รีวิวกรุงเทพฯ :: One day in Bangkok “เที่ยวกรุงเทพเมืองเก่าในฟีลใหม่ กับไอเทมสุดคูลที่ทุกคนต้องมี”

คิดจะพัก … วันเดย์ทริปรอบนี้เราจะพาทุกคนไปลัดเลาะเดินเที่ยวย่านเมืองเก่า สัมผัสกลิ่นอายความคลาสสิคสุดชิคข้ามสมัย ซอกแซกตามตรอกซอกซอยตั้งแต่เช้ายันเย็น จัดเต็มไม่มีกั๊กในฟิลลิ่งชิล ๆ สบาย ๆ เริ่มจากเช็คอินคาเฟ่เปิดใหม่สไตล์เกาหลีเพิ่มยอดไลค์กรุบ แล้วไปเดินหามุมปัง ๆ โพสท่าชิค ๆ กับไอเทมสุดคูลในย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย ที่ร้อยเรียงไปด้วยเรื่องราวจากผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ก่อนจะไปเสพงานศิลป์ป๊อบอาร์ตในมิวเซียม และตบท้ายด้วยอีกหนึ่งคาเฟ่สุดวินเทจที่นำเอาตึกเก่าอายุกว่าร้อยปีมาแปลงใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม

และแน่นอนว่าคิดจะพัก …. เราก็ไม่ลืมที่จะนึกถึง KitKat เพราะตอนนี้เค้าออก 3 ไอเทมใหม่สุดพรีเมียมที่ไม่ว่าสายไหนก็ควรมีไว้ครอบครอง ทั้งหมวกผ้าเก๋ ๆ ให้เราเลือกแมทช์ลุคใหม่ได้ทุกวัน กระเป๋าสะพายเท่ ๆ ทำจากวัสดุอย่างดีสีสันสดใส รวมถึงลำโพงบลูทูธตัวจิ๋วเสียงแจ๋วที่สามารถพกไปใช้งานในชีวิตประจำวันก็ได้ หรือจะใช้เป็นพร็อพถ่ายรูปก็เก๋ ซึ่งถ้าใครอยากจับจองเป็นเจ้าของก็สามารถหาซื้อได้ง่ายที่ 7-11 ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเลยจ้า บอกเลยว่า … ถ้าพวกเธอมีให้ครบทั้ง 3 อย่าง จะปังมาก!!!!!

hint ::

ในวันที่แสนชิล … เราขอพาทุกคนไปเริ่มด้วยการเติมความสดชื่นจิบกาแฟยามสาย กับคาเฟ่น้องใหม่ในย่านกรุงธนบุรี กับ hint café ที่ออกแบบมาอย่างดูดีมีสไตล์ เรียบง่ายแต่คลาสสิค อบอวลไปด้วยกลิ่นอายสไตล์เกาหลี ตัวร้านเป็นอาคารตึกแถวตกแต่งคุมโทนด้วยสีขาว เบจ และใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก ไม่ว่าจะโต๊ะกลม เก้าอี้ไม้สาน หรือโมบายไม้ที่ห้อยลงมา เรียกว่าถูกใจสายมินิมอล สายคาเฟ่ฮอปปิ้งแบบเราเป็นที่สุดเลย แนะนำเลยว่าควรเลือกชุดสีขาวครีม ซึ่งพอมาแมทช์กับกระเป๋าสะพายสีแดง และหมวกผ้าเก๋ ๆ สีดำจาก KitKat ลุคที่ได้ก็จะออกมาดูน่ารักน่าหยิกปุ๊กปิ๊กแบบนี้เลยจ้า

เข้ามาในร้านปุ๊บเราก็จะเจอกับโต๊ะที่มีขนมวางให้เลือกสั่ง รวมถึงบาร์กาแฟ พร้อมบาริสต้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสคอยแนะนำเมนูเด็ดที่ห้ามพลาด ซึ่งบอกเลยว่าทุกเมนูคือน่ากินมาก พอหันไปอีกฝั่งก็จะเจอกับที่นั่งที่มีให้เลือกหลายโต๊ะ หลายมุม บรรยากาศช่างอบอุ่น และโฮมมี่มาก ๆ มีความน้อยแต่ดูดีให้ความรู้สึก less is more สุด ๆ เลยทุกคน

