“เพราะโลกมันกว้างการเดินทางจึงแสนสำคัญ”
ถ้าชีวิตคือหนังสือเล่มหนึ่งแล้วหนังสือเธอบางเฉียบมันก็คงแสนจะน่าเบื่อที่ต้องทนอ่านเรื่องเดิม ๆ ใช่เปล่า?? แต่การเดินทางมันจะช่วยให้หนังสือของเธอหนาขึ้น หลากหลายขึ้น แม้ว่ามันอาจจะยับยู่ยี่เพราะการเดินทางที่แสนทุลักทุเล หรือเลอะเทอะไปบ้างก็อย่าได้แคร์ เพราะเค้าบอกว่ายิ่งเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์ หนังสือเล่มนี้เป็นของเธอ เธอเขียนเอง แต่งเติมเองได้ตามใจปรารถนา และอย่าลืมดูแลรักษามันด้วยตัวเองให้ดีจะได้เพิ่มเติมบทต่อไปได้อย่างสวยงาม และทริปนี้ก็เหมือนคราวก่อน คราวก่อนหน้านั้น และคราวโน้นนั้น เราจะมาแนะนำที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อป บนแดนดินแห่งอาทิตย์อุทัย โดยรอบนี้เป็นคิวของ โอซาก้า กับรีวิวดี ๆ รอบที่ล้าน เอาล่ะ มาเพิ่มการเดินทางอันสนุกสนานในหนังสือประวัติชีวิตอันสดใสของเธอไปพร้อม ๆ กับเรากันเถิดหนาออเจ้า
001 Nakazakicho 中崎町
เริ่มกันที่ Nakazakicho ย่านเมืองเก่าราวหนังย้อนยุค แต่สามารถมาเที่ยวได้ด้วยรถไฟสุดไฮเทค หากใครที่อยากลองหนีจากความพลุกพล่านของโอซาก้ามาสู่ย่านเรียบง่ายใจกลางเมือง ชมบ้านเรือนโบราณที่รอดพ้นจากยุคสงคราม ยังยืดหยัดอย่างสง่าผ่าเผยท่ามกลางร่มเงาของตึกสูงที่เคยราบเป็นหน้ากองด้วยสงคราม แต่ความเรียบง่ายของที่นี่ก็ยังคงซ่อนความคึกคักตามแบบฉบับของโอซาก้า มีคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า รวมถึงร้านขายของกระจุกกระจิกอยู่เกือบ 50 แห่ง ความอุ่นตาของย่านนี้จะทำให้เธอลืมเวลา และลืมไปเลยว่านี่คือโอซาก้า เมืองที่แสนคึกครื้น เอาละ!! ด้านล่างนี้คือสถานที่ ๆ เราอยากบอกต่อ
Hukulou Coffee
ร้านกาแฟที่กระชากหัวใจเราไปเต็ม ๆ ในย่านนาคะซะกิโจ คาเฟ่ที่สร้างขึ้นตามชื่อของแมวน้อยและนกฮูกจิ๋ว ที่บัดนี้ได้เติบโตและมีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย โดยเฉพาะเจ้าแมวน้อยที่ทำให้ติ่งแมวแบบเราเผลอเดินทำเสียงสองตลอดเวลา กดชัตเตอร์แบบหมุนรอบตัวเพราะทางนู้นก็ดี ทางนี้ก็ใช่ เสียงเหมี๊ยวหม๊าวพร้อมท่าบิดขี้เกียจบ้าง สะบัดขนบ้าง ทำให้เราแทบจะลืมรสชาติของกาแฟรวมถึงลืมถ่ายรูปมันด้วยซ้ำ!!! เพราะฉะนั้นทาสแมวทั้งหลายจงมายอมสยบกาย สยบใจแทบอุ้งเท้าอมชมพู ณ ที่แห่งนี้เถิด
Select Shop Tenten
บ้านสีเหลืองแปลกตาแห่งย่านนาคะซะกิโจ ที่โดดเด่น สดใส จนเรากล้า ๆ กลัว ๆ ว่าจะเข้าไปดีมั้ย แต่สุดท้ายก็เข้ามาจนได้เพราะอยากหายสงสัย เราเซอร์ไพรส์กับสิ่งของสีสัน ลูกกวาด ภายใต้บรรยากาศสลัว ๆ จนทำให้นึกถึงหนังสือ Alice’s Adventures in Wonderland ทั้งของเล่น ตุ๊กตา ของกระจุกกระจิกทั้งหลาย ที่ส่วนใหญ่นำเข้าจากอเมริกา ลูกค้าส่วนมากจึงเป็นบรรดาสาวน้อยโลลิต้าญี่ปุ่นในชุดกระโปรงฟูฟ่อง และเสื้อแขนตุ๊กตาสีลูกกวาดหวานใส ที่ชอบแวะมาที่ร้านแห่งนี้ เพราะมันคือแหล่งช้อปปิ้งสุดคิ้วท์ นอกจากนี้กิมมิคอีกอย่างของที่นี่คือร้านเค้ามีรับวาดรูปด้วยนะแบบวาดรูปการ์ตูนเป็นหน้าเรา วิธีการก็คือให้เราไปนั่งทำหน้าเท่ ๆ เก๋ ๆ ให้เค้าสเก็ตช์ ใช้เวลาไม่นานก็จะได้ภาพออกมาคิ้วท์ ๆ ชิค ๆ
