ให้ตายสิ!!! นั่งไถหน้าจอมือถือไปมา อยู่ดี ๆ ก็จะสิ้นปีอีกแล้ว และยิ่งช็อคกว่าเดิมเมื่อพบว่าตอนต้นปีทำลิสต์จะไปเที่ยวนั่นนี่ ตัดภาพมาตอนนี้ยังนั่งทำงานอยู่เลย ถึงแม้ว่าการท่องโลกยุคดิจิตอลจะง่ายเพียงสไลด์หน้าจอก็เที่ยวได้อย่างกับหายตัว แต่โลกแห่งความจริง ชีวิตเรามันก็ต้องการเติมไฟ เพิ่มพลังใจ อยากออกไปไหนสักแห่งให้พอมีแฮงกลับมาสู้กันต่อ แต่ถ้างานมันรัดตัว งบมันรัดแน่น เวลามันบีบคั้นขนาดนี้ การเที่ยว “ไต้หวัน” ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่เราอยากจะนำเสนอ ทั้งต้นทุนเที่ยวที่น่ารักดีต่อใจ อากาศช่วงปลายปีที่เย็นสบาย แถมมีที่เที่ยวเยอะแยะมากมาย อาหารการกินก็หาง่ายเพียบพร้อมไปด้วยสตรีทฟู๊ด ถ้าอยากจะเก็ทว่า 12 สถานที่ที่ห้ามพลาด เมื่อไปไต้หวันครั้งแรกมีอะไรบ้าง ก็ตั้งใจไถรีวิวนี้ให้จบ แล้วก็เตรียมเน็ตไปเที่ยวไต้หวันกันเลย
มาทำไกด์ไต้หวันให้พวกแกอ่านได้ขนาดนี้ แน่นอนว่าไต้หวันครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับเราชัวร์ แต่คราวนี้เราจะไม่พลาดทุกการสื่อสาร คนห่วงบ้านห่วงงานอย่างเราก็หมดห่วง เพราะเราใช้ #dtacGO แพ็กเดียวครบ จบทั่วโลกใช้เน็ตได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศในแพ็กเดียวกัน ไม่ต้องสมัคร ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ไม่ต้องเปลี่ยนซิมให้ยุ่งยากตอนถึงสนามบิน แค่สไลด์ขวาเปิดโรมมิ่งก็ใช้อินเตอร์เน็ตได้เลย งานนี้จะเช็คอินไต้หวันในโซเชียลประกาศให้ชาวโลกอิจฉา หรือแชทรายงานที่บ้านว่าถึงแล้วจ้า ก็ทันใจหายห่วง สำหรับราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 499 บาท ได้เน็ตไปใช้เมืองนอกฟรี ๆ 5 GB ต่อเดือน โอ้โห!! ดีมากแม่ อย่ามัวลังเลรีบตาม ๆ ไปรายละเอียดเพิ่มเติมกันเลยจ้า https://bit.ly/2ls9f0l
001 Bitou Cape Hiking Trail
ตัวพร้อม ใจพร้อม อินเตอร์เน็ตก็กว่าอี๊กกก โลเคชั่นแรกเราขอพาทุกคนไปยืดเขา ออกกำลังกาย Hiking Trail เบา ๆ ที่ภูเขารูปปลาวาฬ จุด IG Spot ยอดฮิตติด Top 5 ของไต้หวัน อย่างแหลมปี๋โถเจียว หรือ Bitou Cape Geological Park ที่ตั้งอยู่ Ruifang มณฑลจีหลง ที่นี่ใช้เวลาเดินทางจากไทเปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น สำหรับการเดินเบา ๆ ขึ้นเนินบ้าง ทางราบบ้าง สลับกันไปราวๆ 4 กม. นั้น ขอรับรองด้วยเกียรติของแฟนคลับไต้หวันอย่างเราเลยว่า แกจะได้ภาพสวยปังสมกับการออกแรงแน่นอน เดินไปทั้งทีก็อย่าลืมถ่ายรูปมุมเดินจับราวบันไดเผลอ ๆ ฉากหลังเป็นเนินเขาสีเขียวสดใส จากนั้นโพสต์ลงโซเชียลให้ไว แล้วนั่งพักรับลมเย็น ๆ นับยอดไลค์สักครู่ และไม่ว่าจะเป็นยอดเขา หรือตรงไหน สัญญาณโทรศัพท์ก็แรงชัดถูกใจ
