แพลนเที่ยวทะเลซัมเมอร์สุดชิควันนี้ เราขอพาทุกคนเดินทางลงใต้ไปสะบัดผ้าท้าแดด เติมความสดใสซาบซ่ากันที่ สมุย เกาะสวรรค์บนทะเลสีครามแห่งอ่าวไทย กับ 8 พิกัด ที่ตั้งใจคัดมาเน้น ๆ ว่าเลอค่า ไม่ว่าจะเป็นที่กินฟิน ๆ ที่เที่ยวเลิศ ๆ ที่พักเก๋ ๆ จะตามไปเช็คอินจุดไหนก็ปั๊วะ จะถ่ายรูปเวลาไหนก็ปัง งานนี้การันตีว่าโซเชียลต้องลุกเป็นไฟ มีรูปไว้เรียกยอดไลค์ตลอดซัมเมอร์นี้แน่นอน เอาล่ะ!!! ได้เวลาเลือกบิกินี่ตัวโปรด หยิบแว่นกันแดด หมวกปีกกว้าง คว้า vivo V23 5G สีใหม่ล่าสุด Island Blue แล้วออกไปบันทึกเรื่องราวดี ๆ พร้อมกันได้แล้ว
ก่อนเร่ิมเที่ยวเราอยากแนะนำเพื่อนคู่ใจ ผู้รังสรรค์รูปสุดปั๊ว สุดฟาด อย่าง vivo v23 5G สี Island Blue สีใหม่ล่าสุด สุดโดดเด่น เรียบหรู ที่เลือกใช้ดีไซน์พิมพ์นิยมแบบขอบเครื่องเหลี่ยม บางเพียง 7.55 มม. น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ถือใช้งานได้นาน ๆ ยาว ๆ สบาย ๆ แถมไม่ต้องกังวลใจเรื่องลายนิ้วมือ เพราะตัวเครื่องทำจากชั้นคริสตัลเคลือบด้วยพื้นผิวกระจก แต่เปล่งประกายท้าทายสายตาด้วย Aviation Aluminum ที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษ ส่วนจอภาพมาพร้อมขนาด 6.44″ ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล สวยงาม ลื่นไหล เต็มตา อีกทั้งยังพ่วงมากับการชาร์จไว 44W FlashCharge ใครกำลังหาเพื่อนคู่ใจ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
WHERE TO VISIT
01 Ang Thong National Marine Park
พิกัดแรกนี้คือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งที่สอง ที่ประกอปด้วยเกาะน้อยใหญ่ต่าง ๆ ถึง 42 เกาะ แสนเหมาะเจาะกับการเลือกมาทัวร์แบบ One Day Trip ให้เราได้เที่ยวฟิน หามุมถ่ายรูป เดินเล่น ชมนก ชมไม้ ดำน้ำตื้นดูประการังแบบแจ่ม ๆ จนเต็มอิ่ม ส่วนใครอยากพักค้างคืนเค้าก็มีทั้งแบบเต้นท์และห้องพักไว้คอยบริการในราคาสบายกระเป๋า
คำว่าสุดยอดสำหรับที่นี่เราขอยกให้ จุดชมวิวผาจันทร์จรัส บนยอดเขาเกาะวัวตาหลับ จุดไม่ลับที่ขับเคลื่อนอะดีนาลีน สร้างแรงขับให้คนรักการถ่ายภาพพร้อมใจกันไต่บันได ปีนป่ายจากชายหาดสู่จุดสูงสุด เพื่อยืนรับลมเบา ๆ ชมวิวหมู่เกาะน้อยใหญ่บนผืนน้ำทะเลสีฟ้าคราม แล้วถ่ายรูปเล่นสักโหลสองโหล ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่จะได้เห็นภาพเราตั้งแต่กลางเขาจนถึงยอดแบบไม่หยุด
