4 แลนด์มาร์ก Inspiring City Car “แรงบันดาลไป”

มีคำกล่าวที่ว่าเมื่อวานถือเป็นอดีต วันนี้ถือเป็นของขวัญ ส่วนวันพรุ่งนี้ก็ถือเป็นความลับ การเดินทางก็เปรียบเสมือนวันพรุ่งนี้ เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะได้เจอกับอะไร และความลับนี่ล่ะที่เป็นแรงบันดาลใจอันสำคัญให้เราออกเดินทางไปอย่างที่ใจอยาก และไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ทางจะแคบ จะกว้าง ก็อย่าให้มันมาเป็นอุปสรรรคขวางทุกการเดินทางของเรา วันนี้เลยจะมาชวนพวกแกออกเดินทางไกลที่ใกล้ …????… ไม่ต้องทำหน้างง เพราะรู้หรือไม่ว่าในกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรของเราเนี่ย มีแลนด์มาร์คที่มีสไตล์เหมือนต่างประเทศอยู่หลายมุมให้ค้นหา รอบนี้เราเลยขอตามเก็บ 4 โลเคชั่นที่ได้แรงบันดาลมาจากคลิปวีดีโอด้านล่างนี้ ที่มีเจ้าซิตี้คาร์สุดคล่องตัว ตัวช่วยที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมืองที่สุดเป็น Inspiring City Life by Inspiring City Car ส่วนจะมีที่ไหนกันบ้าง และจะมีแรงบันดาลใจจากเรื่องราวระหว่างทางมากขนาดไหน ก็เหยียบคันเร่ง แล้วออกไปค้นหาพร้อมกับเราได้เลย …

001 Taj Mahal เมืองไทย

เริ่มกันที่แรกแบบก๊อบมุมมาเป๊ะๆ ก็คือ มัสยิดกมาลุลอิสลาม มัสยิสที่มีอายุกว่า 200 ปี และมียอดโดมที่สวยงามราวกับทัชมาฮาวในอินเดียขนาดย่อส่วนเป็นกิมมิค ภายในถูกสร้างและตกแต่งอย่างโอ่โถงงดงามเพื่อให้รองรับผู้คนที่จะมาทำการละหมาด โดยสามารถรองรับได้ มากกว่า 1,000 คน นอกจากนี้รอบๆ ตัวของมัสยิดยังมีสวนขนาดใหญ่และลำธารที่มีปลาแหวกว่ายไปมานานาชนิด ที่นี่จึงมักจะมีผู้คนเข้ามาละหมาดและพักผ่อนหย่อนใจแทบตลอดวัน ที่นี่ถือว่าเป็นอีกมุมเงียบมุมหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่ทำให้เรารู้ว่า … ในสิ่งที่ดูเหมือนไม่มีอะไรจนเราไม่เคยใส่ใจล้วนมีบางอย่างซ่อนอยู่ และบางอย่างนั้นอาจจะเป็นความสงบที่เราเคยหลงลืม อาจจะเป็นความแตกต่างที่เหมือนกัน หรืออาจจะเป็นแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่ที่เราไม่เคยได้คาดคิด

002 Opera House เมืองไทย

สถานที่ต่อไปที่ทำให้เราอยากไปต่อมากยิ่งขึ้นก็คือ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ที่มีเพดานทรงโค้งสีขาวเรียงสลับซ้อนกันคล้ายกับสถานที่ท่องเที่ยวสุดโด่งดังของเมืองออสเตรเลียอย่างโอเปร่าเฮ้าส์ แต่ความจริงมันคือมัสยิดของชาวอิสลามที่รูปทรงของมันค่อนข้างจะแปลกตาเพราะมันได้เปลี่ยนจากยอดโดมเป็นคอนกรีตสีขาวที่มองแล้วคล้ายหมู่ดอกไม้เรียงช่อกันแทนหลังคาโดม ที่นี่แม้จะแตกต่างจากมัสยิดทั่วไปแต่เราก็รู้สึกได้ถึงความศรัทธาไม่ต่างกัน มุมโค้งที่คล้ายกับโอเปร่าเฮ้าส์ และตัวอาคารที่เป็นกระจกสีทึมคือมุมที่ไม่ควรพลาด ที่นี่เราไม่ได้ทำอะไรมากมายนัก แต่การได้ทอดน่องสำรวจเพดาน หน้าต่าง แสง และเงา ที่ผ่านเข้ามา มันคือการไม่ทำอะไรที่ได้อะไรทางความรู้สึกมามากมาย ทำให้เรารู้ว่าความสุขที่แท้จริงไม่ต้องเดินทางไปไกลก็พบเจอได้ … แค่ที่ใจและใบหน้าเราเอง