Amanto Cafe’ / Bar / Event Space Shuka
ร้านกาแฟ บาร์ และสถานที่จัดงานอีเว้นท์ที่รวบกันอยู่ในที่เดียว บ้านไม้เก่า ๆ ที่สีลอกหมดจนเห็นเนื้อไม้ที่แท้จริง และบานประตูกับกรอบหน้าต่างเล็กๆ เสมือนแรงดึงดูดที่แสนงง แต่ก็ชักชวนให้เราเดินเข้าหา ส่วนด้านในนั้นดูสะอาดสะอ้าน เฟอร์นิเจอร์ไม้และผนังสีขาวกับไฟสีส้ม ช่างเข้ากันได้ดี และมีเสน่ห์ชวนให้เรานั่งลงพักผ่อน พร้อมกาแฟร้อน ๆ และขนมปังปิ้งอุ่น ๆ กับหนังสือดี ๆ สักเล่ม ก็ทำให้รู้สึกได้ว่านี่แหล่ะคือความญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น และเราก็หลงรักอีกตามเคย
French cafeteria Cercle
อีกหนึ่งร้านที่ทำให้เรารู้สึกว่านี่แหล่ะคือญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น ร้านนี้เปิดขายสองช่วงเวลา คือมื้อเที่ยง 11:30 – 14:30 และมื้อเย็น 18:00 – 22:00 ความมินิมอลที่เสมือนอยู่ในสายเลือดของชาวญี่ปุ่น มันดูเรียล ดูเป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องพยายาม หน้าร้านเรียบง่ายจนเราแทบเดินผ่านเลยไป แต่เพราะลูกค้าที่เข้าออกตลอดเวลาและป้ายไม้หน้าร้านกับกระดาษสองแผ่น จนเราลองเสนอหน้าเดินตามเพื่อเข้ามาดู ร้านเรียบ ๆ ที่แต่งง่าย ๆ เก้าอี้ไม้สีอ่อนที่กระทบแสงแดด ความสว่างไสวจากดวงอาทิตย์ยิ่งทำให้ภาพตรงหน้าเราชวนมองและนั่งลงจิบเครื่องดื่มแบบไม่สนใจเวลาเสียจริง ๆ ทว่าดันมาไม่ต้องช่วงเวลาดังกล่าวก็อดไปตามระเบียบ …
และนี่คือบางส่วนของร้านในย่านนาคะซะกิโจที่เราอยากบอกต่อเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่แท้จริงแล้วก็อย่างที่เราว่าที่นี่คือความเงียบสงบท่ามกลางตึกสูงแต่ก็เปี่ยมไปด้วยความเป็นโอซาก้า ร้านรวงยังมีอีกมากมายให้เราได้ค้นหา พวกเธออาจจะชอบร้านมือสองตรงหัวมุมถนน หรือร้านเสื้อผ้าจากดีไซเนอร์ท้องถิ่นที่อยู่บนชั้นสอง หรืออาจจะคาเฟ่ชิค ๆ ที่มีให้เลือกอีกมาก เราอยากให้ลองมาเดินเล่น เดินดู แล้วหาร้านโปรดในดวงใจของเธอเอง เราเชื่อว่าย่านนี้ต้องมีสักร้านที่โดนใจและอยู่ในความทรงจำของพวกเธอได้ไม่ยาก
002 Endo Sushi Osaka