เราเลือกสั่งเมนูซิกเนเจอร์อย่าง hint coffee เป็นเมนูกาแฟสไตล์เกาหลียอดฮิตอย่าง Dalgona ที่ทางร้านเสิร์ฟความอร่อยมาให้ทานคู่กับแผ่นน้ำตาล โดยมีกิมมิกการทานน่ารัก ๆ ที่ต้องทุบก่อนดื่ม เพื่อให้ได้รสสัมผัสกลมกล่อม หอมหวานละมุน ผสมผสานรสชาติออกมาได้อย่างลงตัว ยิ่งทานคู่กับ Choux Darkchoc และ Basque burnt cheesecake ด้วยยิ่งฟินไปใหญ่ไม่อยากลุกไปไหนเลยเอาจริง

Charoenkrung ::

ถ้าถามถึงย่านสุดคลาสสิคสุด และครบเครื่องที่สุดในกรุงเทพฯ เรามักจะนึกถึง ย่านเจริญกรุง นี่แหละเธอ เพราะเค้าเป็นถนนเก่าที่ไม่เคยหยุดใหม่ ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไร คาแรกเตอร์ของถนนสายแรกของเมืองไทยแห่งนี้ ก็ยังคงเสน่ห์เฉพาะตัวอยู่เสมอ และด้วยความหลากหลายที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างเชื้อชาติไทย จีน และชาวมุสลิม ที่นี่จึงเต็มไปด้วยรอยของวัฒนธรรม ความเชื่อ การใช้ชีวิต ผ่านสถานที่และสถาปัตยกรรมบ้านรูปทรงแบบต่าง ๆ แถมปัจจุบันยังเต็มไปด้วยสีสันของงานศิลปะที่ถ่ายทอดเรื่องราวให้ย่านนี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

มาเดินเล่นย่านคลาสสิคอย่างเจริญกรุงทั้งที เราก็ไม่พลาดที่จะหามุมสวย ๆ สำหรับรัวชัตเตอร์มาฝาก โดยเริ่มจากกำแพงเก่า ๆ ผุพัง ดูแล้วไม่น่าสนใจ แต่เมื่อถูกจรดปลายพู่กันแต่งแต้มสีสัน ถ่ายทอดเรื่องราวลงบนผนังกลับกลายเป็นสตรีทอาร์ตที่แสดงผลงานศิลปะสุดเจ๋งใจกลางกรุง จนกลายเป็นย่านสร้างสรรค์ที่ใครไปใครมาก็หลงรัก ซึ่งสตรีทอาร์ตก็มีหลายจุดมาก เรียกได้ว่าแทบทุกตรอกซอกซอย ตั้งแต่ถนนเจริญกรุงถึงตลาดน้อยกันเลย มีทั้งแนวกราฟิตี้ แนวครีเอทเน้นสีสันน่ารักสดใส หรือจะแนวภาพบอกเล่าเรื่องราวชุมชนในสมัยก่อน งานนี้รับรองได้เลยว่าสายถ่ายรูปมาเดินฟินแน่นอน

โอ้โห!! มุมนี้ก็ชิค มุมนั้นก็จัดจ้าน คว้ากล้องออกมาถ่ายได้สะดวกดั่งใจ เพราะเรามีกระเป๋าสะพายสีสันสดใสไอเทมใหม่จาก KitKat ที่ใส่ของได้พอดิบพอดีไม่ว่าจะมือถือ กระเป๋าตัง เจลล้างมือ ลิปสติก หรือแม้แต่กล้องถ่ายรูปตัวจิ๋ว พร้อมกับสายที่สามารถปรับความสั้นยาวได้ แถมมีสีให้เลือกถึง 3 สี 3 สไตล์กันไปเลย ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งาน เหมาะกับสายเที่ยวแบบเรามาก

แดดเมืองไทยทุกคนรู้ว่าแรงมาก แต่งานนี้เราสบายเพราะเรามีหมวกผ้าสีดำสุดน่ารักพกมาด้วย ทำให้เดินถ่ายรูปสตรีทอาร์ตได้เรื่อย ๆ ไม่เหนื่อย ไม่เมื่อย ไม่ร้อน แถมยังเป็นพร็อพถ่ายรูปที่ใส่ปุ๊บให้ฟีลนักท่องเที่ยวสาวทันที น้องเค้าให้เลือก 3 สีเช่นกันจ้พี่ แต่ถ้าให้แนะนำ … ทางว่าสีดำคือดีย์ แมทช์กับอะไรก็รอด ใส่กับเสื้อผ้าแนวไหนก็ได้หมด จะเท่เปรี้ยวเฉี่ยวหวานก็ได้ทุกลุคเด้อ

