หากวันลายังไม่หมด อย่าเพิ่งตัดจบช่วงเวลาแห่งความสุข ก่อนที่ซัมเมอร์กำลังจะลาไป เราขอให้ทุกคนชวนก๊วนเพื่อนตีตั๋วแลนด์ดิ้ง มาพักใจที่ภูเก็ตอีกสักครั้ง กับ 9 โลเคชั่นถ่ายรูปสวย ที่จะมาช่วยเพิ่มความแช่มชื่น เติมเอเนอจี้ให้เต็มร้อย ตั้งแต่นอนอ้อยอิ่งริมหาดให้น้องแมวมาออเซาะ ขับเลาะริมเลไปเจอจุดเช็คอินว้าว ๆ นั่งมองสาว ๆ ถ่ายรูปในคาเฟ่ดีไซน์คิ้วท์ แล้วไปเดินชิลตากแอร์สบาย ๆ ในอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แน่นอนว่าทริปนี้เที่ยวทุกจุดได้แบบไม่ Lost Connection เพราะเรามี AIS Hi-Speed Pocket WiFi RUIO E524(eSIM) ที่มาพร้อมซิมเลขหมายใหม่ จากแพ็กเกจเน็ตมาราธอนพกติดตัวมาด้วย กับความเร็วเต็มสปีดจุก ๆ แชร์ให้เพื่อนใช้กันได้รัว ๆ เหมาะกับการเที่ยวฉบับคนยุคใหม่ ที่ต้องพร้อมอัพเดททุกสถานการณ์
ก่อนจะดูเช็คลิสต์ที่เรามัดรวมมาให้ ขั้นตอนการเกียมตัวก็สำคัญไม่แพ้กัน นอกจากแพลนเที่ยวแบบครบรส เสื้อผ้าหน้าผมลุคเกาหลีเกาใจ อีกปัจจัยที่ขาดไม่ได้คือสัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่จะทำให้การท่องเที่ยวเราไม่สะดุด กับค่ายสัญญาณยืนหนึ่ง AIS ไม่ว่าจะขึ้นเหนือลงใต้ก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง พอเขาออกตัว Pocket WiFi คนทำงานนอกสถานที่อย่างเราก็สอยมาใช้สิครับ.. จะรออะไร? กับตัว AIS Hi-Speed Pocket WiFi RUIO E524(eSIM) ที่มาพร้อมซิมเลขหมายใหม่ จากแพ็กเกจเน็ตมาราธอน ขนาดก็เล็กพกพาสะดวก ใช้เน็ตได้ 100 GB/เดือน จุกแบบไม่มีอะไรกั้น แถมจ่ายครั้งเดียวอยู่ได้ตลอดทั้งปีราคาเพียง 2,345 บาทเท่านั้น แล้วยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานอีกมากมายเลยนะ.. เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟัง
01 เกาะไข่ใน
เปิดพิกัดแรกให้สมคำขวัญไข่มุกอันดามันสวรรค์แดนใต้กับ เกาะไข่ใน เกาะเล็ก ๆ บนท้องทะเลสีครามฝั่งอันดามัน สามารถเดินเที่ยวรอบเกาะแบบชิล ๆ ได้ภายใน 10 นาที แม้พื้นที่จะถูกบรรจุไว้เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดพังงา แต่ความจริงเดินทางจากภูเก็ตนั้นใกล้กว่า เพราะใช้เวลานั่งเรือเพียง 20 นาทีจากฝั่งเท่านั้นเอง ถึงจะเป็นเวลาสั้น ๆ แต่บนนี้ก็มีกิจกรรมมากมายให้เราได้เลือกทำ
อย่างแรกที่เราได้ดื่มด่ำตั้งแต่ย่ำเท้าลงมาจากเรือคือ ความนุ่มละมุนของเนื้อทรายขาวละเอียดดั่งเนื้อแป้ง พร้อมแผงเตียงผ้าใบวางต้อนรับให้เราไปจับจอง วางของแล้ววิ่งลงทะเล เอาร่างไปปะทะกับคลื่นน้ำใสระยิบระยับราวอัญมณีสีเขียวฟ้า อย่าลืมหยิบชูชีพ แว่นดำน้ำลงมาด้วย เพราะปะการังตรงนี้ละลานตาไปด้วยปลาเล็กปลาน้อยมาแหวกว่ายเป็นเพื่อนเราเต็มไปหมด หรือใครไม่พร้อมเปียกก็เดินไปถ่ายรูปตามโขดหิน เท่ ๆ ฟีลพินเทอเรสก็ได้ไม่ว่ากัน