002 Alishan National Scenic Area
โลเคชั่นต่อมาเราขอพาทุกคนไปซึมซับบรรยากาศอันชุ่มฉ่ำ และเต็มไปด้วยหมอก ที่อุทยานแห่งชาติภูเขาอาลี Alishan National Scenic Area ในเมืองเจียอี้ อุทยานแห่งชาติที่แสนป๊อปปูล่าของไต้หวัน ที่มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกเดิน โดยที่ตลอดเส้นทางจะทำให้แกเพลิดเพลินกับต้นไม้เรียงรายสลับซับซ้อน เราจะเห็นตอไม้รูปทรงแปลกตาให้ได้ร้องว้าวเป็นระยะ ๆ ชวนให้แวะถ่ายรูป แบบไม่มีเบื่อ หรือหากใครได้มีโอกาสมาแบบค้างคืน ก็อย่าลืมที่จะนั่งรถไฟโบราณไปชมพระอาทิตย์ขึ้น จะได้สัมผัสที่นี่แบบครบทุกรสชาติ แต่เดี๋ยวก่อน ความปังยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะหากว่าแกมาในช่วงเดือนมีนาคม ก็จะได้เจอสถานที่ชมวิวซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน ภาพดอกซากุระกับรถไฟโบราณมันแสนหวานราวกับภาพวาดอีกด้วย
003 Yehiu Geopark
กว่าภูเขาใหญ่ราบเรียบจะกลายเป็นแหลมยื่นลงมาในทะเล ที่เต็มไปด้วยหินทรายรูปทรงแปลกตาเรียงรายให้เราเห็นตรงหน้า จะต้องผ่านการยืนหยัดให้คลื่นลมกัดเซาะเป็นเวลานับ 1,000,000 ปี เรียกว่านี่คือเส้นทางแห่งการพิสูจน์เพชรแท้ของจริง ดังนั้น Yehiu Geopark อุทยานหินทรายที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเมืองนิวไทเป ก็คืออีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาไต้หวัน ที่เราอยากให้พวกแกหาโอกาสมาเดินเล่นสำรวจทรวดทรงของหินต่าง ๆ แล้วลองนึกดูว่ามันคล้ายกับรูปอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะเจ้าหินที่ป๊อป ๆ ในหมู่นักท่องเที่ยว อย่างหินไอศครีม หินทะเลเทียน หินช้าง ก็จะมีคนมาขอถ่ายรูปเยอะหน่อย แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็หนีไม่พ้นหินเศียรราชินีที่สวยงามโดดเด่นสมชื่อราชินีจริง ๆ ส่วนจะเหมือนอย่างที่บอกหรือไม่ ก็แล้วแต่การจินตนาการของแต่ล่ะคน
004 Sun Moon Lake
เอาล่ะ สำหรับตรงนี้ บอกเลยว่าหากมาไต้หวันไม่ว่าจะเป็นครั้งแรก หรือครั้งที่เท่าไหร่ ก็ควรใส่ที่นี่ไว้ในแพลน และขอไว้ตรงนี้เลยว่า ควรจัดเวลา 1 วันเต็ม ๆ ให้กับที่นี่ เพราะมันดีจริง ๆ เว้ยแกกกกกกก Sun Moon Lake แห่งนี้คือทะเลสาบที่สวยที่สุดและเป็นแหล่งน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไต้หวัน เมื่อมองจากมุมสูงด้านตะวันออกจะมีลักษณะคล้ายกับพระอาทิตย์ ส่วนด้านตะวันตกมีรูปร่างคล้ายกับพระจันทร์ เลยชื่อว่าทะเลสาบสุริยันจันทรา สำหรับกิจกรรมที่อยากเชิญชวนทุกคนให้มาโดน ก็อาจจะเป็นขึ้นกระเช้าไปที่ Formosan Aboriginal Culture Village