Warehouse 30 ::

จากโกดังเก่าได้ถูกแปลงโฉมมาเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์สุดฮิป ทำให้ Warehouse 30 นี้กลายเป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนย่านเจริญกรุง แค่เห็นแว๊บแรกก็รู้สึกถึงความโดดเด่นขึ้นมาทันที โดยที่นี่เค้าคงคอนเซ็ปต์ของการเป็นโกดังสไตล์ดิบ ๆ เท่ ๆ ของโครงเหล็กและสังกะสี โทนสีเทา-ส้ม ส่วนภายในก็แบ่งพื้นที่ออกเป็น 7 โกดังย่อย ที่รวบรวมร้านอาหาร คาเฟ่ ช็อปสินค้าหลากหลายประเภท และเป็นพื้นที่ Co-Working Space ให้ทุกคนได้มาเดินช้อป ชิม ชิล หรือร่วมสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในวันธรรมดาและช่วงวันหยุด ใครชอบอัพเดตเทรนด์ใหม่ ๆ ต้องไปสัมผัสพื้นที่เก๋ ๆ นี้ดูสักครั้งแล้วจะติดใจ

Talat Noi ::

เดินเรื่อย ๆ เพลิน ๆ จากย่านเจริญกรุงเราก็มาถึงตลาดน้อย อีกชุมชนเก่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความทรงจำของชาวจีน ที่เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ ที่นี่มีความคึกคักไม่เป็นรองย่านเยาวราช แถมยังมีร่องรอยของวัฒนธรรม การใช้ชีวิต ความเชื่อ ผ่านสถานที่ต่าง ๆ ทั้งศาลเจ้า และสถาปัตยกรรมบ้านรูปทรงแบบจีนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน และยังไปเต็มไปด้วยงานศิลปะ งานอาร์ตจากเหล่าศิลปินรุ่นใหม่ที่เข้ามาวาดเขียนเติมแต่งให้ตลาดน้อยยังคงเสน่ห์ แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปีก็ตาม …

จุดไฮไลท์ของตลาดน้อยรถส้มที่ใครไปใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปกันสักหน่อย เดี๋ยวเพื่อนจะล้อว่ามาไม่ถึง นั่นคือ เจ้าซากรถโฟล์คเต่าสีส้มสุดคลาสสิค ที่จอดไว้ริมกำแพงอิฐปูนเปลือยเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของย่านนี้ ถึงแม้สภาพรถจะผุพังเปลี่ยนไปบ้างตามกาลเวลา แต่มันก็ยังคงมีเสน่ห์และคลาสสิคมาก แนะนำเลยว่าให้เธอค่อย ๆ เดินไปทีละจุดไม่ต้องรีบร้อน แล้วจะรับรู้เลยว่าทุกซอกทุกมุมของชุมชนแห่งนี้มันมีดีเทล มีความรู้สึกบางอย่างซ่อนอยู่จริง ๆ

River City Bangkok Andy Warhol : Pop Art ::

หลบร้อนจากอากาศเข้ามาเสพงานศิลป์ตามหาอินสไปเรชั่นกันต่อที่ River City Bangkok กับสุดยอดนิทรรศการแห่งปี ANDY WARHOL: POP ART ที่รวบรวมผลงานออริจินัลของแอนดี้ วอร์ฮอล (Andy Warhol) ศิลปินระดับโลกจากอเมริกาที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งศิลปะเชิงป๊อปอาร์ต กว่า 128 ชิ้น ให้เราได้เดินชม ภายในทาสีสันสดใสหลากเฉดไล่เรียงตั้งแต่สีเขียว ชมพู ม่วง เหลือง ฟ้า ส้ม แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ทั้งภาพถ่ายบุคคล, ภาพถ่ายคนดัง, นิตยสารและปกอัลบั้ม, การพิมพ์แบบซิลค์พรินต์ติ้ง รวมถึงงานประติมากรรม