ส่วนสิ่งที่ทำให้เราข้ามน้ำข้ามทะเลมาก็คือฝูงแมวทุกเพศวัย น้องจะกระจายอยู่ทั่วทุกซอกมุมของเกาะ ปรับเปลี่ยนอิริยาบถอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนั่งเลียมือเลียเท้า นอนขี้เซา วิ่งไปอ้อนเอาขนมจากมือนักท่องเที่ยว ทำเอาทาสแมวอย่างเราพูดเสียงสองตลอดเวลา แค่เห็นขนมแมวเลียก็เดินมาออดอ้อน ให้อุ้มถ่ายรูปแต่โดยดี น่ารักเกินปุยมุ้ยแก ด้วยความน่ารักเหล่านี้เกาะไข่ในแห่งนี้จึงถูกเรียกติดปากอีกชื่อว่า “เกาะไข่แมว” ด้วยนะ
แม้จะติดอยู่บนเกาะเราก็ยัง connect ได้ไม่สะดุด ทั้งอัพรูปแชร์สตอรี่น้องแมวได้แบบเรียลไทม์ พร้อมกันหลาย ๆ คน เน็ตไม่ดร๊อปด้วย AIS Hi-Speed Pocket WiFi 4G เอามาดูซีรีส์ เน็ตเต็มสปีดความเร็วสูงสุด 4G เชื่อมต่อการใช้งานอินเตอร์เน็ตได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์พร้อมกันเลย จะคลิปยูทูป ประชุมออนไลน์ได้แบบชิล ๆ ที่สำคัญขนาดเล็กน้ำหนักเบา พกพาสะดวกไม่เปลืองเนื้อที่กระเป๋า ใครเดินทางบ่อย ๆ เราว่าต้องมีไว้สักเครื่องแล้ว จ่ายครั้งเดียวใช้ได้ตลอดปีเลย
02 Aquaria Phuket
อีกกิจกรรมให้เราเพลิดเพลินไปกับโลกใต้ทะเลได้โดยไม่ต้องเปียก แถมได้แต่งตัวตามใจไปแชะภาพคู่กับเหล่าปลาตัวโตใต้ทะเลลึกได้แบบง่าย ๆ กับอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกเวย์ที่ทำให้เราเที่ยวทะเลได้แบบสมมง เพราะเขาจัดโซนได้ครบ วางแสงได้สวย ยิ่งใหญ่กว่าที่เราจินตนาการเอาไว้มาก ๆ โดยมีทั้งหมด 9 โซนโดนใจคนรักโลกใต้บาดาล ทั้งน้ำจืดน้ำเค็ม สิ่งมีชีวิตริมลำธาร สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ จำลองเรือดำน้ำที่จมอยู่ใต้ทะเลลึกก็มี สถานีวิจัยโลกใต้น้ำก็มา และยังมีโชว์พิเศษตามช่วงเวลาด้วย บอกเลยว่าสวยคุ้มเกินค่าตั๋วสุด ๆ
ไฮไลต์ที่เป็นจุดถ่ายรูปปังตรงปกไม่จกตา กับตู้แสดงที่ใหญ่ที่สุดในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จุน้ำถึง 3.5 ล้านลิตร เนืองแน่นไปด้วยปลากว่า 100,000 ตัว แยกได้กว่า 500 สายพันธุ์ เรียกว่าเป็นอีกอาณาจักรของโลกใต้ทะเลได้เลย โดยเราเดินทะลุตรงกลางเหมือนเดินลอดอุโมงค์ เห็นน้องว่ายข้ามไปมาอย่างสบายอารมณ์ เห็นปลากระเบนส่งยิ้มหวานผ่านกระจกมาให้อย่างน่ารัก
และอีกจุดที่พลาดไม่ได้คือโซนแมงกระพรุน เขาจัดสีสันไล่เฉดสวยงาม ทะลุผ่านแมงกระพรุนโปร่งแสงที่ว่ายวนกรีดหนวดพริ้วไปทั่ว ทุกอย่างดูเงียบสงบเนิบนาบมีแค่เสียงน้ำจากตู้ เหมือนเราได้อยู่ใต้ทะเลกับเขาจริง ๆ จบจากสองโซนก็อยากให้เพื่อน ๆ เดินวนดูกันให้รอบเชื่อว่าลั่นชัตเตอร์กันได้เป็นร้อยเลยล่ะ
