อยากมีจริตการเที่ยวแบบคน Life Style ชิค คูล ในสถานที่เดิมและไม่ไกลกรุง ขอมีมุมให้พักผ่อนได้ ชิวได้ ถ่ายรูปสวย เอาจริงโจทย์นี้ก็ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากถึงขั้นต้องด่าตัวเองว่าเรื่องมาก เราลองนั่งดูลิสต์เก่าๆ ตามสถานที่มีคุณสมบัติดังที่ใจนึกอยาก และแล้วก็ปิ๊งแว๊บมาได้ว่า “ หั ว หิ น ” เรื่องของความศิวิไลซ์ไม่แพ้พระนคร แถมเหนือชั้นแบบชนะขาดด้วยธรรมชาติ ทะเล ภูเขา คาเฟ่ สวนสัตว์ ร้านอาหารเด็ดๆ ที่พักน่ารัก และกิจกรรมสนุกๆ นี่บอกเลยว่าถ้าทริปหัวหินของแกล่าสุดคือตอนเป็นเฟรชชี่หรือเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ ละก็ ลุกไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดที่เก๋ที่สุดแล้วลากเพื่อนสุดแซ่บหรือจูงมือแฟนสุดคูลไปเพิ่มลิสต์ที่เที่ยวใหม่ๆ ที่ตอนนี้ผุดขึ้นมาเพียบ เอาเป็นว่า ครบ! จบ! แยก! เอาหัวเป็นประกันได้เลยว่าหัวหินปี 2018 คือดีมากเวอร์ ….
หลังๆ มานี้ เราเดินทางค่อนข้างบ่อย เอาจริงก็เรียกว่าบ่อยไม่ต้องค่อนข้างแล้วแหละ ทุกครั้งที่ออกเดินทางนอกจากจัดเสื้อผ้าพรอบนั่นนี่ให้เข้ากับสถานที่ที่ไปแล้ว เราเป็นคนนึงต้องมีกาแฟดริปติดกระเป๋าไปด้วยเสมอ ซึ่งตัวโปรดตัวนั้นก็คือ Café Amazon Drip Coffee นี่แหละ นอกจากราคาจะดีงาม หาซื้อง่ายแล้ว อีกอย่างที่ชอบคือมันพกพาง่ายมาก ใครพื้นที่กระเป๋าเหลือใส่ไปทั้งกล่องเได้แบบสบายๆ แต่ถ้าเสื้อผ้าแน่นมากจนพื้นที่เหลือน้อยก็สามารถแกะกล่องออกมาเป็นซองเล็กๆ ประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าได้อีก แล้วถึงคราวซวยลืมหยิบออกมาจากบ้านก็ไม่ต้องห่วง เพราะแค่เลี้ยวเข้าปั้มที่มีคาเฟ่อเมซอนอยู่ ที่นั่นก็มีเจ้าดริปคอฟฟี่ตัวนี้ขายแน่นอน สรุปง่ายๆ เลย คือ สะดวก อร่อย แถมหาง่ายเบอร์นี้มันก็ต้องเหมาะกับสายเดินทางที่แท้ทรูแบบเราเป็นที่ซู๊ดดดดด
001 : Camel Republic
ก่อนจะไปทำตัวชิลล์ กินอิ่ม นอนอุ่น หุ่นไม่เกี่ยว กันที่หัวหินตามคอนเซ็ปที่เรากล่าวไว้ ขอเลี้ยวซ้ายพาแวะเช็คอินกับโลเคชั่นใหม่ใสกิ๊งซิงกว่าใครในชะอำ เพราะไม่ว่าจะขับรถไปหัวหินยังไงก็ต้องผ่าน Camel Republic กันทั้งนั้น ที่นี่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของตะวันออกกลางผสมผสานอย่าลงตัวในสไตล์โมร็อกโก การตกแต่งต่างๆ จะเน้นสีสันฉูดฉาดตัดกันสวยงาม เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนที่ชอบถ่ายรูปเลย เพราะไม่ว่าจะหมุนกล้องไปมุมไหน ก็สวยถูกใจจนสามารถอัพรูปรัวๆ ลงโซเชียลได้แบบไม่ยั้ง
