คงไม่ต้องอินโทรอะไรมากมาย … ถึงความสวยงามของจังหวัดที่เพียบพร้อมไปด้วยหาดสวย น้ำใส อาหารอร่อยถูกใจอย่าง “ภูเก็ต” ที่ที่ใครได้สัมผัสก็ประทับจิตประทับใจจนต้องมาซ้ำใหม่อีกหลายรอบ แต่ถ้าจะให้นอนอาบแดดที่หาดป่าตอง นั่งมองฝรั่งที่หาดกะรน แล้วยืนชมวิวที่แหลมพรหมเทพแบบทุกทีก็ดูจะธรรมดาไป ภูเก็ตคราวนี้ต้องพิเศษกว่า! เพราะเราจะพานั่งเรือไปพักผ่อนที่ Maiton Private Island – Phuket เกาะส่วนตัวที่ครบเครื่องไปทุกสิ่ง ด้วยน้ำทะเลที่ใสแจ๋ว หาดทรายที่ขาว วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แถมสามารถดำน้ำดูปะการังได้ที่หน้าหาด ทางเราก็กล้าพูดเต็มปากเลยว่านี่แหละคือสวรรค์ของคนรักความชิลที่แท้ทรู ออ!! นอกจากนี้ก็ยังมีมุมถ่ายรูปปัง ๆ ให้เธอได้จัดท่าโพสอัพลงโซเชียลเก๋ ๆ อีกด้วย โอ๊ยยย…. ดีเวอร์ขนาดนี้ ต้องเป็น 2 วัน 1 คืน ที่แซ่บเหมือนน้ำจิ้มซีฟู้ดอย่างแน่นอน
ก่อนไปจะเริงร่าท้าแดด … เรามาทำความรู้จักกับเกาะไม้ท่อนกันก่อนดีกว่า ที่นี่เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เงียบสงบบนฝั่งอันดามัน ตั้งอยู่ทางทางทิศตะวันออกของภูเก็ต ห่างจากฝั่งแค่ 9 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางมายังเกาะนี้ง่าย และสะดวกสบายมาก ๆ บนเกาะมีหาดทรายยาว น้ำทะเลสี Crystal Blue ใสมากชนิดที่ว่าเธอสามารถมองเห็นฝูงปลาว่ายไปมาได้ด้วยตาเปล่า หรือใครอยากจะดำน้ำดูปะการังก็สามารถมองเห็นโลกใต้ทะเลที่สวยงามได้หน้าหาดของเกาะกันเลยทีเดียว ส่วนใครมากับดวงก็มีโอกาสได้เห็นฝูงโลมาว่ายวนเวียนมาเล่นคลื่นอยู่รอบเกาะด้วย เรียกได้ว่ายังเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ๆ เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงามรอให้เราไปสัมผัส หากเรามองจากมุมสูงก็จะเห็นรูปร่างหน้าตาของเกาะเหมือนกับท่อนไม้เรียวยาว จึงเป็นที่มาของชื่อที่เรียกกันว่าเกาะไม้ท่อนนั่นเองจ้า
สำหรับการเดินทางมาเกาะไม้ท่อนนั้น ถ้านั่งเรือสปีทโบ๊ทจะใช้เวลาเพียง 15-20 นาที เท่านั้นเอง แต่รอบนี้เราขอมาแบบพิเศษด้วยการเลือกล่องเรือ Catamaran ลำใหม่เอี่ยมของ Maiton Private Island ที่แสนสะดวกสบาย และหรูหรา เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศความสวยงามของทะเลอันดามันอย่างเต็มที่ ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือเพื่อถ่ายรูปช็อตสวย ๆ งานนี้จะขนพร็อพเป็นหมวกปีกกว้าง ชุดเดรสสีสวยพริ้วริ้วระบาย หรือจะใส่บีกีนี่สีสดมาถ่ายก็ปั๊วะปังพร้อมฟาดโซเชียลทุกช่องทางแน่นอน ออ แล้วถ้าโพสกันจนเหนื่อย บนเรือเค้าก็มีเครื่องดื่ม Soft Drink ไว้คอยบริการอีกด้วยจ้า บอกเลยว่า เลิศสุดในจุดนี้