03 Hohiho Phuket
คาเฟ่ใหม่เพิ่งเปิดได้หลักเดือน ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมเยือนเป็นที่สุด ร้านที่ตกแต่งอย่างสบายตาด้วยโทนขาว น้ำตาล สีสุดป๊อปแต่พร็อพถ่ายรูปหน้าร้านไม่เหมือนใคร กับน้องต้นไม้สูงยาวฟอร์มสวยเหมือนเป็นมาสคอตประจำร้านไปแล้ว โดยชื่อ Hohiho นี้ย่อมากจากคำที่บ่งบอกถึงนิยามของร้านคือ home style / high away และ holistic เน้นความเป็นโฮมคุกกิ้ง อยู่บนถนนเส้นหลักที่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวนิดหน่อย และมีความหลากหลายของเมนูถึง 150 รายการ เยอะจนอยากเข้าไปดูครัวเลยว่าเขามีแม่ครัวกี่คนกันนะ
นอกจากตัวร้านจะสวยหรูแบบลูกคุณหนูชิคเก๋แล้ว ฝีมือการทำอาหาร ขนม เครื่องดื่มยังต้องยกนิ้วให้ และไม่ว่าเมนูจะเยอะขนาดไหนการครีเอทีฟหน้าตาอาหารก็คือเอาคะแนนไปเลยเต็มสิบ สวยน่าทานมาก ๆ ส่วนเมนูที่เราอยากแนะนำคือ Creamy Mushroom Truffle Soup ซุปเห็ดกลมกล่อมเนื้อหนืดกำลังดีหอมกลิ่นทรัฟเฟิลขึ้นจมูก และ Squid Ink Spaghetti Vongole สปาเกตตี้เส้นดำผัดหอยตลับ ผัดจนหอมความทะเลเคล้ารสชาติเค็มกลมกล่อม โรยด้วยมอสซาเรลล่าชีส สร้างอรรถรสแก่อาหารอิตาเลี่ยนให้น่าทานได้แทบทุกจาน กับสเต็กที่ทำมาแบบมีเดียมแรร์บอกเลยว่าเนื้อจุ๊ยซี่กินตัดเลี่ยน อร่อยจนใจบางไปหมด
ถือเป็นร้านที่ครบจบที่เดียวเลยนะ เพราะนอกจากเราจะอิ่มหนำกับอาหารรสโฮมคุกกิ้งแล้ว ยังมีมุมนั่งชิลที่สวนหน้าบ้าน ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศแสนสงบไม่จอแจ ทางเราเลยหาที่นั่งหลบมุมใต้ร่มไม้ มีลมพัดเอื่อยพัดมาเรื่อย ๆ เปิดดูซีรีส์สักตอนสองตอน โดยไม่ต้องกังวลว่า WiFi ร้านค้าจะเชื่อมไม่ถึง เพราะเราพก AIS Hi-Speed Pocket WiFi 4G มาเอง Feel like home ได้ทุกที่เลย
04 Longchan Patisserie
มาส่องคาเฟ่แถบป่าตองกันบ้าง แม้หน้าร้านจะดูเรียบ ๆ แต่บอกเลยว่าเป็นร้านที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ชื่อร้านอ่านเป็นไทยได้ว่า “ลงจาน” ขอเริ่มบรรยายจากที่ตั้งที่อยู่ริมหาดป่าตอง มองเห็นวิวทะเลและท้องฟ้าเปลี่ยนสีได้ตลอด 24 ชม. การตกแต่งภายในสุดมินิมอล มีดีเทลเล็ก ๆ ให้เรามองแล้วรู้สึกถึงความใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้สดที่จัดวางชูช่ออย่างสวยงามบนแต่ละโต๊ะ หลังคาร้านบางช่วงเป็นกระจกใส ให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาประหนึ่งสปอร์ตไลท์ ชั้นวางของแบบบิ้วท์อินรูปทรงโค้งมนไม่น่าเบื่อ มองกวาดตาดูแล้วรู้สึกไหลลื่นลงตัวสุด ๆ