นอกจากการตกแต่งที่ตรึงตราต้องใจแล้ว เค้ายังรวมสัตว์แปลกๆ ที่หาชมได้ยากในเมืองไทยมาไว้ให้ได้ดูอีกด้วย และยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เพราะนางมีเครื่องเล่นท้าความเสียว อย่างเจ้า Flying Macaw ไว้ให้เหล่าผู้กล้าลองเล่นเพื่อเพิ่มอะดรีนาลีนให้หลั่งชุ่มไปพร้อมเหงื่อ แต่อย่างที่บอกว่ารอบนี้เราจะมาแบบซอฟท์ๆ เราเลยขอพับพวกเครื่องเล่นเอาไว้ก่อน และเดินชมสัตว์คิ้ว ๆ ตามโซนต่างๆ น่าจะดีกว่า มาเร่ิมกันที่โซนยีราฟคอยาวที่ค่อนข้างน่ารักและหิวโซ ทันทีที่เห็นเราเท่านั่นแหละ วิ่งมาหน้าตาตื่นพร้อมยื่นลิ้นยืดยาวออกประหนึ่งจะบอกกับเราว่า “หิว”
ถัดจากยีราฟ ก็มีอูฐจากดินแดนทะเลทราย, นกฟลามิงโก นกที่มีซากฟอสซิลมายาวนานราว 30 ล้านปีก่อน รวมถึงพาตาโกเนียนมารา สัตว์ประเภทฟันแทะ สำหรับเราแล้วที่นี่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เป็นสถานที่ที่ไม่ว่าคู่รัก ก๊วนเพื่อน หรือแฟมิลี่ก็มาเที่ยวได้ทั้งนั้น
002 : SeenSpace HuaHin
จุดเช็คอินที่สองตอกย้ำความชิคของหัวหินที่เปลี่ยนไป SeenSpace HuaHin ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ติดทะเลแห่งแรกของหัวหิน ซึ่งมาในรูปแบบของ Beachfront Mall ภายในได้รวบรวมแบรนด์ร้านค้าเก๋ๆ ร้านอาหารอร่อยๆ เอาไว้เพียบ เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนในวันหยุดสบายๆ เดินเลือกซื้อของได้แบบเพลินๆ โดยไฮไลต์วันศุกร์เสาร์อาทิตย์ที่พิเศษกว่าทุกวัน คือเค้าจะมีการจัดให้เป็น “Seen Space Open Fest” มีการออกร้านจากร้านค้าในโครงการ ให้เราเลือกซื้ออาหารอร่อยๆ มานั่งทานริมทะเลบนเก้าอี้ Bean Bag ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลล์ ปล่อยอารมณ์และหัวใจไปกับเสียงคลื่น
ร้านแนะนำที่ไม่ควรพลาด ก็คือบาร์นางเงือก Sretsis Mermaid Bar and Shop ที่รวมความฟรุ้งฟริ้งสไตล์ทรอปิคัลที่สาวๆ ทุกคนควรไปเช็คอิน มีไอเท็มหรือ Summer Essentials ของแบรนด์ที่อิงจากโลกของนางเงือกน้อยมาให้เราช๊อป ถ้าไม่อยากช๊อปก็แวะจิบเครื่องดื่มก็ได้ ซึ่งที่ร้านมีให้เลือกทั้งค็อกเทลและม็อกเทลดีไซน์น่ารักน่าเลิฟชนิดเอาใจสาวๆ เป็นที่สุด จะซื้อถือแก้วถ่ายหน้าร้านแบบเราก็เก๋ หรือจะเอาเป็นพรอบไปวางริมสระแล้วถ่ายรูปก็ดูชิคอยู่ไม่น้อย
นอกจากบาร์ของ Sretsis แล้ว Seenspace Huahin ก็ยังมีโปรเจคต์น่าตื่นเต้นใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดอย่าง ร้านอาหารอีสาน DER, พาสต้าบาร์แบบตามใจฉัน Yellow Mellow, คาเฟ่ของหวาน Burning Daylight และเบอร์เกอร์บาร์ Bon Fire ก็มี เดินกันได้เพลิน ๆ ไม่มีเบื่อ และแน่นอนว่ามุมถ่ายรูปเยอะแยะยุบยิบขนาดนี้ เมมเราเต็มไปหนึ่งอันเป็นที่เรียบร้อยจ้า
003 : Resort De Paskani
ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ประหนึ่งได้ไปเที่ยวเมืองในฝันอย่างซานโตรินีภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพ ทำให้เราเลือก Resort De Paskani เป็นที่พักของเราในทริปนี้ คือมันดีงามเกินราคาค่าคุยไว้มากแกร ใครมิเคยไปกรีซมานี่แกรก็กรี๊ดได้เหมือนกัน เพราะเค้าได้จำลองเอาบรรยากาศทุกอย่าง ทั้งการตกแต่งแนวสไตล์เมริเตอร์เรเนียน ฟ้าๆ ขาวๆ ที่ดูแล้วสบายตาชุ่มชื่นหัวใจเป็นที่สุด รวมถึงดีเทลรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ จะต่างจากซานโตรินีก็แค่ไม่มีฝรั่งหล่อๆ ซิกแพคเน้นๆ และฝรั่งสวยๆ ใส่บิกินี่แซ่บๆ ให้น้ำลายสอเท่านั้นแหละ
เช็คอินรับกุญแจเรียบร้อย ก็ถึงเวลาเติมความสุขด้วยการเดินทอดน่องชิมพี่พัก ก่อนจะหย่อนตัวในสระน้ำใสๆ ที่ทอดยาวขนานกับตัวอาคารหน้าห้องพักนี้ ส่วนใครอยากอยู่เงียบๆ กับหนังสือเล่มโปรด ทุกๆ ห้องก็จะมีระเบียงส่วนตัวไว้ให้ได้ผ่อนคลาย อย่างถ้าเป็นห้อง Pool Access ก็สามารถเปิดประตูปุ้บก้าวขาลงน้ำได้เลย นี่แหล่ะเค้าเรียกว่าเปความสะดวกสบายและความสุขให้กับชีวิต
นอกจากห้อง Pool Access แล้ว ที่นี่ก็ยังมีห้องพักอีกหลากหลายแบบแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ใครชอบชั้นสองห้อง Suit แบบมีอ่างอาบน้ำไว้ให้จู๋จี๋ในห้องก็ย่อมมีเช่นกัน ดีขนาดนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ มีครบครันไว้ให้ใช้ แถมมีพรอบเก๋ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสาน หรือเสื่อให้ไปปูริมหาดก็มีนะเออ
แสงอาทิตย์ยามเช้าค่อยค่อยลอดผ่านม่านมากระทบหน้าเรา เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังไปเรื่อย เราไม่รอช้ารีบกด Snooze ขอทดเวลาบาดเจ็บอีกสัก 5 นาทีก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นไปล้างหน้าแล้วหยิบกาแฟ Café Amazon Drip Coffee ที่พกมาด้วยพร้อมขนมปังปิ้งอีกสองแผ่น กับเสื่อผืนหมอนใบไปนอนอาบแดดรับพลังงานอุ่นๆ ริมทะเลยามเช้า เช้านี้ทุกอย่างเป็นใจอากาศดีมากก ฟ้าใสกิ๊งไม่มีเมฆมาบดบัง
เช้าๆ แบบนี้เราขอมาแนะนำขั้นตอนการดริปกาแฟให้นุ่มละมุนลิ้นกันดีกว่า ใจเย็นๆ แล้วจากนั้นก็ฉีกซองตามลูกศร กางหูเกี่ยวออกบนแก้วใบเก่งที่เตรียมมารอง ต้มน้ำร้อนให้เดือดประมาณอุณหภูมิ 92-96 องซาเซียลเซส ถ้าไม่รู้ว่าอุณหภูมิมันเท่าไหร่ ง่ายๆ แบบเบๆ ขั้นสุดก็คือ ให้แกรต้มน้ำจนมันเดือดปุดปุด (น้ำเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส) จากนั้นก็ให้ปิดเตาและทิ้งไว้สักนาที อุณหภูมิจะลดลงเองตามธรรมชาติจนพอดีกับการดริป ส่วนเวลาดริปเราจะค่อยๆ หยดทีละนิด ให้กาแฟเริ่ม bloom แล้วรอประมาณ 20 วินาที จากนั้นค่อยเทน้ำที่เหลือตามจนหมดภายใน 4 นาที สุดท้ายก็ยกซองสีขาวออกก็เป็นอันเสร็จสิ้น ส่วนวิธีการดริปแบบละเอียดสามารถอ่านได้จากหลังซองเด้อจ้า