003 Colosseum เมืองไทย

ที่ต่อไปที่หลายคนมองข้าม แต่มันมีมุมๆ นึงที่คล้ายกับโคลอสเซียมและอยู่ใกล้แค่ โรงภาพยนตร์งามวงศ์วานรามา โรงภาพยนตร์เก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ 2523 แม้ตอนนี้จะไม่ได้ฉายหนังอีกต่อไป แต่ก็ยังเปิดพื้นที่ด้านหน้าและด้านล่างให้เราเข้าชมได้ ตอนดูรูปในวิดีโอก่อนที่เราจะรู้คำเฉลยเราคิดว่าสถานที่ในรูปต้องเป็นตึกยุคใหม่โก้หรู อยู่กลางเมืองแน่ๆ แต่เมื่อคำเฉลยคือโรงหนังเก่าที่มีอายุกว่า 39 ปีแล้ว เรานี่แอบชื่นชมคนหามุมของแต่ละสถานที่มากเลยจริงๆ เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะเห็นความโดดเด่นและความแตกต่างในของบางสิ่งที่เราเคยมองข้าม ทำให้เราเรียนรู้ที่จะลองมองสิ่งเดิมๆ ด้วยมุมใหม่ และสร้างสรรค์ไอเดียจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ไม่แน่ว่าครั้งหน้าการเดินทางของเราอาจเริ่มมาจากช็อกโกแลตของฝากที่ได้จากเพื่อนก็ได้นะ

004 Nanjing เมืองไทย

ที่ท้ายสุดที่เราจะไปกันก็คือ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมชาตรีไทยจีนเฉลิม ที่มีเจดีย์เหมือนกับเจดีย์กระเบื้องเคลือบที่นานกิงประเทศจีน เราลัดเลาะผ่านตรอกซอกซอยเล็กๆ ตามแบบถนนย่านเมืองเก่าและถนนอีกหลายสายของกรุงเทพ การมีซิตี้คาร์คันเล็กก็คงจะเข้าตรอกซอกซอยได้ง่ายๆ สบายๆ ที่จอดหายากแค่ไหนก็เอาอยู่ เพราะใช้ที่เล็กนิดเดียว คงจะตอบโจทย์คนเมืองหลวงได้ดีที่สุด ไม่นานก็ถึงวัดจีนริมแม่น้ำเจ้าพระยาบนพื้นที่กว่า 600 ตารางวา มีโบสถ์จีนสูง 8 ชั้นสีแดงนี้เป็นไฮไลท์หลัก ทำให้ที่นี่เป็นทำเลที่เหมาะแก่การมาปิดท้ายด้วยการไหว้พระขอพรให้เฮงๆ ปังๆ ความสวยไม่ให้ขาด การเงินเพิ่มพูน กินหมูสามชั้นก็ให้กลายเป็นคอลลาเจน กินชานมก็ให้กลายเป็นแคลเซียม พลางชมวิวสายน้ำหลักของกรุงเทพฯ และสุดท้ายเราก็ได้รู้ว่าการขอพร มันก็ไม่ใช่ความหวังลมๆ แล้งๆ อะไร แต่มันคือการทบทวน คิด และฟังความต้องการของตัวเอง ก่อนจะทบทวนว่าสิ่งที่เราขอนั้นมันอยู่บนบรรทัดฐานของความเป็นจริงหรือไม่ และถ้าไม่ได้จากฟ้า ตัวเราพอจะมีโอกาสพาตัวเองไปให้ถึงคำขอได้หรือไม่

.

และก็จบไปแล้วกับ 4 แลนด์มาร์คที่ได้รับ Inspiring City Car แรงบันดาลมาจากเจ้าซิตี้คาร์อย่างเจ้า Mitsubishi Attrage ที่ทำให้เราอยากเริ่มที่จะก้าว และเริ่มที่จะหาความสุขง่ายๆ ไปกับการเดินทาง ถ้าเทียบกับสถานที่จริงแล้วมันอาจจะไม่ได้ว้าวระดับโลก และมันก็ไม่ได้เหมือนกันแบบเป๊ะๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสถานที่ที่เราแนะนำไม่สวย หรือสู้ไม่ได้หรอกนะ เพราะทุกๆ ที่มันมีคุณค่า มีเสน่ห์ และเรื่องราวเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน และหลายครั้งที่คุณค่าของการเดินทางไม่ได้เกิดขึ้นเพียงปลายทางเท่านั้น แต่เกิดขึ้นแม้ระหว่างการเดินทางด้วย ความสวยงามก็อยู่ที่จะมอง ความอร่อยนั้นก็อยู่ที่จะกิน ความสุขนั้นก็อยู่ที่จะรู้สึก แต่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่เริ่มที่ก้าวแรก ไม่ว่าเมืองจะเป็นแบบไหน ไม่ว่าใจอยากจะทำอะไร ไปอย่างที่ใจอยาก ลองดู!!!!!