แดดแรงแค่ไหนก็ไม่เข็ด ถ้าจุดหมายคือภูเก็ต เราก็พร้อมไปทำตัวเผ็ด ๆ ได้เสมอ ก็แหม เมืองแสนชิค ที่เที่ยวสุดกลมกล่อม ยิ่งเป็นช่วงซัมเมอร์ สีสันของเกาะก็ยิ่งเฉิดฉาย สมมงอัญมณีแห่งท้องทะเลอันดามัน …. และ 3 วัน ต่อจากนี้ เราขอพาทุกคนไปเที่ยวกันแบบปังปุริเย่ พร้อมแนะนำสถานที่ดี ๆ มีตั้งแต่เดินเล่นเมืองเก่า หาร้านกาแฟคิ้วท์ ๆ ที่พักราคาดี คอนเซ็ปเก๋เอาใจวัยรุ่น ลงทะเลเที่ยวเกาะสะบัดผ้าท้าแดด กินแหลกกับอาหารหรอยแรงของภาคใต้ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็จัดพร๊อพแน่น ๆ ขุดชุดบางเบาที่แซ่บสุด แล้วมาเริ่มทริปเปรี้ยวซ่าท้าซัมเมอร์กันได้เลย
ก่อนอื่นเพื่อไม่ให้โดนเท ขอให้แท็กแฟน ชวนเพื่อน จองตั๋วล๊อคคิวกันไว้ ณ บัดNow เลยจ้า! เพราะดีลเด็ดโดนใจเดี๋ยวนี้หาไม่ยาก แต่จะรู้ได้ยังไงว่าที่เจอมันคุ้มสุด? ลองค่ะ ลองโหลด traveloka app มาไว้ในมือถือ … จากที่จองง่าย ได้ตั๋วราคาถูกอยู่แล้ว วันนี้ทางเราก็อยากแนะนำให้รู้จักกับฟีดเจอร์ Price Alerts ตัวช่วยที่จะทำให้คนสวยอย่างเราจองตั๋วสุดคุ้มแบบมือโปร ได้แบบง่าย ๆ แค่ตั้งค่าไว้ที่หน้าแรกของแอป ว่าจะไปไหน เมื่อไหร่ จำนวนกี่คน จิ้มราคาที่ต้องการ กดแจ้งเตือน Price Alerts เท่านี้ทุกโปรที่ว่าคุ้ม.. ก็จะถูกรวบรวมมาให้เลือก หากใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกไปดูได้ที่ > https://www.traveloka.com/th-th/flight/price-related-features
DAY 1 :: PHUKET OLD TOWN
พอแลนด์ดิ้งชิล ๆ ในราคาสบายกระเป๋าแล้ว เราก็ขอเริ่มต้นทริปวันแรกด้วยการเดินเล่นย่าน Old Town ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ ไม่ต้องดูหลายคนก็คงจะนึกภาพออกว่าย่านนี้มีทั้งมุมถ่ายรูป พิพิธภัณฑ์ คาเฟ่ รวมถึงร้านอาหารทั้งเก่าจนเป็นตำนาน และใหม่จนน่าตามล่าอยู่มากมาย ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มาได้เรื่อย ๆ ไม่เคยเบื่อ ลองดูตึกสไตล์ชิโนโปรตุกีสสีสันสดใสเหล่านี้สิ น่ารักน่าชังมาก และด้วยความหลากหลายของเชื้อชาติ อันเนื่องมาจากภูเก็ตเคยเป็นเมืองท่าอันรุ่งเรืองในอดีต เราจึงได้สัมผัสการหลอมหลวมของหลากหลายวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว
นอกจากตึกทรงชิโนโปรตุกีส ก็ยังมีอีกหนึ่งจุดขาย คือสตรีทอาร์ตเท่ ๆ ที่แอบซ่อนอยู่ตามซอกซอย ให้เราได้สืบเสาะไปถ่ายรูป กว่าจะครบก็น่าจะต้องใช้เวลาถึงเย็น แต่ด้วยกลยุทธ์นี้ มันทำให้เราเดินเล่นรอบ ๆ เมืองเก่าได้อย่างทั่วถึงจริง ๆ งานศิลปะของเหล่าศิลปินชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียง สามารถสร้างมิติให้ที่นี่น่าสนใจขึ้นเป็นกอง เดินไปเดินมาก็มาเจอตึกหัวมุมสีเหลืองน่ารัก มีหอนาฬิกาอันโตโดดเด่นขึ้นมาจากตัวตึก ให้เราหามุมเก๋ ๆ ถ่ายรูปได้แบบหนำใจ
เซอร์เวย์จนเริ่มหิว เพื่อเป็นเดชเป็นศรีแก่ลำไส้ขอเริ่มมื้ออาหารแรกด้วย หมี่ฮกเกี้ยน อาหารจานโปรดของเราและหลาย ๆ คน เป็นเมนูประจำเมือง ที่มีหลายร้านเป็นตำนาน บ้างเปิดมาเกือบร้อยปี บ้างก็มีสูตรลับเฉพาะตัว แต่เหนือสิ่งอื่นใดถ้าได้เจอร้านที่มีกลิ่นกระทะหอม ๆ ผัดเส้น ไข่ เครื่อง ซอสได้นัวเข้ากันนั้นถือเป็นบุญ ทางเราเลือกมาทานที่ ร้านหมี่อ่าวเก บอกเลยว่ากลิ่นกระทะ และรสผัดของร้านนี้อร่อยเป็นเอกลักษณ์ มีทั้งเมนูข้าวและหมูสะเต๊ะคอยบริการ ดีงามจนร้านไม่เคยว่าง มีลูกค้าเข้าออกไม่ขาดสายเลยล่ะ
หลังจากอิ่มของคาวกันแบบจุก ๆ เราขอมาหาเครื่องดื่มเย็น ๆ จิบกันสักหน่อย.. และแน่นอนว่ามาย่านนี้กี่ทีก็มีร้านใหม่ผุดขึ้นไม่จบไม่สิ้น อย่างครั้งนี้เราได้มาเจอ JUITEE HAUS คาเฟ่สีขาวฟ้า พร้อมโลโก้เด็กน้อยแสนน่ารัก สีสบายตา การจัดวางสบายใจ มีการมิกซ์ลังใส่นมกับเก้าอี้แถวสีฟ้า ที่เห็นตาม ขสมก. มาตกแต่งได้อย่างลงตัว เรื่องหน้าตาขนมเราให้เต็มสิบ ดูนุ่มนิ่มสีคุมโทนไปหมด พอได้ชิมแล้วก็บวกให้อีกสิบ เพราะรสชาติหวานอ่อน ๆ ละมุน ๆ เหมาะกับคนมุ้งมิ้งอย่างเราเป็นที่สุด
ในเมื่อเรามาพักผ่อน จะเที่ยวจนร่างพังไม่ได้นะจ๊ะ กลับเข้าที่พักไปทาว่านหางจระเข้ เคลียผิวเพื่อไปท้าแดดต่อวันพรุ่งนี้ดีกว่า ซึ่งรอบนี้เรานอนโฮสเทลชิล ๆ ฟีลอะโลฮ่า ที่ Borbaboom Phuket Poshtel-Hostel มีทั้งห้องเดี่ยวนอนแบบไพรเวท ห้องรวมนอน 8 คนพร้อมห้องน้ำในตัว เหมาะกับก๊วนเพื่อน จ่ายแค่หลักร้อย ก็ได้ห้องนอนสภาพใหม่เอี่ยม ตกแต่งง่าย ๆ แต่แฝงด้วยความคูล มีหาดทรายจำลองให้เราถ่ายรูปเล่น มีที่นั่งส่วนกลางไว้เม้ามอยพบเจอเพื่อนใหม่ แถมบนดาดฟ้ามีสระน้ำให้เราเล่นคลายร้อน คุ้มกว่านี้จะหาได้จากที่ไหนอีก?