แหล่งศึกษาวิถีของชนเผ่าดั้งเดิมหมู่บ้านชนเผ่าอะบอริจินและสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน หรืออีกหนึ่งกิจกรรมคือเลือกเช่าจักรยานมาปั่นลัดเลาะเลียบทะเลสาบในช่วงบ่ายแก่ ๆ ชมวิวทะเลสาบสีเขียว ท้องฟ้าใสๆ โยกหัวไปมา ฮัมเพลงที่ชอบ ปั่นไปรอบ ๆ ชมวิว เที่ยววัด แวะร้านกาแฟ หรือจะปั่นไปยัง Xiangshan Visitor Center หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อชมสถาปัตยกรรมอันสวยงาม ที่เลียนแบบมาจากแขนของมนุษย์ที่กำลังโอบกอดพื้นดินด้วยความยาว 34 เมตรสูง 8 เมตร และอีกมากมาย
005 Rainbow Village Taichung
และแล้วเราก็ถึงเวลามาพบกับความคัลเลอร์ฟูลแห่งไต้หวันกันที่หมู่บ้านสายรุ้ง Rainbow Village ที่เมื่อก่อนเคยเป็นเพียงแค่หมู่บ้านเรียบ ๆ ไร้สีสัน ที่สร้างเพียงเพื่อให้ทหารของก๊กมินตั๊ง และครอบครัว (ทหารผ่านศึกในยุคสงครามกลางเมืองของจีน) ที่ลี้ภัยมาอยู่ที่ไต้หวันได้อาศัย แต่ในช่วงหลัง ๆ หลาย ๆ ครอบครัวได้ย้ายที่อยู่ออกไป คนที่ยังอยู่นำโดยนาย Huang Yung-Fu ได้ทำการวาดรูป และระบายสีผนังด้วยสีสันสดใสจนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ และเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้อย่างมากมาย ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟไถจง และไม่ใหญ่มาก จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะจะจัดคอสตูมแน่น ๆ แล้วแวะมาเที่ยวเล่นถ่ายรูปเอาชิคเอาคูล
006 Jiufen
เมืองเล็ก ๆ ที่แทรกตัวอยู่บนภูเขา วิวทิวทัศน์จึงสวยงามมองเห็นวิวทะเลกับภูเขาได้ไกลสุดลูกหูลูกตา เต็มไปด้วยความป๊อปปูล่าในกลุ่มนักท่องเที่ยว เพราะที่นี่คือโลเคชั่นต้นแบบของอนิเมชั่นชื่อดัง Spirited away โดยเฉพาะฉากโรงน้ำชาที่ประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงเป็นชั้น ๆ ตามความลาดของหน้าผา แม้แต่คนที่ไม่เคยดูหนังยังคุ้นตาชัวร์ ๆ สิ่งที่ต้องร้องว้าวอีกอย่างของเมืองนี้ คืออาหารทั้งคาวหวาน เครื่องดื่ม หรือผลไม้ วางขายรอให้เราไปชิมไปทักทายพ่อค้าแม่ค้า ส่วนเมนูที่ต้องลอง หรือหากใครใจไม่กล้าพอก็อาจจะบอกให้เพื่อนลองก็คือเต้าหู้เหม็นที่กลิ่นมันแสนจะทั้งเย้ายวนและยี้ในคราวเดียวกัน สำหรับเราเองก็ถือว่าโอเคนะ พอกินได้ คือถ้ามาก็ควรลอง แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่มีใครว่าหรอก 555
007 Shifen Old Street