จะว่าไปกลิ่นของ Café Amazon Drip Coffee นี่ก็หอมแตะจมูกตั้งแต่ฉีกซองเลยนะแก ยิ่งพอเริ่มดริปกลิ่นยิ่งพุ่งทะลุจมูกจนเข้าไปถึงประสาทสัมผัสอื่นๆ ให้ตื่นตัวไปพร้อมกับกาแฟ ถ้าลองมองเข้าไปในซองสีขาวเราจะเห็นเมล็ดกาแฟที่ถูกบดมาอย่างละเอียดกำลังดี คั่วแบบ medium to dark เพื่อให้ได้รสชาติที่น่าพอใจในทุกวัน เก๋มากเวอร์!!!! คอกาแฟต้องรัก
สำหรับใครที่เบื่อกาแฟดริปเพียวๆ เรามีทริคเพิ่มเติมมานำเสนอนั่นคือ Iced Milk Coffee ส่วนผสมก็จะมีกาแฟดริปอเมซอน 1 ซอง นมข้นหวาน และนมสด ขั้นตอนการทำคล้ายกับดริปปกติ แต่หลังจากที่เทน้ำร้อนจนหมดแล้วให้คนผงกาแฟในถุงกาแฟ 1-2 รอบ แช่ทึ้งไว้อีกประมาณ 6 นาที จากนั้นนำถุงกาแฟสีขาวออก เติมนมข้นหวานลงไปมากน้อยแล้วแต่ความหวานของแต่คนได้เลย จากนั้นเติมนมสดอีกนิด รอจนอุ่นก็จิบได้ หรือใครชอบกาแฟเย็นก็สามารถเติมน้ำแข็งลงไปในขั้นตอนสุดท้ายได้เหมือนกัน
ไม่น่าเชื่อว่าการดริปกาแฟเช้าๆ ริมหาดแบบนี้ ก็เป็นสร้างความสุขเล็กๆ สำหรับคนที่ชอบกาแฟแบบเราให้มีแรงกระปรี่กระเปร่า สดชื่นพร้อมลุยได้อีกทั้งวันแล้ว ส่วนใครเห็นแบบนี้แล้วอยากจะลองดริปกาแฟดูสักครั้ง แต่ยังงงงวยกับขั้นตอนของเราขอให้จงคลายความกังวลเพราะ Café Amazon Drip Coffee เค้ามีบอกขั้นตอนการดริปแบบละเอียดหลังซองให้อ่านจ้า คำแนะนำคือแกไม่ควรดื่มกาแฟเกินละวันสองแก้วนะเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยื่น
ดื่มกาแฟไปแล้ว ก็มากินมื้อเช้ากันต่อที่ห้องอาหารเล็กๆ แต่โครตน่ารัก แถมมีเมนูให้เลือกเยอะแยะจากเชฟ ทุกอย่างอร่อยและดี ถูกใจเราไปซะหมด ด้วยแรงบันดาลใจผสมกับมนตร์เสน่ห์ที่ไม่เคยหลับใหลของหัวหินนี้ ใช้ชีวิตค่อยเป็นค่อยไปกับเวลาที่เหลือแหวกว่ายลงสระก่อนจะต้องเช็คเอ้าท์ โบกมือบ๊ายบายที่นี่อย่างน่าเสียดาย เฮ้อ! รู้งี้จองมาสักสองคืนน่าจะดี โมเม้นต์อยากหยุดเวลากลับมาอีกแล้วจ้าคุณผู้โชมม แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวปลอบใจตัวเองด้วยที่เที่ยวชิคๆ ที่ยังรอเราอยู่อีกเยอะ
004 : DEBO CAFÉ
เพราะว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่และก็เป็นเรื่องเดียวกับเรื่องเที่ยว มื้อเช้าที่จัดหนักก็เริ่มหดหายไปกับกิจกรรมว่ายน้ำ พอเช็คเอ้าท์ออกจาก รร ปุ๊บ เราเลยแวะมาเติมพลังให้กับกิจกรรมยามบ่ายที่รออยู่ ณ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสแซ่บใจกลางหัวหินซอย 37 ร้านนี้ตั้งอยู่ข้างๆ วังไกลกังวล สไตล์ร้านจะเป็นบ้านไม้สองชั้นในยุคคลาสสิคแต่ Apply มาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ตกแต่งแนวน่ารัก อินดี้ๆ ที่มีโต๊ะให้เลือกนั่งทั้ง indoor และ outdoor