เพียงแค่ 45 นาที กับความชิลขั้นสุด เรือ Catamaran ก็พาเราเดินทางมาถึงเกาะไม้ท่อน บอกเลยว่าภาพแรกที่เห็น แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าทะเลอันดามันทำไมถึงได้สวยขนาดนี้ หันไปทางซ้ายก็เห็นชายหาดที่ทอดยาว มองกลับมาทางขวาก็จะเห็นศาลา และชิงช้าไว้ให้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ และที่เราสัมผัสได้อีกอย่างนอกจากความสวยงามของน้ำทะเล และชายหาดแล้ว คือบรรยากาศของเกาะนี้ค่อนข้างเงียบสงบมาก เน้นให้เราได้มาพักผ่อนอยู่กับตัวเอง ได้นั่งมองคลื่น ได้ฟังเสียงลม เหมาะมากถ้าใครอยากหาที่ดี ๆ ชาร์ตแบตให้ตัวเอง เพราะมาที่นี่รับรองกลับไปแบตเต็มเปี่ยมแน่นอน
และหลังจากที่ชื่นชมความงามของเกาะไปพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาเช็กอินเข้าห้องพัก ซึ่งทริปนี้เราเลือกพักแบบ Beachfront Pool Villa ที่ตั้งอยู่ริมหน้าหาดเลย มีความไพรเวทมาก เพราะมีเพียง 5 หลังเท่านั้นบนเกาะ แถมพอยิ่งเป็นช่วงหลังห้าโมงเย็นเป็นต้นไป นักท่องเที่ยวแบบ one day trip ทั้งหลายก็จะทยอยกลับออกจากเกาะกันหมด จะเหลือก็แต่คนที่พักค้างคืนแบบ Overnight อย่างเราเท่านั้น จึงกลายเป็นเหมือนเกาะส่วนตัวในฝันไปโดยปริยาย
ภายในวิลล่าคือห้องใหญ่ และกว้างขวางมาก ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ดูสบายตา มีการแบ่งห้องออกเป็นสัดส่วนอย่างดี มีมุมนั่งเล่น มุมระเบียงไว้นอนชิลฟังเสียงคลื่น หรือในบางห้องก็มีอ่างจากุชชี่สุดหรู รวมถึงสระว่ายน้ำส่วนตัวให้แช่จบตัวเปื่อยได้ทั้งวันเช่นกัน เตียงนอนใหญ่ขนาด 6 ฟุต แถมสิ่งอำนวยความสะดวกคือครบครันมาก ๆ โดยรวมคือเราชอบการตกแต่งสไตล์นี้มาก มันดูมีความใส่ใจในรายละเอียดเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ ดูมีสตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นภาพติดผนังที่เลือกใช้เป็นกรอบไม้ และภาพด้านในเกี่ยวกับท้องทะเล หรือแม้แต่มุ้งสีขาวที่ช่วยทำให้ห้องดูละมุนขึ้น ในส่วนของห้องน้ำก็กว้างโล่งโปร่งสบาย มีอ่างล้างมือพร้อมกระจกบานใหญ่ถึงสองฝั่ง แถมไม่ว่าเธอจะอยู่ส่วนไหนของห้อง แค่เปิดม่านก็สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย
พอช่วงบ่ายแก่ ๆ ก็เป็นเวลาดี ที่ทางเราจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดรสระบาย เติมบลัชออนให้หน้าดูโกลวฉ่ำแดด ฟาดลิปสีปั๊วะ ๆ หยิบหมวกพร้อมพร็อพแสนเก๋ แล้วคว้ากล้องถ่ายรูปคล้องคอออกมาเดินเล่น และถ่ายรูปบริเวณจุดเช็คอินต่าง ๆ บนเกาะกัน ซึ่งเอามุมให้เลือกถ่ายรูปเยอะมาก แต่ทางเราขอหยิบยกมาเป็นไอเดียให้ทุกคนได้ตามไปถ่ายรูปกันกับ 7 จุดไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาด ส่วนจะมีที่ไหนเด็ดดวงโก้เก๋บ้าง ตามมาเลยจ้า
