ถ้าหากเพื่อน ๆ อยากทานอาหารรสเด็ด จากหลายร้านดังที่กระจายอยู่คนละมุมเมืองในคราวเดียว วันนี้เรามีทางออกให้ใจอ้วนแต่เรื่องมากเรื่องรสชาติด้วยการพาไป ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ (Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE) ฮับที่รวบรวมอาหารสตรีทฟู๊ดชั้นนำระดับตำนานกว่า 12 ร้าน ทั้งคาวและหวาน ทั้งเป็นต้นตำรับของกรุงเทพฯ และร้านเด็ดที่ได้รับการันตีความอร่อยจาก MICHELIN Guide ภายใต้การตกแต่งให้ได้ฟีลริมถนนแถบเจริญกรุง ที่มีตึกสไตล์ชิโนโปรตุกีส พร้อมสตรีทอาร์ตเท่ ๆ ให้เราได้กินไป เพลิดเพลินกับผลงานอาร์ตไป ฉะนั้นใส่ชุดเก๋ ๆ กางเกงยางยืดมาเดินกินให้พุงกาง แล้วอย่าลืมแต่งหน้าเฟี๊ยต ๆ มาถ่ายรูปกันด้วยล่ะ เพราะโลเคชั่นนี้ปังมากค่ะคุณพี่
นอกจากจะเอาของกินมาล่อแล้ว บางคนถ้าเดินทางยากก็คงจะไม่อยากมา ไม่ต้องห่วงค่ะคุณพี่ ที่นี่มี BTS ส่งตรงถึงหน้าตึก แค่ลงสถานีช่องนนทรี ทางออก 3 มาที่ชั้น 1 อาคารมหานครคิวบ์ เหมือนลอยจากฟ้าลงสู่พรมแดงตรงเข้ามาได้เลย ซึ่งเขาเปิดตั้งแต่เวลา 10:00-20:00 น. กินได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ นัดกลุ่มเพื่อนมากันเยอะ ๆ ผลัดกันซื้อแย่งกันกินยิ่งสนุก เพราะที่นี่เขาจุคนได้ถึง 200 ที่นั่งเลยล่ะ
001 Nai Ek Roll Noodle
เริ่มร้านแรกก็ตาวาวเลยจ้า ก๋วยจั๊บนายเอ๊กร้านโปรดที่เรากินเป็นประจำ อยากกินเมื่อไหร่ต้องโบกรถไปเยาวราชเมื่อนั้น เจ้านี้โดดเด่นด้วยน้ำซุปใสรสกลมกล่อม จัดจ้านด้วยพริกไทยกินแล้วโล่งคอโล่งจมูกมาก พร้อมหมูกรอบที่มีมันและเนื้อแซมกันกำลังพอดีไม่เลี่ยน และเครื่องในแสนรักที่เขาทำได้ดีไม่มีกลิ่นคาวแต่กลับสดเด้งกรุบอยู่ในปาก พร้อมเส้นก๋วยจั๊บนุ่ม ๆ หนากำลังดีกินง่ายไม่ติดคอ ด้วยความดีงามที่พรรณามาทั้งหมดก็ส่งผลให้อาหารเมนูนี้ได้เป็น Michelin Plate ไปโดยปริยาย ซึ่งราคาอยู่ที่ 65-90 บาท ได้นั่งกินในห้องแอร์ไม่ต้องไปนั่งปาดเหงื่อน้องว่าคุ้มมากเลยค่ะ คุณพี่ต้องมา
002 Pad Thai Fai Ta Lu