ยิ่งได้ตัวช่วยสุดแจ่มว้าว vivo V23 5G เจ้าของกล้องหลัง 3 ระยะเลนส์ จะเล็งมุมไหนก็ไม่พลาด โดยเฉพาะตัวกล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 64 MP ให้เราได้รูปที่คมชัด จะลงแบบ Nofilter ก็แจ่มหรือจะแต่งสีเล่น ๆ ก็ยังคม ตอนอยากได้มุมกว้างให้ดูขายาว ผอมเพรียว เน้นวิว เน้นคน เลนส์ Super Wide-Angle ก็ไม่ทำให้เสียเรื่อง แต่ถ้าอยากเจาะภาพใกล้ ๆ ก็สบายใจได้ด้วยเลนส์ Macro พกเครื่องเดียวจะถ่ายในสภาพแสงปกติก็ปัง จะถ่ายย้อนแสงก็แจ่มว้าว แถมเขามีโหมด HDR จะเที่ยวทริปไหนก็ไม่ต้องกลัวพลาดพลั้ง ได้รูปสวยดังใจหวังแน่นอน
แอคท่าเหมือนโพสเผื่อวันพรุ่งนี้จนจุใจ ก็ได้เวลาเดินกลับลงมายัง หาดอ่าวคา ที่ตั้งของตัวอุทยานฯ ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า ที่พัก และร้านอาหาร ที่มีหาดทรายขาว ๆ เหมาะกับการใส่เกาะอก กางเกงขายาวสีเข้าเซต แล้วมานั่งเล่น นอนนิ่ง ๆ ทิ้งทุกความกังวล มองฟ้าใส ๆ ใต้เงาต้นมะพร้าวที่สุด หรือใครจะเลือกสะบัดชุดใส่บิกินี่ลงไปดำน้ำตื้นชมประการัง หรือจะลองไปเดินเที่ยวถ้ำบัวโบก ชมหินงอกหินย้อยหน้าตาประหลาด ก็ล้วนดีงามทุกกิจกรรมที่เค้ามีให้
มาอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองทั้งทีถ้าไม่ได้แวะ เกาะสามเส้า ก็มีแนวโน้มจะเศร้าจากความเสียดาย เพราะเกาะนี้มีแนวปะการังเนืองแน่น ใครที่อยากเพิ่มพูนความสุขกับการดำน้ำตื้น ชื่นชมหมู่ปลา และธรรมชาติใต้ท้องทะเลอันอุดมสมบูรณ์ เกาะนี้จะต้องอยู่ในลิสต์โปรดของคุณแน่ ๆ ส่วนใครไม่อยากลงน้ำ บนเกาะก็ยังมีสะพานหินธรรมชาติที่เกาะกลุ่มกันจากหินปูนตั้งแต่สมัยบรรพกาลกลายเป็นบรรพตที่เชื่อมโยงทิวเขาและท้องทะเล ให้เราใช้เป็นฉากหลังถ่ายรูปเท่ ๆ ได้เช่นกัน
นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมา … บนเกาะแห่งนี้ก็ยังมีทีเด็ดเป็นจุดชมวิว ที่ห่างจากพื้นทรายขาว ๆ ขึ้นเขาไปเพียง 150 เมตรอยู่ด้วย ใครอยากชมวิวหมู่เกาะน้อยใหญ่บริเวณนี้ก็สามารถขึ้นไปชมกันได้ แต่ตัวเราที่เป็นคนไม่สู้ชีวิตเพราะกลัวชีวิตสู้กลับ ขอปูผ้าขาว ๆ ทำขายาว ๆ วางตัวชิคนั่งปิกนิกบนหาดทรายขาวที่ทอดยาวสุดสายตาแบบเก๋กรุบ ถ่ายรูปปุ๊บสวยปั๊บ อัพโซเชียล!!!