คอนเซปต์ของร้าน “ลงจาน” คือก่อนที่ขนมแต่ละชิ้นจะจัดส่งมาสู่เรา เขาจะมีการตกแต่งสดใหม่อย่างพิถีพิถันมาก ๆ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ไม่ค่อยได้เห็นในคาเฟ่ทั่วไป แต่จุดอ่อนคือมันสวยจนเราไม่กล้ากิน.. เราสั่งทุกเมนูแนะนำ ทั้งข้าวเหนียวมะม่วงเสิร์ฟเหมือนขนมฝรั่งเศสแสนหรู, Blueberry Day รวมความบลูเบอร์รี่ทุกเท็กเจอร์ไว้ในจานเดียวไม่ว่าจะเป็น mousse / cream cheese / ganache / jam ทานคู่กับบิสกิตบดอัดเป็นชิ้นตัดหวานได้ดี และ Blueberry & chocolate tart อันนี้หอมกลิ่นช็อคโกแลต มีเบอร์รี่เปรี้ยว ๆ กินรวมกันในปากแล้วลงตัวมาก ๆ สั่งมาทานคู่กับโซดาไซรัปสร้างความซาบซ่าไปได้ตลอดวันเลย
05 MOONSTo̲̲NE
ใครมีแพลนที่ต้องมาขึ้นเรือที่ท่าเรือวิสิษฐ์ ขอแนะนำให้เผื่อเวลามาเช็คอิน MOONSTo̲̲NE คาเฟ่ฟีลเกาหลีที่ตกแต่งแบบมินิมอล เน้นสีขาว ฟ้า เข้ากับบรรยากาศโดยรอบ เหมาะกับการหอบร่างอันโรยราเพราะนีดคาเฟอีน มาเติมกาแฟเข้าเส้น พร้อมเทควิวฟ้าคราม ทะเลใสท้าแดดอีกสักกรุบคือที่สุด เขามีให้เลือกทั้งมุม indoor และ outdoor คอยมอบความชิลที่แตกต่างกัน ข้างในแอร์เย็นฉ่ำ พร้อมการออกแบบตกแต่งเน้นรูปทรงกลมมนโค้งเว้าตัดทรงเลขาคณิตให้เรานั่งมองเพลิน ๆ ส่วนด้านนอกก็เน้นแสงงามมุมสวยสไตล์ท่าเรือ ให้ถ่ายสตอรี่ได้ไม่จำกัดเวลา
เมนูที่ทางร้านมีจะเน้นขนมและเครื่องดื่ม หน้าตาเรียบ ๆ แต่เพรียบพร้อมด้วยดีเทลหวาน ๆ อย่าง Chocolate caramel mousse cake มูสเค้กเนื้อเนียนแน่นหวานอ่อน ๆ ที่มีดอกไม้คล้ายเดซี่วางตกแต่ง เอาใจสาว ๆ ไปเต็ม ๆ ส่วนกาแฟเขาก็เป็น Special blend รสกลิ่นละมุนสร้างความสดชื่นท่ามกลางอากาศร้อนได้อย่างมาก ใครไม่ใช่สายกาแฟเขามี Milkshake, Cheese Tea, Smoothie ฯลฯ ด้วยนะ มามะรับรองว่าไม่ผิดหวัง
ถ่ายรูปจนเม็มแทบเต็ม เราก็ไม่พลาดที่จะแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ผ่านโซเชียลกันสักโพสสองโพส อัพแข่งกับเพื่อนให้หน้าฟีดมีแต่ทริปของเรา ด้วยเน็ตที่เร็วแรงจาก AIS นี่ละ เพื่อนเน็ตหมดก็มาขอได้เพราะ AIS Hi-Speed Pocket WiFi 4G ตัวนี้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากสุดถึง 10 เครื่อง พก Notebook Tablet Ipad ก็ต่อเน็ตได้หมด ไม่ต้องมานั่งตามหา Passwoed WiFi แต่ละจุดให้เหนื่อย
06 หาดกะหลิม
