ส่งต่อความอร่อยสไตล์กวางตุ้งมาถึงสี่รุ่น ณ ร้านจ่วนเฮี้ยงติ่มซำ ซึ่งความพิเศษของติ่มซำทางใต้คือเค้าจะไม่ได้กินกับซอสเปรี้ยวแบบภาคกลาง แต่จะทานคู่กับซอสสีส้ม ๆ ที่ดูคล้ายกับซอสพริกสูตรเด็ดของแต่ละร้านแทน สั่งกันไปแบบเพลิน ๆ ไม่นานเกินรอ ทุกอย่างก็มาเรียงรายตรงหน้า ก่อนจะตามด้วยเสียงชัตเตอร์แบบเบา ๆ ประมาณสองสามครั้งตามระดับความหิว และเงียบลงเปลี่ยนเป็นเสียงเคี้ยวกรุบกรับแทนแบบต่อเนื่อง

007 Phuket Old Town

อีกหนึ่งย่านที่มาซ้ำแล้วซ้ำอีก มาได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อเลย ก็คือ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ถนนทั้งสายเรียงรายไปด้วยตึกรามบ้านช่องสไตล์ชิโนโปรตุกีส ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบจีนและแบบยุโรปไว้อย่างลงตัว ทำให้ตลอดทางเดินของย่านเมืองเก่าอันไร้สายไฟระเกะระกะนี้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และเข้ากันได้ดีไม่ว่าจะเป็นชุดบ๊ะบ๊าย๊ะย๊า ชุดพื้นเมืองของทางภูเก็ต ชุดเดรสฟูฟ่องสไตล์ฝรั่ง หรือชุดมินิมอลแต่ดูแพงสไตล์เกาหลี ดังนั้นมากี่ทีก็ถ่ายรูปดี ๆ แบบไม่มีซ้ำ

ยิ่งช่วงหลัง ๆ มานี้ ตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ ของย่านรมณีย์ หรือแม้แต่ร้านรวงก็ยังช่วยเพิ่มสีสันให้กับถนนเส้นนี้ด้วยสตรีทอาร์ต ที่เล่าเรื่องราวพื้นเมือง ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เราชอบมาเดินถ่ายรูปและหามุมใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ความน่าชื่นชมอีกอย่างหนึ่งของชาวเมืองภูเก็ตที่นอกจากจะรักษาสมบัติที่มีมาแต่ดั้งเดิมแล้ว ก็คือการพัฒนาสถานที่ต่าง ๆให้เป็นที่ท่องเที่ยว ให้น่าเยี่ยมชมขึ้นอยู่เสมอ และครั้งนี้เราจะพาไปเยี่ยมชม หงอคาซี่ คอมมูนิตี้ที่มีครบเครื่องทั้งอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น ที่ถูกบรรจุไว้ในร้านเล็ก ๆ บนอาคารเก่าแก่สองชั้น ให้สาวสาวได้ช้อปปิ้งด้วย ถ่ายรูปด้วย จิบเครื่องดื่มพร้อมชมวิวเมืองเก่าแบบ Original ของเมืองภูเก็ตกันแบบเพลิน ๆ ด้วย แถมยังมีแกลเลอรี่เล็ก ๆ ที่คนรักกล้องฟิล์มต้องกรี๊ดกับภาพสุดคลาสสิคในที่เดียวอีกด้วย

ต่อให้ถ่ายรูปเยอะมากแค่ไหน แต่ความเก๋ของย่านเมืองเก่าก็ยังไม่หมดลงง่าย ๆ เพราะหากเดินลัดเลาะจากถนนถลางมายังถนนพังงา เราก็จะเจอกับอาคารเก่าแก่สีครีมไข่ไก่ แลนด์มาร์คที่แสนจะสะดุดตาอีกจุดหนึ่งของย่านเมืองเก่า ซึ่งก็คือ หอนาฬิกาพรหมเทพ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีอายุเก่าแก่เกินกว่า 100 ปี เป็นอีกจุดที่คนชอบถ่ายรูปพลาดไม่ได้ เพราะจะถ่ายแบบเผลอ หรือจิกกล้องแบบตั้งใจ ก็สวยฮอตทะลุปรอทตลอดเวลา

008 Three Monkeys Restaurant

ถ่ายรูปเสร็จเหลือบมองนาฬิกาก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงพอดิบพอดี กระเพาะอาหารก็อยากจะเริ่มทำงานอีกแล้วค่ะคุณขา ทางเราเลยขอเลี้ยวเข้าร้านอาหารสไตล์ทรอปปิคอลใจกลาป่าเขาสุดชิคเก๋ที่มีชื่อว่า Three Monkey Restaurant โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ที่เดียวกับ Hanuman World ที่เที่ยวยอดฮิตของสาย Adventure ตัวจริงเสียงจริงนั่นเอง

แม้บรรยากาศร้านจะทำให้เรานึกถึงบาหลี แต่อาหารที่เขาเสิร์ฟต้องบอกเลยว่าปักษ์ใต้แท้ ๆ หรอยแรงในทุก ๆ จาน ไม่ว่าจะเป็นกุ้งลงกา ที่จับเอากุ้งไซส์พอเหมาะมาผัดกับเครื่องยำรสชาติจัดจ้านสไตล์ต้มยำผัดแห้ง, หนุมานประสานกายที่ทางร้านเอาผักสดและใบเหมี่ยงมาต้มกับกะทิ เติมกุ้งสดทานคู่กับน้ำชุปหยำน้ำพริกของทางใต้ ก็ออกมาเป็นอีกหนึ่งจานที่เข้มข้นทานได้เรื่อย ๆ หรือจะเป็นหนุมานคลุกฝุ่น ที่ร่างจริงก็คือคั่วกลิ้งหมูรสร้อนแรง จัดจ้านจานเด็ดขนาดนี้พอได้ทานคู่กับ Cocomax น้ำมะพร้าวแท้ 100% ก็ยิ่งรู้สึกถึงความสดชื่น หอมหวาน ช่วยเสริมความอร่อยให้รสชาติของอาหารหรอยอย่างแรงขึ้นไปอีก