02 Koh Rap
โลเคชั่นต่อมาคือ เกาะราบ หรืออดีตเกาะน้องกวาง ที่ตอนนี้น้องถูกปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติเรียบร้อยแล้ว ที่นี่เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่อยากนั่งเรือนาน เพราะอยู่ห่างจากสมุยเพียง 25 นาที แต่กลับมีครบทั้งบรรยากาศที่เงียบสงบ หาดทรายละเอียด ต้นไม้เขียวขจี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์จนกลายเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ขึ้นชื่อมากสุดในเรื่อง “ดงหอยมือเสือ” แน่นอนว่าทาสโซเชียลแบบเราขอเดินเก็บเกี่ยวรูปภาพให้เต็มที่ เพราะมุมถ่ายภาพมีเยอะจนแทบไม่ได้หยุดกดชัตเตอร์ ก็แอคติ้งเป็น Beach Girl นั่งชิลบนขอนไม้บ้าง ชิงช้าบ้าง เตียงผ้าใบบ้าง ทะเลแหวกบ้าง ไปเลยสิค่ะ
มีมุมให้ถ่ายรูปได้สนุกขนาดนี้ เราเลยขอปัดนิ้วไปที่โหมด Portrait หาฟีลภาพที่หลากหลายมาเพิ่มเติม แล้วก็เป็นที่น่าพอใจกับระบบ AI สุดฉลาด ที่จับทุกจุดสำคัญบนใบหน้า พร้อมปรับปรุงให้สวยวิ้งอัตโนมัติ จนได้ภาพคมชัดระดับ HD แต่ยังคงความธรรมชาติที่สุดในแบบตัวเอง และถ้าอยากอัพความสวยขึ้นอีกขั้น ที่สำคัญงานละลายฉากหลังและตัดขอบคือดียกนิ้ว จะถ่ายคนสักกี่ภาพก็ต้มแซ่บ ต้มยำ สวยสับ ไม่มีโป๊ะแตก
นอกจากจุดถ่ายรูปแล้ว ก็ยังมีมุมบาร์เล็ก ๆ เป็นกระท่อมไม้น่ารัก ๆ และที่นั่งพักทำจากไม้คล้าย ๆ กัน รวมถึงเตียงผ้าใบสีขาวที่ดูเข้ากับบรรยากาศแบบคลีน ๆ เราเลยสั่งเครื่องดื่มนิด ขนมหน่อย มานั่งแอคท่านอนอ่านหนังสือเล่นสักสองสามบท แบบน้อย ๆ เบา ๆ คล้อยตามธรรมชาติ มินิมอลเกิร์ลสุด ๆ
03 Koh Mat Sum
เกาะมัดสุม ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสมุย เป็นเกาะขนาดเล็กที่เราสามารถเดินเล่นจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งพร้อมสูดอากาศให้ฉ่ำปอดได้โดยไม่เปลืองแรง แต่พื้นที่เล็ก ๆ บนเกาะนี้กลับบรรจุความสวยงามอันน่าอัศจรรย์ไว้อย่างครบเครื่อง ทั้งหาดทรายขาวที่อยู่ตรงหน้า หรือว่าต้นไม้เขียวขจีเป็นทิวแถวที่อยู่ถัดไป แม้แต่น้ำทะเลก็ยังใสจนเห็นปะการังที่ทอดตัวตลอดแนวชายฝั่ง อยากชิลก็มีบีชคาเฟ่ให้นั่ง อยากสนุกก็มีคายัคให้พาย สำหรับเราคำว่าเล็กพริกขี้หนูไม่เกินไปสำหรับที่นี่เลย
ส่วนซิกเนเจอร์ขอเกาะแห่งนี้ก็คือเจ้าสิ่งมีชีวิตสุดคิ้วท์ น้องหมูป่ากลางทะเล รูปร่างตุ๊บตั๊บน่ากอด มากันทั้งครอบครัว มีทั้งตัวใหญ่ตัวเล็ก น้อง ๆ ค่อนข้างเฟรนรี่ไม่กลัวคน มาขุดทราย เล่นน้ำอยู่ข้าง ๆ ให้ให้เราลูบเล่น ถ่ายรูปเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงมีอีกชื่อเรียกติดปากว่า เกาะหมู นั่นเอง
04 Overlap Stone
จุดนี้ถือเป็นพิกัดยอดฮิตแห่งปีเลยก็ว่าได้ เพราะใครที่มาสมุยจะพลาดไม่ได้กับมุมนี้จริง ๆ ที่ Overlap Stone หรือเรียกง่าย ๆ แบบคนไทยว่าหินซ้อน ที่นี่เราเพียงขับรถมาจอดที่ลาน จ่ายค่าเข้า 20 บาท เดินตรงไปอีก 500 เมตร ก็จะพบกับศิลปะกรรมทางธรรมชาติที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 150 เมตร ตั้งตระหง่านสูงใหญ่ริมผา โอบล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจี มีพื้นหลังเป็นผืนทะเลอ่าวไทยสีฟ้าครามอันกว้างใหญ่
จึงไม่น่าแปลกใจที่เหล่า Instagramer จะเลือกปักหมุดที่นี่เป็นจุดแรก ๆ เพราะแค่ยืนพิงหินก็ยังได้รูปฟิน ๆ มาอัพโปรไฟล์ จะทำท่าเดินไปเดินมาให้กระโปรงขยับ ผมพริ้วไหวก็ยอดไลค์ตรึม หรือจะท่ามาตรฐานแค่นั่งนิ่ง ๆ มองวิวมองฟ้า คนยังมาถามหาโลเคชั่นเลยแก๊!!