DAY 2 :: DAY TRIP SNORKELING
มื้อเช้าเขาว่าสำคัญเราขอจัดหนักจัดเต็มเติมพลังก่อนลงเกาะ ด้วยติ่มซำที่ ร้านจ่วนเฮี้ยงติ่มซำ อาหารเช้าพื้นเมืองของชาวใต้เชื้อสายจีน นอกจากขนมจีบกุ้ง-หมู ซาลาเปา เผือกทอด ซี่โครงหมูเต้าเจี้ยวแล้ว เมนูเด็ดที่ห้ามพลาดคือบักกุ๊ดเต๋ น้ำซุปสีเข้มหอมเครื่องเทศ พริกไทย พร้อมกระดูกหมูชุ่ม ๆ กินกับข้าวก็ได้ จุ่มปาท่องโก๋ก็ดี มันอุ่นสบายท้องจนหยุดกินไม่ได้เลย
ว่าด้วยเรื่องทัวร์ทะเลภูเก็ต หัวข้อหัวแตกที่ทำเราเลือกไม่ถูกอยู่หลายวัน เพราะเขามีเกาะน้อยใหญ่มากมาย ราคาตอนนี้ก็ถูกแสนถูก มีให้เลือกทั้งแบบเดย์ทริป และนอนค้างบนเกาะสไตล์ส่วนตัว เราเลยเลือกที่ป๊อปสุด มาหยุดที่ หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะทั้ง 9 กิจกรรมครบรส ดำน้ำตื้น แวะทานข้าว ถ่ายรูปตามเกาะ-อ่าวที่สวยงามราวภาพวาด ซึ่งบริษัทขายทัวร์ก็มีเยอะมากเช่นกัน ขอแนะนำให้หาเจ้าที่ดวงสมพงษ์ที่สุด ส่วนทางเรามากับ Love Andaman เมื่อเลือกได้แล้ว รับบทคุณหนูผ้าพริ้วเดินขึ้นเรือสวย ๆ กันไปเลยค่ะ
ความสวยสมมงอัญมณีแดนใต้ จุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกจริง ๆ ยิ่งตอนนี้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูมาแรมปี ใต้น้ำดูอุดมสมบูรณ์สีสันสวยงามขึ้นเรื่อย ๆ มีปลาเล็กปลาน้อยดูสดใสมีชีวิตชีวา ให้เรากระโดดน้ำ ใส่ฟินดำลังไปเซลพี่กับน้องได้ซีนสวยไม่ติดใคร ส่วนไฮไลท์ที่อยากให้ทุกคนครีเอทท่า จัดพร๊อพ หามุมโพสเพื่อรูปปัง ๆ คือที่หินเรือใบ มาสคอตของสิมิลัน ตั้งอยู่บริเวณอ่าวเกือก บนเกาะเดียวกันนั้นเองก็มีโขดหินใหญ่ จุดชมวิวสวย ๆ ให้เราเลือกถ่ายรูปอีกเพียบ!!
เริงร่าจนลืมตัว เผลอแป๊บเดียวก็หมดวันที่ 2 ของทริปไปแบบงง ๆ ก่อนจะเข้าที่พักเราเลยต้องรีบหาอาหารมาเติมเต็ม มื้อสุดท้ายของวันนี้ขอเต็มอิ่มกับ โกเบนซ์ข้าวตัมแห้ง ร้านที่อร่อยติดเทรนด์ คนมารอคิวตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด เพราะข้าวต้มแห้งเจ้านี้รสชาติกลมกล่อม อร่อยตั้งแต่เนื้อหมูยันเม็ดข้าว ที่มีรสของซุปแทรกซึมเข้าไปแทบทุกอณู แล้วยังมีเครื่องเคียงเด็ด ๆ อย่างหมูกรอบ เคี้ยวกรุบจิ้มซอสสูตรพิเศษหวาน ๆ เผ็ด ๆ ที่เรากับเพื่อนเบิ้ลแล้วเบิ้ลอีกตั้งหลายจาน
DAY 3 :: CAFE’ HOPPING