ใครจะไปคิดว่าหาดเล็ก ๆ อย่างกะหลิมที่เรามักขับผ่านไปผ่านมา มันจะมีมุมลับสุดว้าว ให้เราได้ถ่ายรูปเช็คอิน ฟีลเหมือนอยู่ทะเลต่างประเทศกับเขาด้วย แม้ที่นี่จะอยู่ใกล้กับหาดป่าตอง แต่ด้วยพื้นชายหาดเป็นหาดทรายสลับโขดหินเล็ก ๆ และปะการัง เลยไม่ค่อยมีคนมามากนั้น บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความเงียบสงบ ถ้ามองดี ๆ จะมีจุดหนึ่งเป็นดงต้นมะพร้าวขึ้นสูงใหญ่ ลาดลงไปตามเนินเขาสู่เวิ้งน้ำสีฟ้าใสจนเห็นโขนหินใต้น้ำ ให้เราได้ใส่ชุดคลีน ๆ มายืนโพสท่าถ่ายรูปเหมือนเที่ยวอยู่ทะเลศรีลังกายังไงอย่างงั้นเลย
07 แหลมไทร คัพ
ถ้าอยากหาจุดชมวิวที่ยังไม่ค่อยมีคนเห็น ขอให้แวะมาที่นี่ เพราะครั้งแรกที่มา เราถึงกับต้องจดเข้าลิสโลเคชั่นโปรดประจำเมืองภูเก็ตอย่างว่องไว ณ จุดชมวิวแหลมไทร ตั้งอยู่แถวหาดกะรน วิวที่เห็นจากจุดนี้เราจะพบกับด้านข้างของแนวเขาใหญ่สไตล์ริมเกาะ มีโขดหินเรียบเนียนใหญ่ยักษ์มากมายวางซ้อนกันเป็นแนว เห็นเท็กเจอร์การกัดเซาะของน้ำทะเลตามธรรมชาติ ซึ่งใหญ่พอให้เราไปยืนถ่ายรูปได้ทั้งฟีลป่าและฟีลทะเลในคราวเดียว ทางลงจะอยู่ตรงคาเฟ่แหลมไทรคัพ แนะนำว่ามาช่วงเย็นก็จะได้ฟีลฟ้าเปลี่ยนสี พระอาทิตย์ตกเป็นภาพมาสเตอร์พีซประจำทริปได้เลย
แต่ถ้ามาช่วงเวลาอื่นก็สามารถดื่มด่ำบรรยากาศรอบ ๆ ได้เหมือนกัน ด้วยเสน่ห์ของทะเลทางใต้ที่ไม่เหนียวตัว เวลาเจอลมพัด คลื่นเซาะกระเซ็นร่างกายก็พร้อมบวกอยู่ตลอดเวลา แค่ได้นั่งสัมผัสละอองน้ำ มองความสวยงามของน้ำทะเลสีฟ้าสะท้อนแดด บนโขดหินสีเขาตัดกับแมกไม้เขียวชอุ่มชุ่มน้ำที่แซมกันอย่างลงตัวแล้ว ก็ถือเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เนิ่นนานให้เราได้อยู่กับตัวเอง
08 ย่านเมืองเก่าภูเก็ต
ไม่ว่าจะมาภูเก็ตสักกี่รอบ ย่านเมืองเก่า ก็ยังเป็นโลเคชั่นที่เราต้องใส่ลงแพลนอยู่เสมอ.. แม้จะผ่านมากี่สมัย ที่นี่ก็ยังคงยืนหยัดแบบ never die เพราะตัวสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ชิโนยูโรเปียนสีสันสวยงาม ทำให้ติดลมบนแหล่งท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมที่มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่มากมาย จนตามเช็คอินแทบไม่หวาดไม่ไหว ถือเป็นจุดที่ช่วยตัดเลี่ยนจากทะเล สวิตซ์เข้าสู่โหมด instagrammable ได้ทันที
นอกจากเหล่าร้านค้าที่แทรกอยู่ตามตึกแล้ว ที่นี่ยังคงเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเมืองเก่าอยู่จริง ๆ ยังมีวิถีชีวิตชุมชน กลิ่นอายความเป็นจีนอยู่อย่างเข้มข้น โดยเขาได้สื่อผ่านสตรีทอาร์ตเท่ ๆ วาดลวดลายลงสีบนผนังหลายสิบจุดให้เราตามร้อยเรียงเรื่องราว หรือจะไปสำรวจโรงแรมเก่าแก่ระดับตำนานในตึกอายุกว่าร้อยปี กินอาหาร-ขนมพื้นเมืองขึ้นชื่อข้างทาง อาทิ โอวต้าว หมี่หุ้น เต้าส้อ ฯลฯ พร้อมทั้งถ่ายรูปสลับกันไปไม่มีเบื่อ