WHERE TO STAY
SALA Samui Chaweng
ขึ้นชื่อว่า SALA เราก็มั่นใจได้แล้วว่าไม่ธรรมดาแน่นอน ยิ่ง SALA Samui Chaweng Resort โรงแรม 5 ดาว บนหาดเฉวง หาดที่ขึ้นชื่อว่าสวยสุดในเกาะสมุย กับคอนเซ็ปต์ที่แค่ฟังยังหวั่นไหวอย่าง “พระจันทร์” เราจึงได้เห็นการออกแบบที่เน้นความโค้งมนรูปลักษณ์เดียวกับพระจันทร์ ใส่ใจแสงและเงาราวข้างขึ้นข้างแรมอยู่ทั่วทุกมุม จัดว่าเป็นโรงแรมดีไซน์เก๋ คอนเซ็ปต์เลิศ และบริการดีอย่างแท้จริง
ห้องพักจะแบ่งออกเป็นสองฝั่งคือ Oceanfront Wing ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ตลอดทั้งวัน และ Garden Wing ห้องวิวสวน โดยห้องทั้งสองฝั่งสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางได้เต็มที่ บอกเลยว่าพื้นที่ส่วนกลาง และ facilities ของเขา ให้ความรู้สึกเหมือนเราเดินอยู่ในงานอาร์ตแกลอรี่ก็ไม่ปาน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำสีฟ้าที่มีห่วงยางกลม ๆ สีเหลืองดวงจันทร์ลอยละล่อง หรือแม้แต่ในส่วนของสปาเค้าก็ทำได้น่ารักน่าหยิกกับการจับเอาสีเขียวหัวเป็ดมาเข้าคู่กับสีชมพูนมและทรงกลมกลมของพระจันทร์ จนอดคิดไม่ได้ว่าฉันนี่แหล่ะตัวแทนแห่งดวงจันทร์ เซเลอร์มูนนนนนน!!
เราเลือกพักห้อง Oceanfront Balcony Pool Suite ห้องซิกเนเจอร์สุดกว้างขวางจนเราต้องร้องอู้หู แถมเมื่อดูดีไซน์แล้วก็พร้อมกดเข้า TripAdvisor ใส่ 5 ดาว พิมพ์รีวิวเชียร์ให้แบบขาดใจ เพราะการแบ่งสัดส่วนห้องทำได้อย่างลงตัว จะห้องนอน ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ก็ออกแบบได้กลมกลืนตามคอนเซ็ปต์ “พระจันทร์” ทุกกระเบียดนิ้ว ขนาดราวตากผ้าเค้ายังไม่หลุดธีม แล้วสระส่วนตัวริมระเบียงจะเหลือได้ไง สวยสับ สวยสิบ สวยได้ใจจริง ๆ
แม้จะเป็นห้องพักแต่มุมสระส่วนตัวก็สวยจนเราแทบไม่ได้พัก มัวใช้เวลาไปกับการหมุนตัว จัดท่าเซลฟี่ที่ไม่ว่าถ่ายมุมไหนก็ดูดี เพราะ vivo เค้ามาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล แถมยังพ่วงมาด้วย Super Wide-angle เลนส์กว้าง 105 องศา คมชัดระดับ 8 ล้านพิกเซล ยิ่งถ้าเลือกโหมด Portrait ที่สามารถถ่ายกล้องหน้าแบบละลายหลังได้ด้วยล่ะก็ งานนี้จะเน้นหน้าไม่เน้นวิว หรือจะเน้นวิวพร้อม ๆ กับหน้าก็เป๊ะเว่อ