009 Coconuts Island

หลังจากตะลุยในเมืองกันมาหลายโลเคชั่น ก็ได้เวลานั่งเรือออกจากท่าเรือแหลมหิน แล้วไปหยุดอยู่ที่ เกาะมะพร้าว เกาะที่แสนเงียบสงบ โรแมนติก และวิวปังไม่ไหว เราเลือกพักพูลวิลล่าน้องใหม่สุดอันซีนอย่าง Island Escape by Burasiri ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเราหนีไปอยู่เกาะส่วนตัวสุดหรูหรา แบบว่าถ้ามากับแฟนก็คือหวานปานน้ำมะพร้าว มากับเพื่อนก็เฮฮาได้แบบจุก ๆ มากับครอบครัวก็สุดจะประทับใจ

ตอกย้ำความหรูหราตั้งแต่ก้าวแรกกันเลยแม่ เพราะเมื่อเราก้าวเท้าลงจากเรือเราก็จะพบกับ Host Villa ท่าทางน่ารักมายืนรอต้อนรับ เพื่อพาไปเช็คอินและแนะนำสถานที่ในทันที โดยช่วงนี้เค้าเป็นช่วง Pre-Opening ที่เปิดเพียง 15 หลัง 4 Room Types แต่ไม่ว่าจะ Type ไหนความเด็ดก็คือสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้จากทุกห้อง สำหรับ One Bedroom Pool Villa ของเราต้องบอกว่าดีมาก เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ชวนพักผ่อน แบบเห็นโซฟาก็อยากทิ้งตัวลงนั่ง เห็นเตียงก็อยากทิ้งตัวลงนอน เห็นอ่างก็อยากจะตีฟองนอนแช่ถ่ายรูป เห็นสระส่วนตัวก็พร้อมกระโจนใส่

แม้กิจกรรมในห้องจะน่าทำ แต่แสงยามเย็นที่กำลังอ่อนโยนเป็นมิตรต่อผิว และลมเย็น ๆ ที่โชยอ่อน ก็เหมือนเชิญชวนให้เราออกไปทำกิจกรรมนอกห้องที่มีให้ชิวท่ามกลางธรรมชาติและได้รูปแทบทุกมุม เย็นนี้เราเลยคว้า Stand Up Paddle Board และ Cocomax น้ำมะพร้าวแท้ 100% ออกไปชมสายน้ำและแสงแดด แบบได้รูปสวยด้วย สนุกด้วย และได้คืนความกระปรี้กระเปร่าด้วยในทีเดียว ทุกอย่างมันดีมาก ดีมากจนลืมเวลาเลยจริง ๆ

ทิ้งนาฬิกาไปแบบไม่ต้องสนใจใยดี เพราะเช้าวันนี้เรามีพระอาทิตย์มาปลุกถึงหน้าห้อง หลังจากนอนชมแสงอาทิตย์ยามเช้า ก็ได้เวลาที่เราจะเติมพลังให้กับร่างกายของตัวเองด้วย Floating Breakfast เก๋ ๆ ที่เต็มไปด้วยเมนูที่เราเลือกไว้ก่อนนอนกับ Host Villa และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติก่อนทานแบบ 100% ที่เราจะต้องแอคติ้งสวย ๆ จนมือเปื่อยในสระส่วนตัว ก่อนจะยกถาดกลับไปทานจริงที่ริมสระ

แม้จะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่หน้าห้อง แต่ก่อนเช็คเอาท์ทางเราก็ไม่พลาดกับสระส่วนกลางที่ปังมาก ซึ่งถูกออกแบบเป็นรูปเปลือกหอยสีฟ้าไล่เฉด ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังแหวกว่ายอยู่ใต้ท้องทะเลที่สวยมาก ๆ ตอนลงเล่น ดังนั้นก่อนถ่ายรูปอย่าลืมเปลี่ยนเมมใหม่ ใส่แบตให้เต็ม เพราะงานนี้แค่มุมเดียวก็รับรองว่ามีรูปไปโพสต์อีกหลายร้อยใบทิ้งท้ายทริปแน่นอน

และแล้วทริปภูเก็ต … อีกแล้ว แบบ 3 วัน 2 คืนก็จบลงแบบ ‘สดชื่นเต็มแม็ก’ เป็นการการันตีได้อย่างดีว่าภูเก็ตอีกกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ เพราะไม่ว่าเดินเล่นย่านเมืองเก่าชมตึกสวย ๆ ไปตะลุยหาของกินอร่อยตามตรอกซอกซอย หรือแม้แต่คาเฟ่ก็ดีงามไม่แพ้กัน อยากเที่ยวหาดก็มีหาดสวยรายล้อมรอบเกาะให้เลือกไป หรือใครอยากพักผ่อนนอนสบายบนเกาะสุดไพรเวทอย่างเกาะมะพร้าวก็เดินทางมาง่าย แต่จะเที่ยวแบบไหนก็สนุกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าได้ทั้งวันถ้าไปพร้อม โคโค่แม็ก น้ำมะพร้าวแท้ 100% ทริปหน้าจะป่าเขา น้ำทะเล น้ำตก หรือในเมือง ก็อย่าลืมพกโคโค่แม็กไปด้วยนะทุกคน!!!!