รีวิวพังงา :: Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas

รีสอร์ตไกด์รอบนี้ เราขอพาทุกคนมาเปิดประสบการณ์การพักผ่อนแบบหรูหรา ประหนึ่งว่าได้ใช้ชีวิตอยู่ในราชาสถานแห่งอาณาจักรโบราณ “ตะโลกา” ณ “เทวาศรม เขาหลัก” รีสอร์ต 5 ดาว ที่มาพร้อมการออกแบบอย่างพิถีพิถันภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ร้อยเรียงเรื่องราวอดีตกับปัจจุบันอย่างลงตัว บนโลเคชั่นสุดพิเศษที่ติดทั้งชายหาด ลากูน ให้เราสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเอ็กซ์คลูซีฟ ตั้งแต่การบริการ กิจกรรมชิล ๆ ห้องพักสวยวิวทะเล รวมถึงห้องอาหารที่ได้รับการแนะนำจากมิชลินไกด์ ดีงามราวกับว่าทุกความวิเศษได้ถูกจัดวางไว้รอให้ทุกคนมาสัมผัส …

ที่นี่ใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูล สรรหาวัสดุนานหลายปี ก่อนจะออกแบบอย่างพิถีพิถันภายใต้คอนเซ็ปต์ “เมืองตะโกลา” อดีตชื่อเดิมของตะกั่วป่า ที่เคยเจริญรุ่งเรืองจนได้สมญานามว่าเป็นเส้นทางสายไหมทางทะเล หากค่อย ๆ สังเกตจะเห็นได้ว่าการตกแต่งมีความละเมียดละไม เผยรายละเอียดทางวัฒนธรรม ความมั่นคั่งร่ำรวยสไตล์เมืองแห่งการค้าขาย ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับอิทธิพลจากอินเดียและศรีลังกา และด้วยโลเคชั่นที่ห้อมล้อมไปด้วยชายหาด ลากูน ให้เราสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติที่แตกต่าง ย่ิงช่วยสร้างมิติในการพักผ่อนได้มากกว่าที่ไหน ๆ 

ความรู้สึกผ่อนคลายเริ่มขึ้นทันที เมื่อเราก้าวเข้าสู่ล๊อบบี้สีเอิร์ธโทน ที่ตกแต่งด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้แมทช์กับความคลีนของอาคารอย่างดี แค่มีลมธรรมชาติพัดเอื่อยสบาย ๆ คลายเหนื่อยด้วยเซตเวลคัมดริ้งค์ พร้อมผ้าเย็นที่จัดเสิร์ฟอย่างสวยงาม มีบริกรมาทักทายด้วยรอยยิ้มคอยแนะนำบริการต่าง ๆ แค่นี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นการพักผ่อนที่ฟีลกู๊ดมาก ๆ แล้ว

ตัวล๊อบบี้และโซนห้องพักถูกเชื่อมกันด้วย Devasom Gate ประตูแห่งกาลเวลา เป็นประตูไม้บานใหญ่ เท็กเจอร์เก่ามีมนต์ขลังน่าเกรงขาม ถือเป็นอีกหนึ่งของสะสมโบราณ ที่ยกมาจากเมืองกลางทะเลทรายในประเทศอินเดีย นอกจากนี้ตรงทางเดินก็จะเจอกับอุโมงค์แบบโบราณ สร้างจากอิฐวางให้เกิดช่องว่าง เพื่อแสงภายนอกจะได้ลอดผ่านมาได้ เมื่อผ่านสองจุดนี้ก็ถือว่าเราได้เดินทางย้อนเวลาสู่โลกแห่งอารยธรรมเก่าแก่นี้อย่างเต็มตัวแล้ว