ยิ่งมีประสบการ์ณยิ่งน่าเชื่อถือ ยิ่งโดดเด่นยิ่งต้องลอง แล้วถ้าเราจะบอกว่านี่คือร้านซูซิร้อยปีของญี่ปุ่นล่ะ ความโดดเด่นที่ยกกำลังด้วยประสบการณ์ขนาดนี้มีหรือว่าเราจะพลาด ร้านนี้คือร้านซูชิต้นตำหรับโอซาก้าเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นครัวของญี่ปุ่น ที่เปิดร้านมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1907 ตั้งอยู่บริเวณตลาดกลางค้าส่งปลาแห่งโอซาก้า แหล่งอาหารทะเลที่สดใหม่และยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ ที่มาของวัตถุดิบอันสดใหม่ที่ถูกส่งตรงจากก้นทะเลสู่ห้องครัว และสู่ลิ้นอันอ่อนนุ่มของเรา หน้าร้านเรียบง่ายตามความเป็นญี่ปุ่น เมื่อเลื่อนประตูไม้ให้เปิดออกกลิ่นหอมของท้องทะเล และกลิ่นซุปก็เข้ามาเตะจมูก จนท้องของเราเริ่มร้องโวยวาย ยิ่งได้เห็นวัตถุดิบมากมายในตู้หน้าโต๊ะนั่งแบบบาร์ และเซฟที่กำลังแล่ปลาอย่างใจเย็น ยิ่งทำให้อยากทานมากขึ้นไปอีก
ซูชิหน้าปลาดิบที่หลากหลาย ถูกเสริฟมาพร้อมกับน้ำซุปผักร้อน ๆ บนโต๊ะมีขิงดองสีชมพูอ่อนรสหวานนิด ๆ ซ่าหน่อย ๆ ไว้กินคู่กับข้าวปั้นชิ้นพอดีคำ ข้าวรสกลมกล่อมกับปลาสดที่ทั้งหอมและหวาน เมื่อเคี้ยวจะได้รสโชยุและวาซาบิที่เซฟใส่มาให้เราแบบพอดี๊ พอดี ความเข้มข้นรสชาติจากท้องทะเล และกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของข้าว บวกกับความเผ็ดของวาซาบิสด เมื่อหมดคำยกซุปรสบางๆ ซดตาม และตบท้ายด้วยชาเขียวร้อน ๆ เข้ม ๆ คือบอกได้เลยว่าต้องมา ต้องมา ต้องมา
003 Osaka Aquarium KAIYUKAN
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังแห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น สัตว์น้ำที่จัดแสดงมีค่อนข้างหลากหลาย แบ่งออกเป็นโซน ๆ ทั้งหมด 8 ชั้น โดยมีไฮไลท์เด็ดอยู่ที่ Central Tank ซึ่งความสูงมากถึง 9 เมตรเลยทีเดียว ภายในจะมีการจำลองสภาพแวดล้อมให้คล้ายคลึงกับมหาสมุทรแฟซิฟิคมากที่สุด ทำให้เราเหมือนถูกดูดสู่ท้องทะเลตัดขาดจากเวลาและโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์แบบ นี่ขอบอกเลยว่าถ้าเธอได้มาแล้วจะรู้ว่าความน่ามหัศจรรย์และน่าตื่นเต้นที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันเป็นอย่างไร
เดินชมเพลิน ๆ กว่าเราจะรู้ตัวอีกทีก็คือตอนที่ท้องร้องขอพลังงานเพิ่มเติม โชคดีที่ด้านในอควาเลียมมีส่วนของคาเฟ่อยากกินอะไรที่นี่เค้าก็มีขาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ อาหาร ขนม แต่ที่ชอบมากคงเป็นไอติมโคนลายจุดที่เค้าทำให้มีสีสันลักษณะคล้ายฉลามวาฬพระเอกของอควาเลียมแห่งนี้ ส่วนอาหารอื่น ๆ ก็ไม่ได้มีไรพิเศษมาก และที่สำคัญต้องกินในโซนที่เค้ากำหนดด้วยนาจาาา แต่มันก็พิเศษตรงที่ว่าเราสามารถกินเสร็จแล้วออกมาเดินดูน้องปลาต่อได้เลยแบบไม่ต้องเสียเวลาเข้าออกนั่นเอง
004 American Mura
บอกแล้วว่าโอซาก้าคือความคึกครื้น แต่ที่แนะนำไปแรก ๆ อาจจะยังไม่สาแก่ใจคนชอบความคึกคัก เราจึงอยากขอแนะนำหมู่บ้านอเมริกา (Americamura, アメリカ村) หรือฉายา Shibuya West ศูนย์กลางแห่งแฟชั่น และความคิดสร้างสรรค์ สวรรค์ของเด็กรุ่นใหม่ที่เป็นตัวของตัวเอง ครบครัน พร้อมพรั่งทั้งที่กิน ที่เที่ยว ที่ช้อป หลากสไตล์ หลายสีสัน เหมือนกับชิบูย่าโตเกียวยังไงยังงั้น เพราะฉะนั้นขาช้อปและขาไม่ช้อปจงดูแลเงินในกระเป๋าและบัตรเครดิตให้ดี ไม่ใช่ว่าใครจะขโมยไปหรอกนะ แต่เหล่าร้านค้าและบรรยากาศในย่านนี้มันชวนเสียตังค์เป็นอย่างยิ่งอ่ะ