เมื่อได้ทำเลที่นั่งเรียบร้อย ต่อมาก็ถึงเวลาเลือกเส้นก๋วยเตี๋ยวที่มีทั้งเส้นหมี่ เส้นเล้ก บะหมี่ เส้นใหญ่ วุ้นเส้น จากนั้นจิ้มท็อปปิ้งที่ใช่ ซึ่งก็จะมีให้เลือกทั้งหมูสับ ไข่มะตูม กุ้งแม่น้ำ กุ้งทะเล ไข่เจียว แล้วค่อยตบท้ายด้วยเกี๊ยวทอดกรอบอร่อย และในส่วนของรสชาติก๋วยเตี๋ยวร้านนี้นั้นบอกเลยว่าจัดจ้านแซ่บถึงทรวง ซดคำแรกแล้ว ต้องต่อด้วยซู้ดคำที่สองแบบทันที
005 : ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี
เมื่ออิ่มฉันใดก็ต้องมองหาที่ย่อยฉันนั้น เราเลือกมาเดินย่อยกันที่ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ในวนอุทยานแห่งชาติปราณบุรี ที่นี่มีพื้นกว้างใหญ่รายล้อมไปด้วยความเขียวขจีและพรรณไม้ป่าชายเลนที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น เมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นพื้นที่เสื่อมโทรมจากการทำนากุ้งจนทำให้ดินเสีย แต่เพราะสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จมาและทรงมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ จึงมีการปลูกป่าขึ้นอย่างจริงจัง เมื่อเวลาผ่านไปต้นไม้มีการเจริญเติบโตเร็วขึ้น ทุกอย่างกลับสู่โหมดอุดมสมบูรณ์ ระบบนิเวศฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ก็พากันหิ้วกระเป๋าย้ายบ้านกลับเข้ามาอยู่
เราเดินชมธรรมชาติไปตามเส้นทางที่จัดทำเป็นสะพานไม้ทอดยาวประมาณ 1 กิโลเมตร สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นโกงกาง โปรงแดง ตะบูนดำ ซึ่งแต่ละจุดก็จะมีป้ายบอกข้อมูลอยูเป็นระยะ บวกกับแสงที่ลอดสอดส่องมาเพียงเล็กน้อยจากต้นโกงกาง ทำให้การเดินชม เดินสูดอากาศดีๆ จากที่นี่ บอกเลยว่าจุดนี้มันชิลล์สุดๆ
006 : จุดชมวิวเขาแดง
มาถึงอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำหรับสายลุยชอบคุยกับธรรมชาติ หลังจากเดินเล่นในป่าชายเลนไปแล้ว ก็มาออกแรงฮึบนิดหน่อยเดินขึ้นเขาไปดูวิวบนยอดเขาแดง จุดชมวิวที่ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด มีหมู่บ้านเล็กๆ อยู่รายล้อม ส่วนใหญ่คนมักจะมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นเพราะเค้าว่ากันว่ามันงามมาก ซึ่งสามารถเห็นทิวทัศน์ที่มีทั้งหมู่บ้าน ภูเขา และทะเลได้ในเฟรมเดียว
007 : พายคายัคคลองเขาแดง