หลายคนยังไม่เคยได้ลิ้มลองผัดไทยไฟทะลุ เพราะหน้าร้านหาที่จอดยากมาก ร้านนี้เด็ดตรงที่เชฟเจ้าของร้านเขามีดีกรีดังระดับมิชลินจากร้านอาหารไทยที่นิวยอร์กมาแล้ว เมื่อกลับมายังถิ่นบ้านเกิดคุณพี่แกก็ได้คิดเมนูสตรีทฟู๊ดที่เป็นซิกเนอเจอร์ขึ้นมา จนได้เป็นผัดไทยไฟทะลุ เทคนิคคือต้องให้ไฟท่วมขึ้นมาขณะผัด เพื่อให้น้ำผัดไทยฝังลึกเข้าเส้นได้มากขึ้นจนได้รสชาติกลมกล่อมไม่เหมือนร้านอื่น ๆ แถมยังมีท๊อปปิ้งให้เลือกว่าจะเป็นผัดไทยไฟทะลุหมูกรอบ ผัดไทยไฟทะลุหมูย่าง หรือผัดไทยไฟทะลุมันกุ้ง-กุ้งแม่น้ำ ครีเอทีฟจนได้ขึ้นชื่อเป็น Michelin Bib Gourmand ไปอีกเจ้า
003 Yih Sahp Luhk
ยี่ สับ หลก ตอนแรกคิดว่าเป็นชื่อตัวเลข 26 แต่ความจริงแล้วมันแปลว่า หุง ต้ม ง่าย เป็นภาษาจีนกวางตุ้นที่เข้ากับธีมร้านที่อยากให้เป็นแนวฮ่องกง ร้านนี้เป็นแบรนด์ที่แตกย่อยออกมาจากร้านนายโส่ย ก๋วยเตี๋ยวเนื้อระดับตำนานเจ้าดังย่านถนนพระอาทิตย์ เพราะอยากสร้างความแตกต่างด้วยการเสิร์ฟอาหารในรูปแบบอื่น โดยมีเนื้อวัวชั้นดีผสมอยู่ด้วย และเมนูเด็ดจนได้รับการยอมรับเป็น Michelin Plate ก็คือข้าวอบเนื้อซี่โครงโกเบตุ๋นที่เห็นนี่เอง เสิร์ฟมาในหม้ออบร้อน ๆ หอม ๆ ตัวข้าวและเนื้อนั้นอบกับน้ำซอสสูตรพิเศษมีความกลมกล่อม เม็ดข้าวอ้วนนุ่ม กินกับเนื้อโกเบตุ๋นจนได้ที่เปื่อยแทบไม่ต้องเคี้ยว และสร้างรสชาติให้ครบเครื่องขึ้นด้วยน้ำจิ้มพริกเผาแบบฮ่องกง บีบมะนาวตัดเลี่ยนนิด จานนี้ฟินแบบไม่จกตาแน่นอน
004 Maverick Suki
อีกร้านดังย่านยศเส ที่ตอนนี้ย้ายไปไกลจากบ้านอิฉันหลายเท่าตัว แต่หลังจากนี้ถ้าคิดถึงรสชาติเส้นผัดกลิ่นเตาถ่านฉันก็คงเดินทางง่ายขึ้นแล้วสินะ.. ดีใจจนน้ำตาจิไหล ร้านเมาเวอริคเป็นร้านที่บ้านเราผูกพันมาตั้งแต่รุ่นปู่ เพราะเขาเปิดมายาวนานตั้งแต่ปี 2503 มีการส่งต่อสูตรลับจากรุ่นสู่รุ่น เมนูที่กินบ่อย ๆ คือคั่วไก่ซึ่งเขาผัดด้วยเตาถ่าน ให้เนื้อไก่เน้น ๆ เส้นใหญ่เหนียวนุ่ม กลิ่นกระทะโชยจนท้องร้อง นอกจากคั่วไก่แล้ว สุกี้แห้งของเขาก็เด็ดไม่แพ้กันเพราะเขาหมักหมูจนนุ่มมาก ๆ แทบละลายในปากมีรสชาติหวานหอม พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดเอาใจคนชอบกินเผ็ด เทลงไปก็ยิ่งทำให้สุกี้แห้งนี้อร่อยจัดจ้านมากยิ่งขึ้น ด้วยความอร่อยที่เลียนแบบยากจนหาใครมาแทนที่ไม่ได้ ทำให้อาหารร้านนี้ได้เป็น Michelin Plate เช่นกัน
005 Boon Lert