01 : Let’s relax
ประเดิมกันที่จุดแรกกับมุมที่มีชื่อว่า Let’s relax โดยมุมนี้เราจะเห็นตั้งแต่ลงเรือเลย เป็นจุดแรกที่ทางเราเห็นแล้วสะดุดตากับทั้งเก้าอี้ไม้สีขาว และป้ายบอกทางเก๋ ๆ ที่มีแบล็คกราวเป็นท้องทะเลสี Crystal Blue เชื่อว่าใครเห็นก็เป็นอันต้องหยุดแวะถ่ายกันทุกราย
02 : The Signature
เขยิบจากจุดแรกมานิดหน่อยก็จะเจอสะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าหาตัวหาด ซึ่งจุดนี้บอกเลยว่าห้ามพลาดเพราะเป็นไฮไลต์ที่โดดเด่นอีกอย่างของเกาะไม้ท่อนเลย จะจับมือเพื่อนซี้เดินยิ้มเริงร่ากลางสะพาน หรือนั่งห้อยขาแล้วแกล้ง ๆ เหม่อมองฟ้ามองทะเลก็ดีงามจนต้องแนะนำให้พวกเธอมาถ่ายตามให้ได้ บอกเลยว่าถ้ามองจากสะพานลงไป เธอจะเห็นชัดเลยว่าน้ำทะเลที่นี่ใสจริงเหมือนกระจกที่วิบวับเวลาโดนแสงแดดเลยจ้า
03 : Ching-Cha
มาต่อกันที่จุดถ่ายรูปที่สามกับชิงช้าที่อยู่ริมหาด ซึ่งมีชิงช้าให้ถ่าย 2 จุดด้วยกัน แต่ละจุดก็มีความสวยไม่ซ้ำกัน อย่างจุดแรกจะอยู่ริมหาดทางขวาที่ต้องเดินเลาะหาดมานิดหน่อยถึงจะเจอ จุดนี้ค่อนข้างลึกลับ และเงียบสงบมาก โดยชิงช้าจะถูกแขวนห้อยลงมาจากต้นไม้ ซึ่งใครชอบภาพคลีน ๆ ไม่รก เห็นครบทั้งชิงช้า หาดทราย และทะเล ต้องมุมนี้เลยจ้า ส่วนใครชอบการตกแต่งสไตล์ทรอปิคอล ที่ให้ฟีลชาวเกาะก็จะมีชิงช้าอีกตัวอยู่ที่หน้าหาดให้ได้ถ่ายรูปเช่นกัน ถึงจะเป็นชิงช้าเหมือนกันแต่รับรองว่าได้รูปออกมาคนละสไตล์แน่นอน
04 : Rock Corner
ทัศนียภาพของเกาะไม้ท่อนนอกจากจะมีชายหาดสวยแล้ว ก็ยังมีโขดหินให้เราได้ไปถ่ายรูปเช็กอินอีกด้วย บอกเลยว่ามุมนี้คือฮิปมาก ไม่ว่าจะสายเท่ สายหวาน ก็มาครีเอทท่าโพสปัง ๆ กันได้ จะถ่ายจากมุมด้านล่างแล้วเสยกล้องขึ้นไปด้านบน หรือไปยืนคู่กันกับเพื่อนแล้วถ่ายผ่านช่องว่างระหว่างเราออกไปเห็นวิวทะเล ตอนเรือที่แล่นผ่านไปมาก็ได้อีกฟีลเช่นกัน
05 : Post @sala
ถัดมาจากมุมโขดหิน ก็เจอกับศาลาริมทะเลที่ให้เราสามารถไปนั่งเล่น นอนเล่น หรือแอบงีบฟังเสียงคลื่นสักหนึ่งตื่นก็ย่อมได้ เป็นอีกจุดที่เราจะได้เห็นวิวท้องทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มุมนี้แนะนำเลยว่าให้เธอทั้งหลายยกมือถือมาเซลฟี่แล้วอัพสตอรี่ไอจีรัว ๆ ทั้งภาพนิ่ง Boomerang ซึ่งเรามั่นใจเลยว่าต้องมีคนถามว่าที่นี่ที่ไหน หรือไม่ก็ชั้นอยากไปแบบนี้บ้างจังแน่นอนเลยละ ถ่ายบนศาลาเสร็จแล้วก็ยังมุมด้านล่างที่เป็นชายหาดเล็ก ๆ ให้มาเดินโพสท่าริมทะเลกันต่ออีกมุมด้วยนะ
06 : Sail The world
อีกหนึ่งมุมเก๋ที่มาทะเลทั้งทีไม่ควรพลาด เลี้ยวจากมุมศาลา และชิงช้าด้านหน้ามาสักหน่อย ก็เจอกับเรือไม้สีสันน่ารักที่มาเกยตื้นอยู่ริมหาด เป็นอีกหนึ่งมุมชิคของเกาะไม้ท่อนเลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าใครรู้สึกว่าถ่ายข้างเรือมันธรรมดาไป จะกระโดดขึ้นไปยืนโพสบนเรือก็ได้นะ