อดีตโกดังเก็บสินค้าและเสื้อเสื้อผ้ามือสองนำเข้าจากอเมริกา ตั้งแต่ปี 1970 ทำให้หมู่บ้านอเมริกา โอซาก้า เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม และรังสรรค์จนกลายมาเป็นเมืองแห่งแฟชั่นสุดคลู ร้านรวงต่าง ๆ มากมาย การแสดงศิลปะ กิจกรรม สุดหลากหลาย สร้างสีสรรให้กับหมู่บ้านแห่งนี้จนทั้งชาวญี่ปุ่นและแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกอยากลองมาสัมผัส
Alice on wednesday : ตื่นตาตื่นใจในแดนมหัศจรรย์
ร้านที่สาวกหนังสุดน่ารักจากเรื่องอลิซในแดนมหัศจรรย์ห้ามพลาดดดด เพราะเค้าได้สร้างความฝันให้เป็นจริงเพียงแค่ก้าวแรกหลังบานประตูสีน้ำตาลรูปปกหนังสือ สินค้าหลากหลาย ตั้งแต่ขนมหวาน เครื่องประดับ ของใช้น่ารัก ของตกแต่งบ้าน ที่มีแพคเกจและคอนเซ็ปต์สุดชิคอย่าง อลิศในแดนมหัศจรรย์อยู่มากมายเต็มไปหมด จนทำให้สาวน้อย ชายหนุ่ม เด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่ถูกดึงดูดและหลงในวังวนจนหยิบของเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ารักกันไปอย่างน้อยคนละชิ้นสองชิ้น
Long Softcream : ซอฟครีมย้าวยาวแสนอร่อย
ญี่ปุ่นดินแดนที่โด่งดังในเรื่องขนมหวานจากวัตถุดิบแสนอร่อย ไม่ว่าใครที่มาก็ต้องมีภาพไอศกรีมติดมือกลับไปอย่างน้อยคนละใบสองใบ และในย่านนี้มีร้านไอศกรีมที่เราอยากให้ลองคือ Long Softcream (เดิมคือร้าน Pop Sweet) ไอศกรีมซอฟต์ครีมที่ไม่ธรรมดา เพราะมันยาวมากเวอร์ ยาวเป็นฟุตกันเลยทีเดียว รสชาติก็มีตั้งแต่วานิลลา ชาเชียว ช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี โดยแต่ละวันรสชาติก็จะเปลี่ยนไป จะสั่งเดี่ยว ๆ มากินให้เต็มคำ หรือจะเลือกสั่งแบบทูโทน รสที่ชอบคู่รสวานิลลาเลยก็ได้ ไอศกรีมเย็น ๆ นุ่ม ๆ หวาน ๆ สดชื่น อร่อยจนตอนนี้ต้องหาไอศกรีมมากินแก้ขัดระหว่างรีวิวซะหน่อย
เพลิดเพลินทั้งชิม ช้อป ชิว สุดฟิน แต่ที่นี่ยังมีหลายหลายสิ่งที่น่าสนใจรอให้วัยรุ่นฮิป ๆ อย่างเรามาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น Flying Tiger Copenhagen : ช๊อปไอเดียสุดชิคในราคาประหยัด, Eggs’n Things : แวะชิลล์ที่แพนเค้กคาเฟ่สไตล์ฮาวาย หรือ Standard bookstore : อ่านหนังสือดี จิบเครื่องดื่มรสอร่อย ฯลฯ อีกมากมายที่จะเติมเต็มความคึกครื้นและสร้างสีสันให้ชีวิตพวกเธอสดใสยิ่งขึ้น จะลดลงก็เห็นจะเป็นแค่เงินในกระเป๋าเท่านั้น …
005 Ramen Yashichi