ผลงานสุดปังที่โด่งดังข้ามกาลเวลาและเป็นที่รู้จักของวอร์ฮอล ซึ่งเชื่อว่าหลายคนต้องคุ้นเคยกับภาพกระป๋องซุป Campbell’s Soup จำนวน 32 ชิ้น ที่ใช้เทคนิคภาพพิมพ์ไม่เหมือนงานศิลป์ที่ไหน รวมไปถึงผลงาน Marilyn Diptych ภาพนักแสดงสาวผู้โด่งดังที่พิมพ์ด้วยเทคนิค Silkscreen ในการสร้างผลงานเดียวกันซ้ำ ๆ ขึ้นมาในจำนวนมากที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน เอาเป็นว่าเป็นนิทรรศการงานศิลป์ที่ดีและควรค่าแก่มาชมมาก ๆ ทุกคนสามารถมาชมได้ตั้งแต่วันนี้ – 24 พฤศจิกายน 2563 จ้า

The Mustang Blu ::

ถ้าปัดอินสตาแกรมแล้วเจอภาพตึกสวยสุดคลาสสิคที่ใครก็ต่างไปโพสท่าชิค ๆ คอสตูมแน่น ๆ จนดูเหมือนต้องบินไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนา แท้จริงตึกนี้อยู่ใกล้แค่เอื้อมเองเธอ The Mustang Blu นางคือตึกเก่าอายุกว่า 100 ปี ในยุคสมัยโคโลเนียลริมถนนไมตรีจิตต์ ที่ใครจะรู้ว่าเมื่อก่อนนั้นผ่านการใช้งานในหลากหน้าที่ ทั้งเคยเป็นโรงพยาบาล เป็นธนาคาร แม้แต่เป็นสถานอาบอบนวดก็เคย แต่ตอนนี้ได้มีการปรับโฉมใหม่เปลี่ยนความเก่าให้เป็นความเก๋ โดยการสร้างเป็น Boutique Hotel สุดหรูอยู่ชั้น 2 และ 3 ส่วนชั้นล่างก็ปรับให้เป็นในส่วนคาเฟ่ไว้ต้อนรับทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา

ก้าวแรกที่เปิดประตูเข้าสู่ The Mustang Blu เรารู้สึกเหมือนได้หลุดไปยังโลกอีกใบ บันไดวนตรงกลางโถงสวยชวนสะดุดตา กวาดสายตาไปรอบ ๆ เจอกับสัตว์สตัฟฟ์อย่างเจ้ายีราฟบนผนังซึ่งเป็นจุดเด่นของที่นี่ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจที่ถูกจัดวางอย่างลงตัวกับอาคารปูน ให้ฟีลเหมือนเป็นมิวเซียมที่มีชีวิต เหมือนในหนังอย่างเรื่อง Night at Museum ยังไงยังงั้นเลย สวยไปหมดทั้งด้านในด้านนอกถ่ายรูปได้ทุกมุมจริง ๆ

ในส่วนของเมนูขนมและเครื่องดื่มของที่นี่นั้นจะมีเงื่อนไขว่าต้องสั่งคนละ 2 อย่าง คือ น้ำ 1 แก้ว และขนมหรืออาหารอีก 1 จาน ซึ่งทางร้านจะแจ้งให้เราทราบก่อนตัดสินใจ อย่างเมนูเค้กแต่ละชิ้นนั้นก็จะทำสดใหม่วันต่อวันแบบโฮมเมด มีการตกแต่งจัดจานให้เข้ากับบรรยากาศร้าน ทำให้ทุกอย่างมันดีมาก เห็นได้ถึงความใส่ใจในดีเทลทุกตารางนิ้ว กลายเป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่ควรค่าแก่การมาสักครั้ง

One day trip เที่ยวเมืองเก่าในฟีลใหม่กับไอเทมสุดชิคจาก KitKat รอบนี้ ต้องบอกว่าเป็นอีกทริปที่ได้หันกลับมาชมความทรงจำในวันเก่า ผ่านการรีโนเวทเปลี่ยนแปลงตามสมัยจนกลายเป็นบรรยากาศการเที่ยวแบบใหม่ที่แปลกตา มีเสน่ห์น่าสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่สุดฮิป สตรีทอาร์ตจากศิลปินรุ่นใหม่ มิวเซียมที่เต็มไปด้วยงานศิลป์ให้เราเสพ หรือการเปลี่ยนตึกเก่ามาเป็นบูทีคสุดหรูใจกลางเมือง เพราะงั้นหากคิดจะพักทั้งที … ลองเปลี่ยนจากนอนเฉย ๆ ก้าวออกจากบ้านมาดูวิถีชีวิต พบผู้คน และหาอินสปายเรชั่นใหม่ ๆ แบบเราดู