07 : Crystal Blue
สุดท้ายกับมุมยอดฮิตที่ไม่ว่าเราจะไปทะเลที่ไหนก็ต้องมีมุมหาดทรายขาว ๆ คู่กับทะเลใส ๆ เป็นแน่นอน แต่เท่าที่เราเคยไปเที่ยวทะเลไทยมาในหลาย ๆ ที่ ขอยืนยันด้วยเกียรติของนางเงือกน้อยเลยว่า น้ำทะเลของเกาะไม้ท่อนนี้ใสจนต้องเข้าท็อปสามในใจ แถมหาดทรายก็ขาว ซึ่งถ้าอยากได้รูปหาดยาว ๆ โล่ง ๆ ไม่ติดคน แนะนำให้เดินทางฝั่งซ้ายของเกาะเลยจ้า จะไปเปลี่ยนคอสตูมเป็นชุดว่ายน้ำสีสดใสแล้วจัดพร็อพปิกนิกน่ารัก ๆ มาถ่ายด็ดีงามไปหมดเลยเด้อ เราชอบบรรยากาศยามเย็นมาก ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าที่ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีชมพูอมม่วงอ่อน ๆ ยิ่งได้ฟีลเป็นที่สุด
ถ่ายรูปจนครบทั้ง 7 จุด 7 มุมไปแล้ว ก็รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ได้เวลาเติมพลังกับมื้อดินเนอร์ และแน่นอนว่าพักที่นี่เค้าก็มีบริการมื้อดินเนอร์ที่รวมอยู่ในแพ็คเกจพร้อมเสิร์ฟถึงหน้าวิลล่า เรียกได้ว่าถ่ายรูปเสร็จ ก็ไปนอนพักสักหนึ่งตื่นแล้วค่อยลุกขึ้นมาทานอาหารเย็นท่ามกลางบรรยากาศฟิน ๆ กินไปฟังเสียงคลื่นไปเม้าท์มอยเรื่องราวประทับใจที่เกิดขึ้นตลอดวัน ในส่วนของอาหารก็มีให้เราเลือกทั้งแบบอาหารไทย ซีฟู้ด หรือใครชอบอาหารฝรั่งก็มีเช่นกัน และรสชาติก็เกินคาดหมายมาก คืออร่อยทุกอย่าง ทั้งหมึก กุ้ง ปู หอย ก็คือสดเหมือนเพิ่งไปตกจากทะเลมาเดี๋ยวนั้น อร่อยจนทางเรากินเรียบเกือบทุกจาน เป็นมื้อที่อิ่มเว่อร์วัง และแฮปปี้หนักมากจ้า
แสงแรกของเช้าวันใหม่ได้ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาสะกิดให้เราลุกขึ้นจากเตียงแทนเสียงนาฬิกาปลุก ซึ่งตามปกติแล้วเวลาคนไปทะเลก็มักจะละเลยแสงเช้าไปเพราะขี้เกียจตื่น แต่แสงเช้าของที่นี่บอกเลยว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะดวงอาทิตย์จะค่อย ๆ โผล่พ้นขอบฟ้าจากด้านหน้าหาดเลย บรรยากาศดีมาก จึงเป็นวันที่ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกสดชื่นมากเป็นพิเศษเลย อยากให้ทุกเช้าเป็นแบบนี้ไปตลอด แต่ก็ทำไม่ได้ เลยได้แต่เก็บโมเม้นต์ดี ๆ แบบนี้ให้นานที่สุดก็พอ
หลังจากชื่นชมความงามของแสงเช้าไปแล้ว ไม่นานมื้อเช้าของเราก็มาเสิร์ฟถึงวิลล่าอีกเช่นเดิม ซึ่งใครจะทานตั้งแต่เช้าตรู่ หรืออยากตื่นสายแล้วค่อยทานก็สามารถแจ้งเวลากับพนักงานที่ดูแลก่อนได้ ส่วนอาหารก็มีให้เราเลือกทั้งแบบ American Breakfast และ Asian Breakfast ที่ทั้งคู่จะเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำผลไม้ ชา กาแฟ และขนมปังเข้าเซ็ท บอกเลยว่าอิ่มจุก ๆ เลยนะจ๊ะเช้านี้ ถ้าให้ดีไม่ต้องรีบเร่งทานให้หมด ค่อย ๆ กินพร้อมชมวิวทะเล และฟังเสียงคลื่นไปด้วย เธอจะเอ็นจอยกับบรรยากาศมากขึ้นสิบเท่าเลยละ