ร้านราเมงที่ติดอันดับ 1 ใน 50 ร้านราเมงจากการจัดอับดับของเว็บไซต์ Tabelog’s เว็บไซต์ค้นหาร้านอาหารชื่อดังของญี่ปุ่นในปี 2016 ที่นี่เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เหมือนเอาบ้านสองชั้นสไตล์ญี่ปุ่นมาทำ ภายในสะอาดสะอ้าน มีเมนูราเมงให้เลือกทานด้วยกัน 3 แบบ คือ โชยุ, เกลือ และ Tsukemen (ราเมงที่เสริฟแบบแยกน้ำ) โดยร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Nakatsu station เดินออกจากสถานีผ่านสวนสาธารณะเล็ก ๆ ประมาณ 5 นาทีก็เจอร้าน ใครจะไปลองทานราเมงระดับตำนานร้านนี้อย่าลืมเช็ควันเวลาดี ๆ นะเหวย เพราะร้านนางเปิดแค่จันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-16.00 น. เท่านั้น
แม้ร้านจะเปิด 11 โมงบางวันคิวก็ยาวตั้งแต่ 10:30 โมง อย่างวันที่เราไปฝนตกคิดว่าไม่มีคิวสรุปในร้านคนเต็มต้องยืนรออีกกว่า 20 นาที แต่มันเป็นเวลาที่เสียไปและคุ้มค้ามากเมื่อได้กินราเมงชามโตซุปโชยุร้อน ๆ เส้นเหนียวนุ่ม และหมูชาชูหอม ๆ นิ่ม ๆ ตัดไข่ยางมะตูมตามเข้าไปแบบติด ๆ เป็นหนึ่งคำที่ครบรส เติมเต็มความหนาวเย็นจากลมฝนได้อย่างดีงาม ใครชอบเผ็ดก็บดพริกไทยดำหรือเติมพริกป่นจากขวดเล็ก ๆ บนโต๊ะก็เพิ่มรสชาติได้อย่างดี
006 Osaka Castle
ปราสาทโอซาก้า แค่ได้ยินชื่อก็รู้ตัวละว่าต้องมา เพราะนี่คือแลนมาร์คของเมืองโอซาก้า ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1583 ปราสาทใหญ่กลางสวนสูง 8 ชั้น ห้อมล้อมด้วยกำแพงหิน คูน้ำ สวนนิชิโนมารุที่มีต้นซากุระมากกว่า 600 ต้น และตึกทันสมัยสูงใหญ่ ช่วงพีคสุดของปราสาทแห่งนี้จึงเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ต้นซากุระจะบานสพรั่งพร้อมกันส่งเสริมความงามให้กับปราสาทแห่งนี้
ปราสาทโบราณแห่งนี้แม้จะโบราณแต่ก็อยู่ท่ามกลางเทคโนโลยี และความไฮเทคนั้นก็เข้ามาสู่ปราสาทด้วย เพราะที่นี่เค้ามีลิฟท์ให้สามารถขึ้นไปชมความงานของวิวและส่วนจัดแสดงต่าง ๆ ได้ เพราะงั้นเมื่อมาทั้งทีอย่าพลาดที่จะขึ้นไปล่ะ เพราะด้านบนจะได้เห็นวิวทำเลทองที่เลือกสรรมาตั้งแต่สมัยโบราณ เห็นความตัดกันของตึกสูงและปราสาทโบราณ เห็นความเชื่อมกันของต้นไม้และท้องฟ้า แสงแดดที่อบอุ่นและลมเย็น ๆ บนยอดปราสาททำให้เรารู้จักญี่ปุ่นในอีกมุมหนึ่งที่แตกต่างแต่มีความหมายเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งจุด
ด้านล่างรอบ ๆ ตัวปราสาทจะมีร้านค้าร้านขาย ทั้งนักท่องเที่ยว ทั้งชาวญี่ปุ่นเองเต็มไปหมด เสมือนเป็นศูนย์รวมชาวเมืองที่อยากหลีกหนีความคึกคักสู่ความร่มเย็นแต่ยังคงครื้นเครง ชายซามูไรในชุดแดง วัยรุ่นถือไอศกรีมโคน เด็ก ๆ วิ่งเล่นสนุกสนาม คนแก่เดินจูงมือกันมารับลม เป็นตัวเสริมบรรยากาศให้กับปราสาทโอซาก้า และช่วยให้มันยังดูมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
007 Universal Studios Japan (USJ)