แม้จะเข้าหลืบซอกซอยขนาดไหนก็ไม่ทำให้การตามล่าหาร้านเด็ด หรือจุดถ่ายภาพนี้สะดุด เพราะเราช่วยกันเปิด maps จับสัญญาณได้เต็ม ๆ ด้วย AIS Hi-Speed Pocket WiFi 4G แชร์เน็ตกันได้ โดยไม่ต้องง้อ Hotspot จากมือถือให้เปลืองแบต เราว่าเหมาะกับคนมีเพื่อนต่างชาติที่มาเที่ยวไทยด้วย แชร์กันสนุกไม่ต้องกลัวเน็ตหมดเลย แถมแบตน้องยังอึดถึง 3,000 mAh
อ๊ะ ๆ ขอแถมอีกสักหน่อยกับแลนด์มาร์กสุดเก๋า หอนาฬิกาอายุร้อยกว่าปี ตั้งอยู่บนอาคาร 2 ชั้นรูปตัวแอล สีเหลืองไข่ไก่ ตรงสี่แยกธนาคารชาร์เตอร์ กลางวันได้รูปสตรีทดูคลาสสิก ส่วนกลางคืนเมื่อเริ่มเปิดไฟตัวตึกและริมทาง ก็ช่วยแต่งแต้มสีสันให้ถนนเส้นนี้น่ามอง ดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันตา
09 จุดชมวิวกังหันลม
ขาดไม่ได้เลยคือจุดชมวิวทะเลแบบพาโนราม่าจากมุมสูง หลายคนอาจนึกถึงแหลมพรหมเทพ แต่ทางเราขอแหวกแนว เพราะติดใจกับ จุดชมวิวกังหันลม ที่อยู่ถัดมาอีกหน่อย จากจุดนี้นอกจากเราจะได้ลมกระพือจุก ๆ ไปพร้อมกังหันลมแล้ว ยังได้เห็นความเวิ้งว้างของทะเลอันกว้างใหญ่ มีเกาะแก่งมากมายแห่งอันดามัน โค้งอ่าวที่หลบลมของเหล่าเรือยอร์ช เห็นแหลมพรหมเทพและหาดยะนุ้ยได้อย่างชัดเจน ถามถึงความโรแมนติกก็ลองจูงมือแฟนมานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินตรงนี้ดู แล้วจะรู้ว่าฟีลลิ่งมันดีขนาดไหน
เที่ยวแต่ละที่บอกเลยว่าการเปิด Navigator นำทางนั้นสำคัญมาก ถ้ารู้ว่าทริปไหนสัญญาณมือถือของเพื่อนไม่แข็งแรง เราก็ยังมี AIS Hi-Speed Pocket WiFi 4G เครื่องนี้ช่วยไว้ได้อยู่ เพราะ AIS 4G เขาครอบคลุมทุกพื้นที่ กว้างไกลทั้งทะเลและบนเขา จากที่เที่ยวมาบอกเลยว่าไม่เคยผิดหวัง
การใช้งาน AIS Hi-Speed Pocket WiFi 4G นี่ใช้ง่ายกว่าที่คิด ตั้งแต่กระบวนการเปิด จนถึงการเชื่อมต่อ โดยเขาจะมาพร้อมซิมเบอร์ใหม่ แล้วโหลดแอป myAIS เพื่อลงทะเบียน เท่านี้ก็สามารถเชื่อมต่อกับทุกคนบนโลก พร้อม ๆ กันทุกอุปกรณ์ได้แล้ว ขนาดเล็กกระทัดรัด แบตอึดจนแทบไม่ต้องชาร์จเพิ่ม สัญญาณเร็วแรงด้วย AIS 4G ถึง 100 GB/เดือน แล้วยังสามารถเชื่อมต่อได้ถึง 10 อุปกรณ์ จ่ายเพียงแค่ 2,345 บาทก็ใช้ได้ตลอดปี คุ้มเกินใครขนาดนี้ ไปหาซื้อกันได้เลยที่ AIS Online >> https://m.ais.co.th/mlHAOzDSo
สุดท้ายเราหวังว่า 9 จุดเช็คอินที่เอามาฝาก จะได้เข้าไปอยู่ในแพลนทริปก่อนหมดฤดูร้อนในปีนี้ของเพื่อน ๆ ด้วยนะ.. บอกได้เลยว่าภูเก็ตยังคงเป็นที่ ๆ เหมาะกับซัมเมอร์ที่สุดจริง ๆ เที่ยวตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ เราก็ได้กลับบ้านพร้อมกอบโกยความสุขจนล้นใจทุกครั้ง.. ซึ่งเราก็อยากส่งต่อความสุขนี้ไปให้ทุกคนได้รู้สึกเหมือนกัน