ถ่ายรูปเล่นทุกมุมจนเป็นที่พอใจก็ได้เวลาย้ายร่างกายสวย ๆ ออกมาเดินนวยนาดกันที่ริมหาด เพราะเราสามารถใช้เวลาชิล ๆ ได้ทั้งวันกับหลากกิจกรรมที่เขามีให้ จะเลือกพาย Kayak หรือ Paddle Board แบบคนสปอร์ตเค้าทำกันโรงแรมก็จัดสรรให้ฟรี ๆ หรือจะนั่งเล่น รับลม ชมทะเล บนเตียงชายหาดที่ขาวสะอาดตา แมทช์คู่มากับร่มสีขาวสะอาดใจ ใช้เวลาแบบเพลิน ๆ ใช้ใจไปแบบสงบ ๆ จนลืมเวลาไปได้เลย
อีกหนึ่งความประทับใจคือมื้อเช้ากับบรรยากาศทะเล๊ทะเล ที่เขาเปิดให้บริการตั้งแต่ 6:30-10:30 น. ยิ่งเช้ามุมแสงฝั่งห้องอาหารก็ยิ่งสวย ส่วนไลน์อาหารก็มีให้เราเลือกทั้งแบบเดินตักไม่ว่าจะเป็นอเมริกันเบรคฟาสต์ เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม แถมยังมีเมนูอาหารจัดเสิร์ฟสวยให้ได้สั่งเพิ่มอีกด้วย ที่เราชอบมากสุดคือ Salmon Avocado สองคู่หูที่จับคู่กันเมื่อไหร่ก็อร่อยได้เรื่อง และ Smoothies Bowl ที่เซฟเอากล้วยและเบอร์รี่มาปั่นจนเนื้อเนียน ก่อนโรยด้วยเมล็ดเซีย พิซาชิโอ้ และโกจิเบอร์รี่ เพิ่มคุณค่าและความกรุบกรอบ เป็นมื้อเช้าดี ๆ ที่เพิ่มทั้งพลังงาน และเพิ่มไอจีสตอรี่ไปพร้อมกัน
WHERE TO EAT
01 CoCo Tam’s
พิกัดโดนใจสายปาร์ตี้เพราะนี่คือบีชบาร์ ณ หมู่บ้านชาวประมง ริมหาดบ่อผุดสุดเก๋ ที่มีชื่อว่า CoCo Tam’s จุดเด่นคือตัวบาร์แนวกระท่อมเปิดโล่ง กลมกลืนกับแนวต้นมะพร้าวที่สูงชะลูดสั่นไหวตามแรงลมด้านหลัง ด้านหน้าจัดวางบีนแบ็คหันหน้าสู่ทะเล จะนั่งทานข้าวชิว ๆ เม้าท์มอยกับเพื่อนฝูง หรือชมพระอาทิตย์ตกรอฟ้าเปลี่ยนสี บรรยากาศเปลี่ยนแปลงเป็นรื่นเริงก็ดีทั้งหมด
ชมทะเลสีครามพร้อมทานอาหารอิตาเลียนก็เป็นไอเดียที่เก๋ไม่หยอก สำหรับดินเนอร์แบบชิว ๆ เราแนะนำให้สั่งเป็น Coco Tam’s Pizza ซิกเนเจอร์พิซซ่าจานเด็ด ที่เอา San Marzano Tomato, Garlic, Crudo Ham, Basil และ Burrata วางเรียงบนแป้งพิซซ่าหนานุ่ม แล้วเอาไปอบก่อนส่งตรงงสู่โต๊ะเราพร้อมความหอมกรุ่น และเมนู Mezza Maniche Pasta พาสต้าเส้นริกาโตนีคลุกซอสมะเขือเทศเข้มข้นและชีสขูด ได้รสชาติแบบอิตาเลียนแท้ ๆ ทานคู่กับ Cocktail สีสวย ก็ให้บรรยากาศตรงหน้าดีขึ้นอีกสิบเท่า
ท้องฟ้าเริ่มมืดดวงไฟสีส้มนวลตาก็ค่อย ๆ เปิดขึ้นทีละดวง แต่งแต้มหาดทรายให้เข้าสู่โหมดไนท์ไลฟ์ ก็ได้เวลาที่เราจะคว้า vivo v23 5G มาเปิดโหมด Bokeh Flare Portrait โหมดถ่ายภาพบุคคลพร้อมไฟกลม ๆ เป็นฉากหลังในที่แสงน้อย นอกจากจะช่วยเก็บรายละเอียดของแบบได้ดีแล้ว ดวงไฟด้านหลังยังเก็บได้ชัดและสามารถปรับแต่งจาก Bokeh กลม ๆ แบบเดิม ๆ ให้มีลูกเล่นมากขึ้นด้วยการเปลี่ยนเป็นโบเก้รูปหัวใจ ผีเสื้อ ดวงดาว และรูปแบบอื่น ๆ ได้อย่างประทับใจ