แดดร่มลมตก ลมพัดโชยมาเอื่อยๆ เราสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ รับความเฟรชสุดท้ายก่อนที่จะเดินลงเขาเพื่อไม่ให้พลาดกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดท้ายที่คลองเขาแดง ด้วยความที่เราเป็นคนชอบหาข้อมูลมาก่อนการเดินทาง ทำให้รู้มาว่าที่คลองเขาแดงนอกจากจะมีล่องเรือแล้วก็มีพายคายัคด้วย แต่ไม่มีข้อมูลติดต่ออะไรทึ้งไว้เลย บางเว็บมีแต่ก็เก่าตั้งแต่ 10 ปีก่อนนู้น เราเลยให้คุ๊กกี้ทำนายกัน walk in ถามทางจากชาวบ้าน ว่าจุดไหนมีให้พายคายัคบ้าง บางบ้านก็บอกไม่มี บางบ้านบอกมีแต่ไม่รู้อยู่ตรงไหน ไอเราได้ยินแบบนั้นก็เกือบถอดใจเลี้ยวรถกลับบ้านแล้ว แต่ความโชคดีของเรายังมีอยู่ จู่ๆ คุณลุงคนนึงขี่จักรยานมาชี้ทางสว่าง บอกพิกัดติดต่อลงเรือให้เราเรียบร้อย
เส้นทางการพายคายัครวมๆ แล้วประมาณ 3 กิโลเมตร ขาพายเข้าจะเหนื่อยหน่อยเพราะพายต้านลม เราก็พายๆ หยุดๆ ดูหมู่บ้านชาวประมงริมฝั่ง มีทั้งคนมาจับปลา หาปูอยู่บนเรือ พายไปเรื่อยๆ จะลอดใต้สะพานสีแดงโดดเด่นของวัดเขาแดง จากสองข้างทางที่เป็นหมู่บ้านก็เริ่มเป็นป่าชายเลนสลับกับภูเขาหินปูน เราเห็นมุมภาพแบบนี้จากจุดชมวิวมาแล้ว แต่พอมาเห็นจากบนเรือในอีกมุมก็สวยดีเหมือนกันนะแก เรือคายัคของเราค่อยๆ พายช้าลงจนกลับมาจอดเทียบฝั่งพร้อมกับแสงที่ค่อยค่อยหมดไป มันคงถึงเวลาที่เราจะต้องโบกมือลาทริปนี้จริงๆ เสียที ถึงเวลาหอบความสุขกับพลังงานบวกๆ กลับไปฝากคนที่บ้าน
แกว่ามั้ย!! ทุกคนย่อมมีตัวช่วยในการเดินทางให้ทริปสมบูรณ์แตกต่างกันไป บางคนขอแค่หนังสือดีๆ สักหนึ่งเล่ม บางคนอาหารรสเด็ดแบบจัดเต็มสักหนึ่งมื้อ ส่วนเราเป็นคนหนึ่งที่เลือก Café Amazon Drip Coffee ให้เป็นเพื่อนซี้ร่วมทางที่ขาดกันไม่ได้ เพราะนอกจากนางจะช่วยเติมเต็มความสดชื่น กระปรี่กระเปร่าให้เราในยามเช้าแล้ว ยังสามารถแบ่งปันกาแฟแก้วโปรดนี้กับคนข้างๆ ให้ละมุนไปด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเราได้ด้วยเช่นกัน ย้ำกันอีกรอบว่าทริปของเราสมบูรณ์แบบได้ง่ายเพราะ Café Amazon Drip Coffee สามารถหาซื้อได้จากร้านอเมซอนทุกสาขาทั่วประเทศ
เห็นแล้วใช่มั้ยว่าหัวหินปี 2018 ที่เราพาไปอัพเดตมันทั้งเท่ ทั้งมีสีสัน เหมาะกับซัมเมอร์ร้อนร้อนแบบนี้เป็นที่สุด คราวนี้แกรก็สามารถเอาไปเป็นเหตุผลในการอ้อนใครสักคนไปเที่ยวหัวหินได้แล้ว เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเบื่อรูทเดิมให้แกลองตัดนั่นออกนิดเพิ่มเติมนี่เข้าไปนิดหน่อย การเดินทางครั้งต่อไปมันก็จะมีความหมายต่างจากไปจากเดิม แต่ถ้าคิดไม่ออกว่าจะเพิ่มจะตัดอะไรลองเปลี่ยนคนที่ไปด้วยสิมันเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะ 555 สุดท้ายอยากบอกว่าการออกเดินทางมันดี๊ดี ถึงแม้ต้องเสียตังนิดหน่อย สอยเวลาเราไปบ้าง แต่สิ่งที่พบเจอระหว่างทางอาจเป็นคำตอบของคำถามที่เราหามาทั้งชีวิตก็ได้นะเหวย …