สำหรับเราแล้ว … เกาะไม้ท่อนเหมาะมากที่จะมาพักผ่อนแบบชิล ๆ เพราะนอกจากจะได้ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กับธรรมชาติบริสุทธิ์แล้ว เค้าก็ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำ แต่ที่เด่น ๆ เลยก็จะเป็นการดำน้ำตื้น หรือ snorkeling เพราะถ้าใครอยากดำน้ำเมื่อไหร่ ก็สามารถคว้าหน้ากากพร้อมฟินคู่ใจกระโดดตู้มลงน้ำและดำดิ่งสู่โลกใต้ท้องทะเลจากหน้าหาดได้เลย! เห็นเป็นแค่จุดดำน้ำหน้าหาดแบบนี้แต่ความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้เกาะไหน ๆ เลยจ้า ปะการังก็มีเยอะมาก แถมปลายน้อยปลาใหญ่ก็แวะเวียนว่ายวนมาให้เราเจออยู่เรื่อย ๆ ส่วนใครสนใจจะดำน้ำลึกแบบ scuba diving แค่เพียงติดใบรับรองมา ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่พาไปดำตามจุดได้เช่นกัน แถมมีอุปกรณ์ให้พร้อมเสร็จสรรพเลยจ้า แต่สำหรับคนที่ไม่เคยดำน้ำ ที่เกาะไม้ท่อนเค้าก็มี Try drive ให้ลองสัมผัสชีวิตใต้ทะเลกันอีกด้วยนะ
ท้ายสุดสุดท้ายก่อนจะโบกมือลาเกาะไม้ท่อน เราก็แวะขึ้นมาที่จุดชมวิวองค์พระที่อยู่จุดสูงสุดของเกาะ โดยจุดนี้สามารถเดินขึ้นได้ใช้เวลาประมาณ 15 -20 นาที ซึ่งหากเรามองออกไปทางฝั่งทะเลเราก็จะได้เห็นวิวของทั้งสามจังหวัด ทั้งภูเก็ต กระบี่ และพังงา พี่พนักงานบอกทางเราว่า .. ถ้าวันไหนอากาศท้องฟ้าโปร่งก็จะมองทะลุเห็นเกาะพีพีของกระบี่ได้เลยจ้า เพราะงั้นไม่ควรพลาดที่จะเดินขึ้นมาชมวิวที่นี่นะทุกคนนน
สำหรับใครที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต หรือกำลังหาที่พักผ่อนแบบชิล ๆ อยู่ เราว่า ‘เกาะไม้ท่อน’ น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับทุกคน ไหนจะเดินทางง่าย นั่งเรือไม่นานแล้ว ยังเป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติทั้งบนชายหาด และใต้ท้องทะเล อีกทั้งยังมีที่พักแบบวิลล่าสุดไพรเวทให้เราได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ พร้อมอิ่มหนำสำราญกับมื้ออาหารตลอดวัน และเอ็นจอยกับมุมถ่ายรูปปัง ๆ ที่เรียกได้ว่ายกกล้องขึ้นมุมไหน ก็สวยถูกใจไปซะหมด มั่นใจเลยว่าจะเป็น 2 วัน 1 คืนที่แฮปปี้ ตั้งแต่ลงเรือยันกลับขึ้นฝั่งเลยละเธอ สำหรับแพ็คเกจทั่วไปจะเดินทางด้วยสปีดโบ๊ท ถ้า Upgrade Catamaran แบบเรา ไป-กลับ 2,000 บาท/คน หรือมาเที่ยวแบบ one day trip ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website : https://www.maitonprivateisland.com/th/ หรือ IG : maitonisland หรือ Facebook : Maiton Private Island – Phuket