ไม่เพียงเท่านี้เรายังสามารถสนุกไปกับโลกกลางคืนได้มากยิ่งขึ้นกับ Super Night Mode ที่เขาพัฒนาเพิ่มความไวแสงด้วยเซ็นเซอร์ GW1 ให้เรามีตัวเลือกมากขึ้นในการรังสรรค์รูปถ่าย สวย ๆ ในที่แสงน้อย แบบไม่ต้องพึ่งขาตั้งกล้องกันเลยทีเดียว
แทบจะกลายเป็นจุดเด่นที่ขาดไม่ได้สำหรับบาร์ริมหาดมาหลายสมัย นั่นก็คือการโชว์ควงกระบองไฟสุดอลังการที่ต้องใช้สกิลเทพมัดใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่วนเราขอโชว์สกิลเทพมัดใจคนฟอลโล่ สร้างสรรค์ภาพถ่ายกลางคืนให้ดูมืออาชีพยิ่งขึ้นกับโหมดโปร แล้วเลือกลากสปีตชัตเตอร์ยาว ๆ เพื่อเก็บเส้นสายของกระบองไฟ ทำให้ภาพถ่ายดูอลังได้ง๊ายง่ายจากกล้องมือถือ!!!
สำหรับสายปาร์ตี้ที่ชอบการเซลฟี่เป็นชีวิตจิตใจ งานนี้บอกได้เลยว่าไม่บ้ง เพราะเจ้า vivo V23 5G มาพร้อมโหมดกลางคืนในกล้องหน้า และไฟแฟรช Dual-Tone Spotlight Selfie เหนือลำโพง ที่สามารถสร้างความสว่างให้กับใบหน้าถึง 3 เฉด ทั้งโทนเย็น โทนธรรมชาติ และโทนอุ่น แถมยังมีระบบอัจฉริยะ AI Extreme Night Portrait ที่เมื่อทำร่วมกันก็สามารถเป็น “คุณ” ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะเทคโนโลยี AI ความละเอียดสูงช่วยให้ภาพถ่ายกลางคืนสว่างยิ่งขึ้น พร้อมจับภาพใบหน้าได้คมชัด แม้ค่ำคืนที่มืดสนิท ต่อไปนี้จะปาร์ตี้ไหนก็ไม่มีบ้งแล้วนะ พส
02 Summer by CoCo Tam’s
Summer by CoCo Tam’s คาเฟ่บีชในเครือเดียวกับ Coco Tam’s และตั้งอยู่ติดกันนี้ ยังคงเน้นการตกแต่งด้วยวัสดุจากธรรมชาติ และเลือกใช้โทนสีอ่อน กลายเป็นว่าต้นไม้สีเขียวและท้องทะเลสีฟ้าช่วยขับเน้นให้ร้านนี้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ตัวร้านเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 9.00 น. จะเลือกมาทาน Brunch และ Lunch ก็มีให้เลือกหลากหลายเมนูทั้งอาหารเอเชียฟิวชั่น อาหารสุขภาพ เบอร์เกอร์ และเครื่องดื่มสเปเชี่ยลต่าง ๆ
ทางเราขอเลือก Acai Bow เมนูง่ายๆของสายรักสุขภาพที่ช่วยเติมความเฟรชได้อย่างดีเยี่ยมทุก ๆ คำ เพราะนี่คือสมูทตี้ผลไม้สีสวยรสหวานอมเปรี้ยว พร้อมธัญพืชให้ได้เคี้ยวแบบเบา ๆ และเข้ากันได้ดีกับชาคาโมมายด์ หอม ๆ เย็น ๆ จะดื่มก็ได้ จะทานก็ดี จะถ่ายรูปก็สวย อย่างนี้โดนใจให้ 10 เต็มจ่ะ