ในการออกแบบเขาไม่ได้คำนึงถึงแค่เรื่องสตอรี่เท่านั้น เรื่องความกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบก็สำคัญเช่นกัน โดยโทนสีของที่นี่จะเน้นไปทางขาว-น้ำตาลอ่อน ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ คละความโมเดิร์นและวินเทจเข้ากันอย่างลงตัว มีพื้นที่สีเขียวล้อมรอบขับกับหาดทรายขาว และทะเลสีมรกตได้อย่างสวยงาม ยามแสงแดดสาดส่องไม่ว่าจะเช้าหรือเย็นก็จะทำมุมแสงเงาให้เราถ่ายรูปได้อยู่ตลอด เรียกว่าเป็นสวรรค์ของเหล่าอินสตาแกรมเมอร์เลยก็ว่าได้ เพราะมุมไฮไลท์สวย ๆ มีเยอะกระจายอยู่ทั่วทั้งรีสอร์ต

เพื่อตรงกับความต้องการที่หลากหลาย เขาจึงมีถึง 7 รูมไทป์ให้เลือกพัก คือ Seaside Grand Deluxe, Seaside Junior Suite with Jacuzzi, Seaside Pool Paradise Suite, Beach Pool Villa, Beachfront Pool Villa and Two Bedroom Beachfront Pool Villa and Sky Villa ห้องแบบเพนท์เฮาส์ ตั้งอยู่ชั้นสูงสุดของโรงแรม ส่วนห้องที่เราพักเป็น Beachfront Pool Villa แบบ 1 ห้องนอน พร้อมสระน้ำส่วนตัว หันหน้าไปทางทะเลเป๊ะ สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้ปัง ๆ มีเดย์เบดนอนอ่านหนังสือชิล ๆ จากระเบียงเดินเท้าเปล่าลงสัมผัสทรายนุ่มถึงชายหาดได้เลิศ ๆ ไปอีก

บรรยากาศภายในห้องนอนมันแสนจะหรู แสนจะลูกคุณ สุดจะราชาด้วยโทนขาวน้ำตาลอ่อน เตียงหันหน้าออกให้เราตื่นมารับวิวทะเลเน้น ๆ เฟอร์นิเจอร์ไม้เรียบเนียนไม่ขัดเงาดูเป็นธรรมชาติ เสริมความแพงด้วยดีไซน์ สระว่ายน้ำวัสดุหินอ่อน ระแนงไม้แกะสลักติดบังเครื่องปรับอากาศไว้ บ่งบอกถึงความใส่ใจในรายละเอียด มองไปทางไหนก็ดูเรียบง่ายสบายตา อบอุ่นไปด้วยความละเอียดอ่อนชวนผ่อนคลาย ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในก็ครบจนเราแทบไม่ต้องเตรียมอะไรมาเองเลย

จากห้องพักมาดูที่ส่วนกลาง … ซึ่งเขามีสตอรี่น่าสนใจไม่แพ้กัน อย่างสระว่ายน้ำก็ได้แรงบันดาลใจมาจากบ่อน้ำโบราณทั้งกำแพงด้านข้าง ที่หลายคนอาจจะคุ้นตามาบ้าง จากภาพบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในประเทศอินเดีย ที่จะมีชั้นน้ำลงหลั่นลงมาเรื่อย ๆ ซึ่งที่นี่ก็มีการไล่ระดับของสระเช่นกัน เพิ่มลูกเล่นด้วยทรงโค้งเว้าของสระ เติมความหรูหราด้วยเท็กเจอร์หินอ่อน เมื่อแสงแดดกระทบที่ผิวน้ำแล้วทำให้ตัวสระมีลาดลายสวยเด่นระยิบระยับ