ขอพื้นที่เล็ก ๆ ให้ยังเป็นเด็กไปนาน ๆ และเราเชื่อว่าการได้มาเที่ยวที่ Universa; Studio Japan ไม่ว่าเธอจะอายุเท่าไหร่ เหนียมอายแค่ไหน การที่เธอได้ก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้ เธอจะรู้สึกว่าเธอมีพลัง มีความกล้า และความซู่ซ่าบ้าบิ่น ร่างกายเธอจะร้องขอความตื่นเต้นและกลับกลายเป็นเด็กขึ้นมาในทันที เพราะทุกคนในที่นี้ต่างมีสายตาจับจ้องไปในสิ่งเดียวกัน คือ ความสนุก
ที่นี่มีเครื่องเล่นมากมายหลายแบบ หลายโซน เธอสามารถอยู่ที่นี่หนึ่งวันเลยก็ได้ เพราะมันคือโลกอีกใบที่จะเปลี่ยนวันของเธอให้ความทรงจำที่ล้ำค่า และปลุกเจ้าเด็กน้อยที่อาจจะหลับไหลไปแล้วในตัวเธอให้ตื่นขึ้นมาสนุก มีพลัง มีความสร้างสรรค์อีกครั้งก็เป็นได้ ไม่มีใครแก่เกินจะมาสวนสนุก และที่สวนสนุกแห่งนี้ก็เปิดโอกาสให้เธอโลดแล่นในความฝันได้อย่างไม่รู้เบื่อ มาเหอะ เพราะนี่คือความฝันในโลกแห่งความเป็นจริง
008 Cupnoodles Museum
เสน่ห์ของญี่ปุ่นอย่างนึงก็คือ การทำให้สถานที่ธรรมดา ๆ ดูมีอะไรน่าสนใจได้เสมอ ที่นี่ก็เช่นกัน พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของนิชชิน (Nissin) ภายนอกก็โรงงานบะหมี่นิชชินนะแหละ แต่เข้าไปปุ๊บคือต้องอึ้งตะลึงก็ที่นี่หน่ะไม่ใช่โรงงานน่าเบื่อ ๆ อย่างที่คิด เพราะเค้ามีกิจกรรมให้ทำมากมาย แถมมี Gimmick แปลก ๆ ให้เล่นอีกด้วย เคยกินบะหมี่ถ้วยแล้วจินตนาการกันบ้างมั้ยว่านอกจากรสชาติเดิม ๆ ที่เรากินกันแล้ว เราอยากสร้างสรรรสชาติของมันให้เป็นยังไงอีกบ้าง ที่นี่จะเป็นที่ๆ มอบสิทธิ์นั้นให้พวกเธอสามารถทำบะหมี่ถ้วยในแบบของตัวเอง เลือกรสเอง ผลิตเอง ตั้งแต่ต้นยันจบ เด็ดสุดคือให้เพ้นท์ลายเป็นบะหมี่ถ้วยแบบเดียวในโลก เป็นของฝากชิค ๆ กลับบ้านด้วย เก๋มากเวอร์ แฟนคลับบะหมี่ถ้วยต้องมาลองเด้อ
อย่างที่บอกว่าที่นี่เธอทำบะหมี่ของเธอเองได้ วิธีการก็แสนง่ายแค่กำเงิน 300 เย็นไว้แน่น ๆ หยอดเงินลงตู้เพื่อรับถ้วยของตัวเอง 1 ถ้วย จากนั้นก็ได้เวลาลงมือวาดลวดลายถ้วยหนึ่งเดียวในโลกของเรา วาดเสร็จก็ไปต่อแถวเติมเส้น เติมเครื่อง เลือกรสชาติ ก่อนจะแพ็คเป็นแพคเกจที่พร้อมขายในตลาด จบปี๊งแฮปปี้กับการได้มาม่าคัพที่ออกแบบด้วยตัวเอง!!!
009 Umeda Sky Building
อุเมดะ สกาย บิวล์ดิ้ง ตึกสูงในย่าน Umeda เมืองโอซาก้า ที่มีความสูงถึง 173 เมตร หรือ 40 ชั้น ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นโอซาก้าได้โดยรอบแบบ 360 องศา และยังสามารถมองไปได้ไกลถึงเกาะอาวาจิที่อยู่ห่างจากโอซาก้ามากกว่า 50 กิโลเมตร บอกได้คำเดียวว่าอเมซิ่งกิ่งก่องแก้วมากเว่อร์จ้าาาา
แม้เราจะกลัวความสูงแต่เราก็รักที่นี่ เพราะมันดูโอ่อ่า ทันสมัย สวยงาม มันดี มันชิค มันคูล มันโดนใจจริง ๆ การออกแบบที่เน้นเส้นสาย และแสงเงาไม่ว่าจะขึ้นมาชมเมืองยามเช้าหรือยามค่ำก็ทำให้เรายิ่งรักโอซาก้ามากขึ้นไปอีก และในวันฟ้าใสที่มองไปไกลได้อีกกว่า 50 กิโลเมตรเมตรมันยิ่งทำให้เรารู้สึกถึงความพิเศษ ความใส่ใจของคนญี่ปุ่นต่อสิ่งที่พวกเค้าสร้างขึ้นเป็นอย่างดี ผู้คนทั้งหนุ่มสาว แก๊งเพื่อน และครอบครัว ต่างยืนรับลม เส้นผมปลิวไสว กับวิวตรงหน้า