03 Ban Suan Lung Khai (บ้านสวนลุงไข่)
อยู่ภาคใต้ถ้าไม่ได้มาทานอาหารใต้ ก็คงไม่สามารถเรียกว่ามีครบทุกพิกัดเด็ดได้อย่างเต็มปาก เราจึงพาทุกคนมายัง บ้านสวนลุงไข่ ร้านอาหารที่ขอยกให้เป็น the best in town เป็นอาหารพื้นเมืองสไตล์เชฟเทเบิลแห่งท้องทะเลอ่าวไทย ร้านตั้งอยู่ในสวนมะพร้าวเขียวชอุ่ม มีลมเย็น ๆ พัดมาที่ชานบ้านเรื่อย ๆ เขาตั้งใจเสิร์ฟอาหารที่ดีที่สุด ด้วยการคัดสรรวัตุดิบที่หาได้ตามท้องถิ่นวันต่อวัน ทุกโต๊ะจะต้องทำการจองก่อนล่วงหน้า เพราะเขาจะทำอาหารตามออเดอร์เท่านั้น ถือเป็นเพชรเม็ดงามของสมุยที่ห้ามพลาดเลย
คอร์สอาหารของเขามีหลายแบบ ทางเราเลือกเซทจัดเต็มอาหาร 7 อย่าง มีทั้งซีฟู้ด และอาหารพื้นบ้านเสิร์ฟให้จุก ๆ สามารถเติมได้ไม่อั้นราคาหัวละ 1,000 บาทเท่านั้น โดยเราไม่รู้มาก่อนว่าเขาจะทำอะไรให้ทาน แต่ขอบอกว่าแต่ละจานเราไม่ผิดหวังเลยสักนิด เพราะมันอร่อยมาก ปูแกะมาให้เรียบร้อยพร้อมทาน กุ้งเด้งเนื้อหวานมีกลิ่นทะเลบ่งบอกถึงความสด หอยนางรมสดกลมกล่อมขนาดใหญ่กำลังดี และเมนูแกงผัดสไตล์เมืองใต้เขาทำได้จัดจ้านถึงใจ แม้แต่ข้าวที่เขาจัดเสิร์ฟก็ยังเป็นข้าวทูโทน ระหว่างข้าวสวยปกติและข้าวมันมะพร้าว บอกเลยอร่อยถูกปากจนเราทานข้าวได้ มากกว่าปกติเยอะเลย
และไม่ว่าจะเลือกคอร์สอาหารแบบไหนเค้าก็จะมีของหวานพื้นบ้านเสิร์ฟตบท้ายด้วยเช่นกัน วันนี้เราได้ลองทาน ขนมโคน้ำกะทิ ขนมเนื้อหนึบ นุ่มหนับ มีไส้ข้างในเป็นเม็ดน้ำตาลมะพร้าวที่หอมหวานกลมกล่อมกำลังดี ทานคู่กับน้ำกะทิเค็มมันช่างลงตัว เสริมด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนอีกนิดหน่อยก็ฟินจนไม่อาจหักห้ามใจ จะอิ่มแค่ไหนก็ต้องยกมือขอเพิ่ม
บอกเลยว่าทั้งหมดนี้เป็นสถานที่ที่ทำให้ท่องเที่ยวสมุยของเราคอมพลีตที่สุดเท่าที่เคยไปมา เชื่อว่าใครได้มาตามรอยจะต้องแฮปปี้ไปด้วยแน่นอน และถ้าใครอยากเที่ยวไปด้วยได้รูปสวยด้วยแบบเรา ก็อย่าลืมไปสอย vivo V23 5G ก่อนออกทริปนะ สามารถไปหาซื้อหาลองกันได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ราคาอยู่ที่ 17,999 บาทเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vivo.com/th/products/v23 .. เชื่อว่าถ้าได้มาที่เดียวกัน กล้องตัวเดียวกัน เอามาแต่งรูปในสไตล์ตัวเอง ทุกคนต้องได้รูปว้าว ๆ ไม่แพ้เราแน่นอน