ส่วนเรื่องอาหารการกินก็ต้องบอกเลยว่าไม่เป็นสองรองใคร อย่าง Devasom Beach Grill ห้องอาหารริมทะเลที่ล่าสุดปี 2022 ได้รับการการันตีความดีงามจาก MICHELIN Guide 2 ปีซ้อน กับวิวสวย การจัดวางองค์ประกอบเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในพระราชวังริมหาด เน้นสีขาวน้ำตาลตัดฟ้าเข้ากับน้ำทะเล เพดานสูงโปร่งสบายตา พิถีพิถันทั้งการตกแต่งไปจนถึงวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหาร จะต้องเป็นของอย่างดี ผ่านมือเชฟผู้ชำนาญการ จัดเสิร์ฟเมนูอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์โฮมคุกกิ้ง อาหารตะวันตก พิซซ่าต้นตำรับอิตาเลียน หรือจะสั่ง Seafood Platter มาให้เข้ากับบรรยากาศ จิบพร้อมกับไวน์หรือค็อกเทล เคล้าวิวพระอาทิตย์ตกก็ถือเป็นมื้อที่น่าจดจำอยู่ไม่น้อย

กินดื่มอย่างราชาไม่เกินจริงถ้าเราอยู่ที่เทวาศรม สำหรับคนที่อยากลิ้มรสอาหารไทยชาววังและอาหารพื้นเมือง ขอแนะนำเป็น “ห้องอาหารตะโกลา” เพราะเขาได้รับการรันตีจาก บิบ กูร์มองด์ จาก MICHELIN Guide 2 ปีซ้อน 2021 ด้วยเป็นห้องอาหารแบบ All Day Dining เสิร์ฟตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เน้นตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีความร่วมสมัยระหว่างยุคปัจจุบันกับเมืองตะโกลาในอดีต อาทิ ระแนงไม้สลัก รูปทรงเสาและที่นั่งยาวแบบฉาบปูน พื้นที่กว้างขวางสามารถรองรับแขกได้เยอะ เน้นแสงธรรมชาติผ่านกระจกบานใหญ่วางเป็นแนวยาวตลอดห้องอาหาร มีโคมไฟห้อยระย้าส่องแสงส้มนวลชวนฝัน

สำหรับเมนูแนะนำที่เหมาะกับการทานดินเนอร์คงต้องเป็น ‘แกงปูใบชะพลู’ ที่เขาจัดเนื้อปูส่วนกรรเชียงมาให้แน่น ๆ ในน้ำกะทิข้นเคี่ยวมันกำลังดี หอมเครื่องเทศ มีรสเผ็ดหน่อย ๆ ทานคู่กับหมี่หุ้นนุ่ม ๆ มันสุดจะฟิน และอีกจานที่ห้ามพลาดเลยคือ ‘น้ำพริกตะโกลา’ จัดจ้านสไตล์แดนใต้ มีทั้งกระเทียม กุ้งแห้ง กะปิชั้นดีย่างหอม ๆ พริกขี้หนูสวนโขลกกับกุ้งเสียบ กินกับผักสด ไข่ต้มและข้าวสวยร้อน ๆ มันจะมีความเผ็ดร้อน เคล้ากลิ่นเครื่องเทศตีขึ้นจมูก อร่อยกลมกล่อมจนอยากลุกขึ้นมาขอบคุณคนทำเลยล่ะ

มื้อเช้าโดยปกติทางรีสอร์ตจะจัดบุฟเฟต์กินไม่อั้นที่ห้องอาหารตะโกลา แต่ถ้าอยากเพิ่มความเอ็กซ์คลูซีฟก็สามารถสั่ง Devasom Floating Breakfast มาทานที่ห้องได้ ตื่นมากระโดดลงสระ รับวิตามินดีจากแดดอุ่น ๆ ยามเช้า พร้อมเติมพลังงานกับอาหารหลากเมนู เคล้าลมทะเลเอื่อย ๆ กับบรรยากาศแสนจะไพรเวท ถือเป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่เพอร์เฟ็คสุด ๆ ไปเลย 