ร้านบุญเลิศร้านก๋วยเตี๋ยวในตำนานย่านนางเลิ้ง ที่เปิดเสิร์ฟความอร่อยมาแล้วกว่า 40 ปีโดยร้านนี้โดดเด่นด้วยเมนูหมูย่าง ที่เขาใช้เนื้อสันนอกส่วนสะโพกมาหมักซีอิ๊ว น้ำตาล เกลือ พริกไทยทิ้งไว้ถึง 4 ชม. ทำให้เนื้อสะโพกแน่น ๆ นั้นนุ่มขึ้นจนน่าตกใจ เมื่อนำมาย่างบนเตาก็ยิ่งส่งกลิ่นหอมเตะจมูกไปทั่ว มีรสชาติที่เข้าเนื้ออร่อยแบบไม่ต้องพึ่งผงชูรส สั่งเป็นเมนูบะหมี่เกี๊ยวที่เขาใช้แป้งเกี๊ยวสูตรพิเศษ ยัดไส้หมูสับปรุงสุก โรยด้วยกระเทียมเจียวสดใหม่ไร้กลิ่นน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปกระดูกหมูเคี่ยวจนหวาน เข้มข้นมาซดตัดกัน ถือเป็นจานเด็ดที่ได้คะแนนเต็มสิบจากเราไปแบบสวย ๆ
006 Pinn
ผิน ร้านอาหารไทยฟิวชั่นที่ออกแบบโลโก้อย่างมีเอกลักษณ์เป็นหัวไก่ ซึ่งอาหารของร้านนี้ส่วนประกอบหลักคือไก่ชั้นดีที่ส่งตรงจากฟาร์มออร์แกนิค จากแหล่งที่มาอาจจะคิดว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแสนจืดชืดหรือเปล่า บอกเลยว่าไม่!! เพราะเมนูแต่ละอย่างหน้าตาดูเผ็ช แถมแปลกไม่ซ้ำใครอย่างเมนูซิกเนอเจอร์ Peri Peri Chicken ที่เห็นนี้ เสิร์ฟไก่ชิ้นโตขนาดครึ่งตัวอบกับซอสสูตรลับรสชาติเผ็ด ๆ เค็ม ๆ ซึมเข้าเนื้อ ตัดความซี๊ดปากด้วยเฟรนช์ฟรายชิ้นหนานุ่ม ร้อน ๆ ที่ทอดสดใหม่ทุกออเดอร์ เป็นอาหารที่เหมาะทานเล่นระหว่างเม้ามอยกับเพื่อนมาก ๆ กินเพลินเผลอแป๊ปเดียวก็หมดแล้ว
007 A Na Mai Noodle
ใครเป็นแฟนคลับก๋วยเตี๋ยวเนื้อเราเชื่อว่าจะต้องมีร้านนี้อยู่ในดวงใจแน่นอน ก๋วยเตี๋ยวอนามัย ร้านที่เปิดตำนานก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำใสเครื่องแน่นมายาวนานกว่า 60 ปี เหตุผลที่อยู่ได้ยาวนานขนาดนี้เพราะลูกชิ้นเขาเด็ดที่สุดในบรรดาลูกชิ้นร้านอื่น ๆ เนื่องจากเขาไม่มีส่วนผสมของแป้งเลย และมีเครื่องให้เลือกหลากหลายทั้งลูกชิ้นเนื้อ ลูกชิ้นเอ็น เนื้อสด ตับ เนื้อเปื่อยและลูกชิ้นปิ้ง แนะนำให้สั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งรวมเนื้อ แล้วมาปรุงด้วยพริกน้ำส้มสูตรเฉพาะของทางร้านดู รับรองว่าอร่อยจนอยากขึ้นมารำถวายแน่นอน
008 Kor Moo Rama 5
ร้านของเชฟคนโปรดที่เราติดตามมาตลอด เชฟยีสต์ นกุล กวินรัตน์ ที่มักจะคิดค้นสูตรอาหารใหม่ ๆ ให้กับเมนูอาหารแสนธรรมดาให้มีรสชาติที่พรีเมี่ยมขึ้นได้เสมอ ๆ จนเขามาเปิดร้านคอหมูพระราม 5 จากความต้องการที่จะเปิดร้านชิล ๆ กับเมนูอาหารง่าย ๆ แต่กรรมวิธีกลับลึกซึ้ง รสชาติจึงมีเอกลักษณ์จนคนเริ่มติดใจทางมหานครเขาเลยเปิดทางให้เข้ามาเปิดสาขาสวย ๆ ในนี้ ความพิเศษของคอหมูย่างเจ้านี้คือการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี เป็นคอหมูแท้สั่งพิเศษหมักกับเครื่องปรุงทั้งรากผักชี กระเทียม พริกไทยย่างด้วยเตาถ่านทำให้กลิ่นทั้งหมดรมควันอยู่ในเนื้อ มันของหมูสร้างความชุ่มฉ่ำรสออกหวานธรรมชาติ เมื่อทานกับข้าวหอมมะลิร้อน ๆ ก็คือเพอร์เฟ็ค แต่ถ้าใครอยากได้รสชาติที่แตกต่างเขามีน้ำจิ้มแจ่ว และน้ำพริกไข่เค็ม ให้เลือกจิ้มเพิ่มความกลมกล่อมขึ้นไปอีก
009 Limlaosa
อีกร้านเจ้าดังแห่งเยาวราชเป็นตำนานมากว่า 80 ปี ร้านลิ้มเหล่าซาก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาทำเองเนื้อแน่นจนเด้งทุกครั้งที่เคี้ยว ที่สำคัญไร้สารเคมี เขาใช้บะหมี่ป๊อก บะหมี่เส้นแบนแสนโปรดที่ร้านไหนมีเราจะตามไปกินแทบทุกร้าน ซึ่งบะหมี่ของร้านนี้กินแล้วรับรู้ได้ว่าเป็นเส้นอย่างดีมีส่วนผสมของไข่เยอะและสดใหม่มาก ๆ ไม่จับตัวเป็นก้อน ลวกกำลังดีไม่แข็งไม่นุ่มจนเกินไป พร้อมน้ำซุปใสแต่รสชาติเข้มข้นเค็ม ๆ มัน ๆ มีกลิ่นหอมเจียวโชยขึ้นมาแบบเน้น ๆ อร่อยจนต้องกลับมากินซ้ำอีกหลายรอบ ราคาที่นี่อยู่ที่ 60-80 บาทพอ ๆ กับนั่งรถไปกินที่ร้านเลย แม่ว่าคุ้มลูก ๆ ว่ายังไงกันคะ ?
010 Phed Phed Hey!
ร้านน้องใหม่มาแรงที่กระแสดีจนต้องใช้เวลาต่อแถวนาน ด้วยวัตถุดิบดีมาจากบ้านเกิดเจ้าของร้านแทบทุกอย่าง อาหารอีสานคั่ก ๆ นัว ๆ เกิดจากความคิดถึงรสมือแม่ที่นครพนม บอกเลยว่าเป็นมือแม่ที่แซ่บมาก ๆ ไม่มีความซอฟเลยมีแต่ความอร่อยที่ซี๊ดจนน้ำตาแทบไหล ความพิเศษสำหรับสาขานี้คือมีเมนูตำขนมจีนโอเวอร์ ที่ให้เครื่องมาแบบโอเวอร์โหลดมาก ๆ เป็นเมนูเล่นใหญ่ที่ขายเฉพาะที่นี่เท่านั้น ส่วนประกอบมีทั้งหมูยอ ปลาหมึก ไหลบัว ขนมจีน โรยด้านบนด้วยยอดชะอมแน่น ๆ ใช้ทั้งพริกสดและพริกแห้งกลิ่นหอม มีนางเอกเป็นปลาร้านัว ๆ ที่ขอเดาว่าใช้ปลาร้าต้มสุกไร้กลิ่นคาว ครบรสทั้งเผ็ด หวาน เปรี้ยว เค็ม ทานเพลินจนปากเบิร์นไปเลยค่ะ
011 Chumpol Patonggo
ร้านเดียวที่มาจากต่างจังหวัด คุณพี่เขามาไกลจากจังหวัดบุรีรัมย์เลยนะแก ซึ่งเมนูของเขาก็ไม่มีอะไรมากเป็นปลาท่องโก๋ที่ขายมานานกว่า 60 ปีเท่านั้นเอง ตอนแรกก็คิดว่าคงเหมือนร้านเด็ดทั่ว ๆ ไป แต่ฉันต้องคิดใหม่เพราะปลาท่องโก๋ของลุงชุมพลก้าวข้ามคำว่าสุดยอดปลาท่องโก๋ไปได้หลายขุมด้วยการทอด ให้มีความกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน ไร้กินหืน ทอดสดใหม่ไม่มีของค้าง และเขาเคลมว่าไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย(สารให้ความกรอบและขึ้นฟู)ด้วย โดยเราสามารถกินกับไข่ลวก ชากาแฟได้ตามชอบ แต่อยากแนะนำให้จิ้มกับสังขยาใบเตยที่เขาทำแบบหวานกำลังพอดี กลิ่นใบเตยหอมละมุนที่ชูรสและเท็กเจอร์ของปลาท่องโก๋นี้ได้ดี บอกเลยว่าจะทานเป็นเมนูเริ่มวันใหม่ หรือตบท้ายของคาวก็ฟินไม่แพ้กัน
012 Pa Hong Thai Dessert
อาหารไทยอยากได้รสเด็ดต้องใช้เตาถ่าน จะเห็นว่าแทบทุกร้านที่เราแนะนำนั้นเขาจะใช้เตาถ่านกันเกือบทั้งหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งเมนูของหวาน ซึ่งร้านป้าหงษ์ ขนมไทยเจ้านี้ก็เช่นกัน ร้านออริจินอลของป้านั้นตั้งอยู่ที่ตลาดนางเลิ้ง มีขนมไทยสูตรโบราณหลายสิบชนิดวางขาย ไม่ว่าจะเป็นขนมหม้อข้าวหม้อแกง ขนมตะโก้ สังขยา วุ้นใบเตยกะทิ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง รวมไปถึงเมนูที่นางงามโลกถึงกับบอกว่าเป็นขนมจากสวรรค์ นั่นก็คือ ข้าวเหนียวมะม่วงราดน้ำกะทินั่นเอง บอกเลยว่าข้าวเหนียวมูลของร้านนี้ นุ่มหนึบรสชาติดีมาก ๆ ยิ่งได้อุ่นร้อนทานคู่กับมะม่วงสุกเนื้อเนียนรสหวานอมเปรี้ยม ราดด้วยน้ำกะทิสดเค็ม ๆ หอม ๆ มันทานง่ายและอร่อยมากจริง ๆ ถึงกลับต้องเดินกลับไปซื้อให้ที่บ้านเพิ่มอีกสามกล่อง
นอกจากอาหารอร่อย ๆ ที่เราเล่ามายาวเหยียดแล้ว การตกแต่งที่เราบอกว่ามีสตรีทอาร์ตนั้น ก็เป็นผลงานของศิลปินไทยที่มีผลงาน มีชื่อเสียง และมีความยูนีคไม่ซ้ำใคร อาทิ ก้องกาน BENZILLA ฯลฯ ซึ่งงานแต่ละชิ้นก็จะมีคอนเซ็ปต์และเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทั้งงานเพ้นท์ งานกระเบื้องโมเสก และงานประติมากรรม ฯลฯ แถมยังมีการใช้ไฟนีออนตกแต่งสถานที่ ป้ายร้าน ให้มีกลิ่นอายของเยาวราชแต่ถ่ายรูปง่ายกว่าเพราะไม่ต้องหลบรถ
ถ้าถามถึงเรื่องราคาอาหาร แต่ละร้านแพงกว่าข้างนอกนิดหน่อย ราคาหลักสิบเท่านั้น ซึ่งเราว่าคุ้มเพราะไม่ต้องเสียเวลา เสียค่าเดินทางไปหลาย ๆ ที่ ได้อยู่ในห้องแอร์ตกแต่งสวยงาม นอกจากจะได้ทานอาหารอร่อย ๆ ที่รวบรวมไว้ในที่เดียวแล้ว เรายังได้เสพงานศิลป์ ถ่ายรูปเล่น มีเวลานั่งชิลแบบไม่จำกัด ไม่มีคนมากดดัน แฮปปี้ทั้งสายกิน สายอาร์ต และสายถ่ายรูปอีกด้วยเด้อ รีบ ๆ มาเช็กอินกันให้ไว ร้านไหนที่จ้องไว้รีบมาลองก่อนแถวจะยาวนะจ๊ะ