วันสุดท้ายนี้ขอให้เลือกไฟล์ทค่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เตรียมเสื้อผ้าไว้สักสามชุด เพื่อเก็บภาพแฟชั่นเซ็ตลงไอจีตลอดฤดูร้อนนี้ กับคาเฟ่ และจุดชมวิวงาม ๆ โดยเริ่มต้นที่ Coconuts Cafe’ ร้านนี้เหมาะกับชุดเดรสยาวคลุมเข่า ฟีลสาวชาวไร่หวาน ๆ อยู่ในบ้านหลังเล็กกลางสวนมะพร้าว นั่งจิบชาสไตล์โฮมมี่ หรือจะนั่งปิกนิกด้านนอกเขาก็จัดมุมไว้ให้เสร็จสรรพ อาหารคาวหวานเครื่องดื่มมีหลากหลาย เซ็ตการจัดเสิร์ฟสวยงามพร้อมถ่าย รสชาติขนมโฮมเมดอบสดใหม่กับชาหอม ๆ นี่มันชื่นใจเหมาะกับการเริ่มต้นวันจริง ๆ
สะพัดผ้าออกให้เหลือน้อยชิ้นลงอีกนิด มาที่ร้านริมทะเลแสนมินิมอล ฟีลเกาหลีแต่ยังมีกลิ่นอายของลูกทะเลอยู่ ร้าน Lay Cafe บ้านสีขาวทรงเตี้ยที่ตั้งอยู่ริมทะเลแถวราไวย์ เป็นท่าเทียบเรือประมงเงียบสงบ เสิร์ฟทั้งอาหารฮาลาล ขนมและเครื่องดื่มราคาหลักสิบเท่านั้น หน้าตาขนมเหมือนหลุดมาจากร้านสุดชิคที่เกาหลีเลยแกเอ้ย.. ถ่ายรูปจนน้ำละลายก็ยังไม่กล้ากิน แต่พอได้ชิมขอบอกเลยว่ามันดี๊ดี..
จากเกาหลี เราหาอีกสักโลเคชั่นให้เหมือนเที่ยวต่างประเทศ พุ่งตัวไปที่ หาดนุ้ย หาดทรายสวย ที่มีมุมเหมือนเที่ยวบาหลี อย่างชิงช้ายักษ์ เปลรังนก ซุ้มที่นั่งทรงกลม เตียงผ้าใบนอนอาบแดด ที่ทุกอย่างหันหน้าออกทะเลกว้างใหญ่สุดตา และอีกความความดีงามคงจะเป็นหาดทรายสวยใส นุ่มเย็นสบายเท้า เหมาะกับแดดอันร้อนแรงที่สร้างสีสันให้ภาพถ่ายเราได้อารมณ์ซัมเมอร์ซาบซ่า ถือเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยปังจนหยุดไม่อยู่เลยนะน้องนะ
มาภูเก็ตกี่ครั้งเราก็ต้องมาดูพระอาทิตย์ตกดินตลอด ปกติก็ไปที่แหลมพรหมเทพแต่รอบนี้เรามีจุดใหม่มานำเสนอคือ ผาหินดำ จุดชมวิวนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอกะรน จากบนนี้เราสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลภูเก็ตได้แบบ 360 องศา สูงจนเราเห็นเกาะเฮ เกาะโหลน อ่าวฉลอง แหลมพรหมเทพ หาดยะนุ้ย หาดในหาน เกาะแก้วพิศการ และเกาะไม้ท่อนได้ครบเลยทีเดียว แถมรอบข้างก็ไม่วุ่นวายคนไม่เยอะด้วย เหมาะเป็นโลเคชั่นปูผ้าขาว วางพร๊อพ นั่งชมวิวสวย ๆ จบทริปแบบฟินเนเล่ที่สุด..
ถ้าเรามีตัวช่วยดีภูเก็ตก็ใกล้แค่หน้าปากซอย การเที่ยว 3 วัน 2 คืน ในหลากหลายโลเคชั่นของเราครั้งนี้นอกจากได้ราคาดีสบายกระเป๋าจาก Price Alerts ของ traveloka แล้ว เรายังได้รีชาร์จร่างกาย มีเงินเหลือ มีแรงเก็บ ไว้เที่ยวในทริปต่อไปได้อีกด้วย ดีขนาดนี้รีบจองตั๋วตามเรามานะ 🙂
จองตั๋วเครื่องบินไปภูเก็ต กับ Traveloka คลิก > https://www.traveloka.com/
จองรถเช่าภูเก็ต และเช่ารถภูเก็ต กับ Traveloka คลิก > https://www.traveloka.com/