010 Namba
ย่านชอปปิ้งที่สำคัญในโอซาก้า อยู่ใกล้กับสถานี Namba โดยย่านช้อปปิ้งก็เริ่มมีตั้งแต่ทางออกสถานีรถไฟ ไหลลงไปชั้นใต้ดิน และลากยาวไปอีก 600 เมตร ตั้งแต่บริเวณคลองโดทงบุริ ทางเดินชินไซบาชิ และทางเดินคู่ขนานกับถนนมิโดซุจิ ซึ่งมีให้ช้อปตั้งแต่ไฮเอน แบรนด์เนม และโลคอลเนม มือหนึ่ง มือสอง ของกิน ของใช้ ของจำเป็นของไม่จำเป็น คือถ้าบอกว่ามีของจากนอกโลกมาวางขายก็ยังน่าเชื่ออ่ะ เพราะมันละลานตามากจริง ๆ โดยย่านนี้คือย่านที่มีสัญลักษณ์ที่เราคุ้นตากันดี คือป้ายกูลิโกะขนาดใหญ่ ที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูปด้วยถึงจะยืนยันได้ว่ามาถึงย่านนัมบะแล้วจริง ๆ ส่วนร้านค้าอื่น ๆ ก็ไม่ยอมน้อยหน้าคุณลุงกูลิโกะ ต่างจัดเต็มตกแต่งป้ายหน้าร้านมาประชันความโดดเด่นกันแบบมองเห็นได้จากดาวอังคาร ความสวยก็เลือกยากประมาณนางงามจักรวาลนั้นแหละ สวยกันคนละแบบแต่ถ้าให้บอกก็คือสวย เด่น ชวนมอง ชวนถ่ายรูปกันเพลิน
นอกจากป้ายจะเยอะ คนเยอะ ของกินก็เยอะถล่มทลายมาก โดยเฉพาะของขึ้นชื่อของเมืองโอซาก้าอย่างทาโกยากิที่มีร้านขายแทบทุกจุดบนถนน แป้งกลม ๆ หอม ๆ รสเข้มไส้ปลาหมึกยักษ์กรุบ ๆ โรยด้วยแผ่นปลาโอแห้งเคี้ยวเพลิน ๆ และน้ำซอสสูตรเด็กของแต่ละเจ้า ที่นี่มีร้านดังขึ้นชื่อเยอะมาก แต่เอาจริง ๆ นะเราว่าร้านไหนก็อร่อย ๆ อ่ะแบบไม่ต้องไปต่อแถวยืนรอขาแข็งทนหิวจนอยากกินเพื่อนแทนไปก่อนก็ได้อ่ะ แล้วมันก็มีให้เลือกเยอะมาก มากจนเราอยากบอกเธอว่าหลับตาเลือก ๆ ไปเถอะ ญี่ปุ่นไม่ทำให้เธอผิดหวังหรอก
011 Kuromon Ichiba Market
ปิดท้ายที่ครัวใหญ่แห่งเมืองโอซาก้า Kuromon Ichiba Market เป็นตลาดซื้อขายของสดและปรุงสำเร็จที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีร้านค้าเรียงรายขนาบข้างด้วยความยาวของตลาด 600 เมตร ที่อัดแน่นร้านค้ากว่า 160 ร้าน มีทางเดินเล็ก ๆ ให้เราได้เดินดู ก็ยิ่งทำให้เราตื่นตาตื่นใจเลือกกันไม่ถูกเลยว่าจะหยุดซื้อร้านไหนดี ประเภทอาหารที่มาแล้วต้องได้ลิ้มลองคือ พวกอาหารทะเลสด ๆ ทั้งซาชิมิ ปลาไหล กุ้งเผา ปลาหมึกย่างต่าง ๆ บอกเลยว่าเด็ดจนลืมแพลนเที่ยวแล้วอยากซุกตัวอยู่ตรงนี้กินมันทั้งวันนี่แหละ
เราลองสุ่มเลือกร้านดูว่าจะซื้อร้านไหนดีด้วยเซ้นท์ของตัวเองล้วน ๆ อย่างอุนิ (ไข่หอยเม่น) สด ๆ ที่วางแบ่งขายเป็นถ้วยๆเสิร์ฟพร้อมช้อนเล็ก ๆ ลองกินก็รู้เลยว่าสวยทั้งรูปจูบก็หวานสดเข้มข้นจนน้ำตาแทบไหล ปลาไหลย่างที่ราคาไม่แพงเท่าตามร้านอาหาร ย่างทาซอสกันสด ๆ ให้เห็น หอมคลุ้งไปทั้งตลาดเรียกเสียงร้องจากท้องเราได้เป็นอย่างดี ใครยังไม่หนำใจจากขาปูก็มาหากินต่อที่นี่ได้ วางไว้เป็นถาด ๆ ตามราคาให้เราเลือกแล้วให้เขาย่างกินได้เลย ปลาหมึกจิ๋วเสียบไม้อันนี้ก็อร่อยเห็นบ่อย ๆ ไม่เคยซื้อกิน ทริปนี้ทริปกินฤกษ์ดีเปิดประสบการณ์บอกเลยว่า เด้ง กรึบ มีครั้งที่ 2 3 4 แน่นอน