พักผ่อนก็แสนสบาย เรื่องกินก็สุขสำราญ เรื่องกิจกรรมเขาก็สุดว้าวเหมือนกัน เพราะมีมาให้เลือกอย่างเนืองแน่น อย่างใครอยากได้ฟีลจิบชายามบ่ายสไตล์คุณหญิงคุณชาย ก็มาสร้างความรื่นรมย์ด้วย Devasom Patisserie Tea Salon ชุด Afternoon Tea ณ ห้องสมุดสไตล์คลาสสิกของโรงแรม จัดเสิร์ฟเซตสวยหรูดูเลอค่า ด้วย Finger Foods จากวัตถุดิบชั้นเลิศ Decorate อย่างดี กับเค้กนุ่มละมุนปราณีตสไตล์ฝรั่งเศส จิบคู่กับชาดอกไม้หอมละมุนเสิร์ฟได้ทั้งร้อนและเย็น

ส่วนไฮไลต์เด็ดที่เอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ เรายกให้เป็นแพ็คเกจ Devasom Luxury Beach Camp นั่งชิลฟีลแค้มป์เคล้าซันเซ็ท เนรมิตทาร์ป ตกแต่งเชือก มีพร็อพโต๊ะเก้าอี้ ผ้าปูมาให้พร้อมสรรพ คอร์สนี้เขาให้เรานั่งยาวไปเลย 3 ชั่วโมง โดยในแพ็คเกจจะเสิร์ฟซิกเนอเจอร์ดริ้งก์ Beach Life, เครื่องดื่มอีกแก้วให้เราเลือกได้, น้ำเปล่า, ของกินเล่นและคานาเป้, ขนม ผลไม้ อิ่มหนำอามารมณ์ดี วิวสวย แล้วยังได้รูปงาม ๆ มาเปลี่ยนวอลเปเปอร์มือถือด้วย ถ้ามานั่งจับมือกับแฟนตรงนี้ก็โรแมนติกไปอีกแบบนะ แกว่าปะ?

อีกมุมที่เราชอบการออกแบบมาก ๆ จะอยู่ในโซนของ Devasom Spa ประทับใจตั้งแต่ประตูไม้บานเก่าแกะสลักละเอียดละเมียดละไม เผยเข้าสู่ดินแดนศาสตร์แห่งอโรม่า กับศาลาพื้นหินอ่อนกลางสระน้ำ มีผ้าม่านสีขาวบาง ๆ กั้นรอบด้าน บริการคอร์สสปาที่หลากหลาย สไตล์ลักซ์ชัวรี่ผสมผสานทั้งแบบไทย อินเดีย และตะวันตกเข้าด้วยกัน กลายเป็นเอกลักษณ์จนได้เป็นหนึ่งในสปาโรงแรมที่ดีที่สุด เชื่อว่าถ้าได้ลองสักคอร์สเธอจะได้ช่วงเวลาพักผ่อนที่คอมพลีท สลัดได้ทั้งความปวดทางกายและความเหนื่อยทางใจ

นอกจากกิจกรรมที่เราว่ามานี้ เขาก็ยังมีคอร์สอีกมากมายให้เลือกนะ ถ้าอยากนั่งริมทะเลฟีลลิ่งน่ารัก ๆ ลองดู Devasom Beach Picnic จับเซตปิกนิกปูผ้านั่งจิบแชมเปญเบา ๆ สำหรับสาย Activities จะหยิบบอดี้เซิร์ฟมาโต้คลื่นมันส์ ๆ จับไม้มาพายคายัคเลียบลำน้ำชมธรรมชาติ ล่องแพดเดิ้ลบอร์ดกลางทะเลกว้างใหญ่ อาบแดดให้ผิวเป็นสีน้ำผึ้ง หรือปั่นจักรยานเที่ยวรอบตะกั่วป่าชมวิถีชีวิตของผู้คน อยากพักผ่อนแบบไหนเลือกได้เลย

บอกเลยว่านอกจากถ่ายรูปสวย พักผ่อนอย่างสะดวกสบายระดับ 5 ดาวแล้ว เรายังได้สนุกไปกับการชมผลงานศิลปะ ความละเอียดที่ลึกซึ้งและเรื่องเล่าอันน่าค้นหาด้วย รับรองว่าถ้าเพื่อน ๆ ได้มาจะต้องพบกับบรรยากาศการพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครสามารถทำให้เหมือนได้อย่างแน่นอน