พุงจะแตกแล้วก็ยังกินไม่ครบเลย ตั้งแต่กินมายังไม่ถึงครึ่งเลยมั้ง แต่ถ้าใครเบื่ออาหารญี่ปุ่นแท้ ๆ ก็ลองมากินอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่นกันบ้างกับร้าน Onigiri Burger ร้านข้าวปั้น ห่อสาหร่ายหน้าต่าง ๆ ที่เสิร์ฟในรูปแบบของเบอร์เกอร์ น่าสนใจใช่มั้ยละ? ไส้ที่ต้องสั่งคือ KOBE BEEF BURGER (1,200 เยน) เพราะเป็นสเปเชียลของทางร้าน เนื้อหอม ๆ นุ่ม ๆ กินกับข้าวห่อสาหร่ายร้อน ๆ คือฟิน และเมนูเบสิกอื่น ๆ ก็เริ่มต้นที่ 300 เยนเอง ไส้ทะลักล้นออกมาจนอ้าปากกว้างสุดก็ยังไม่ได้เสี้ยวของทั้งชิ้นเลย
โอเด้งร้อน ๆ มั้ยจ๊ะ?? นี่เป็นอีกหนึ่งอาหารรองท้องที่เราชื่นชอบมาก เข้าร้านสะกวดซื้อทีไรเป็นต้องแวะตักทุกที แต่ก็ยังไม่เจอร้านไหนซุปโดนใจสักครั้งคงเป็นเพราะเขาใช้เครื่องปรุงสำเร็จรูปมั้ง จนมาเจอร้านนี้ Ishibashi Shokuhin โอเด้งแบบเรียลเจแปนเนส ที่เปิดมานานกว่า 42 ปีแล้ว ด้วยรสชาติของน้ำซุปหวาน ๆ หอม ๆ ที่ซึมเข้าเครื่องต่าง ๆ มัสตาร์ดที่เราชอบปาดเพื่อเพิ่มรสชาตินี่แทบไม่จำเป็นเลยทีเดียว โดยเฉพาะเอ็นวัวตุ๋นที่เคี่ยวจนนุ่มเคี้ยวง่ายไม่มีเหนียว ตัดกับหัวไชเทาหวาน ๆ ที่กัดแล้วมีน้ำซุปแสนกลมกล่อมไหลออกมาโดนลิ้นทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบไปหมด ชิมไปชิมมาก็สั่งจนเกือบครบทั้งหม้อ ท้องกางกันไปเลยจ้า
กินคาวมากันจนปากแทบจะเป็นกลิ่นทะเลและวากิว เรามาล้างปากด้วยของหวานแสนเบสิกที่มีแทบทุกตลาดกัน นั่นก็คือผลไม้สดเสียบไม้ สตรอว์เบอร์รี่เคลือบน้ำตาล โมจิไส้สตรอว์เบอร์รี หรือถ้ามาสายเฮลตี้ก็มีโดนัทที่ทำจากน้ำเต้าหู้ จิบกับเต้าหู้สดขายเป็นขวดก็คิดว่าไม่อ้วนหรอก อิ่มมากแล้วจะเป็นน้ำผลไม้ปั่นเบา ๆ แทนก็มีขายนะฮะ
ทั้งหมดก็คือ 11 ความชิคคลูหลากหลายแบบของโอซาก้าที่เราอยากแนะนำ ญี่ปุ่นก็คือญี่ปุ่น สะดวก สบาย ใจดี เรียบง่าย ไว้ใจได้ โอซาก้าคือสีสัน คือความหลากหลาย คือเรื่องราวดี ๆ ที่แสนอุ่นใจ คือความอิ่มท้องและอิ่มใจ คือความดีงามที่เราอยากบอกต่อ แต่ทั้งหมดนี่ก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ที่โอซาก้ามี เราอยากให้เธอลองออกมาเพิ่มประสบการณ์ เพิ่มเรื่องราวให้กับหนังสือชีวิตของเธอให้มันมีสีสัน ให้มันหอมหวาน ให้มันเข้มข้น ไม่น่าเบื่อ เพราะชีวิตต้องการชีวา และหน้าหนังสือเธอก็ต้องการเรื่องราว อย่าเชื่อเราที่บอกว่าอร่อย อย่าเชื่อเราที่บอกว่าสนุก อย่าเชื่อเราที่บอกว่าดี แต่จงออกมาพิสูจน์แล้วแบ่งปันกับเราว่าเธอรู้สึกยังไง