อีกหนึ่งโลเคชั่นที่อยู่ไม่ห่างจากจิ่วเฟิ่น Shifen Old Street อีกหนึ่งสถานที่แห่งคำอธิษฐาน มาถึงที่นี่ก็จะเห็นท้องฟ้าเต็มไปด้วยโคมที่มีเห็นคำอธิษฐานลอยล่องอยู่ สำหรับโคมที่ปล่อยก็จะมีสีสันแต่งต่างกันไปแบ่งตามความเชื่อ เรื่องสุขภาพ ความรัก การงาน การเงิน จะปล่อยทีละสี หรือปล่อยแบบอันเดียวครบทุกสีทุกมิติก็ได้ และจากจุดปล่อยโคมไม่ไกล เราสามารถเดินลัดเลาะริมน้ำไปยัง Shifen Waterfall น้ำตกสีเขียวมรกตที่ชื่อว่าเป็นน้ำตกไนแองการาของไต้หวันได้ด้วยล่ะ
008 Houtong Cat Village
ทาสแมวมากองรวมกันตรงนี้ เพราะที่นี่คือเมืองที่มีน้องแมวเจ้านายของพวกอยู่รวมกันนับ 100 ตัว ให้เราร้องเหมียว ๆ เรียกหากันทั้งวัน หมู่บ้านแมวเหมียวแห่งนี้ เดิมทีเป็นเหมืองเก่า ที่ลูกหลานส่วนใหญ่ไปทำงานในเมืองกันหมด เหลือแต่ปู่ย่าตายยายอยู่ที่บ้าน เลยเลี้ยงแมวไว้แก้เหงาแทบทุกบ้าน พอวันหนึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยือน เลยถ่ายรูปเมืองนี้โพสต์ลงโซเชี่ยล ด้วยความน่ารักของน้อง ๆ เลยทำให้เมืองนี้โด่งดังกลายเป็นสถานที่สุดฮอตในปัจจุบัน หมู่บ้านเจ้าเหมียวมี 2 ฝั่งเลย เชื่อมด้วยทางเดินรูปแมว ฟากหนึ่งจะเต็มไปด้วยร้านขายของฝาก ร้านอาหาร และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ส่วนอีกฝั่งจะเต็มไปด้วยร้านคาเฟ่ ร้านน้ำชา ของที่ระลึก ซึ่งแต่ละร้านก็จะเรียกแขกด้วยรูปน้องแมวน่ารัก ๆ จนอยากจะแวะเข้าไปใช้เงินเล่น ๆ เลยทีเดียว
009 Taipei101 Xiangshan Elephant Moutain
อ่ะ จุดนี้ต้องขีดเส้นใต้ไว้เลยว่าถ้าไม่มา คือพลาด พลาด พลาด เพราะนี่คือจุดชมวิวที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์คของไต้หวันที่มีการโพสภาพ และเช็คอินผ่านโซเชียลมีเดียนับแสนรูป เพียงเดินขึ้นบันไดไปยังจุดชมวิวเขาเซี่ยงซานหรือเขาช้าง Xiangshan Elephant Mountain ประมาณ 15-20 นาที เราก็จะได้พบกับวิวตึกไทเป 101 และเมืองไทเปได้แบบ 360 องศา แนะนำเลยว่าต้องมานั่งเก็บภาพยามเย็น ช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก รอแสงสีทองสาดผ่านหน้า และดับหายไปข้างตึกในเมือง วิวอลังการไม่ต้องเสียเงินสักบาทแบบนี้ นับว่าคุ้มค่าดีงามอยากกราบกรานเรียนเชิญให้มากันทุกผู้ทุกคน
010 Taipei Fish Market
การเที่ยวตลาดปลานี่เปรียบเหมือนสวรรค์สำหรับเรา และที่นี่ก็เปรียบเป็นสวรรค์ชั้นที่แทบจะดีที่สุดเลยทีเดียว เพราะนี่คือตลาดปลาแห่งไทเป Taipei Fish Market ตลาดอาหารทะเลโคตรสด ที่เราเชื่อว่าคนรักอาหารทะเลทุกคนจะต้องเลิฟและเก็บลิสต์เอาไว้ในดวงใจไปอีกแสนนาน ต่อให้มาไทเปอีกกี่ครั้งก็จะต้องแวะมาฝากท้องอาหารทะเลที่นี่ถูกแบ่งไว้เป็นโซน ๆ ทั้งโซนอาหารทะเลสด โซนบาร์อาหารทะเล โซนซูชิ และโซนหม้อไฟปิ้งย่าง ทุกจานทุกหม้อล้วนอลังการเหมือนยกทะเลมาไว้ตรงหน้า ออกมาจากที่นี่เสร็จร่างกายของเราก็เต็มไปด้วยโอเมก้า รับไขมันดี เพิ่มความฉลาดเพราะกินปลาอิ่มจนจุกไปอีกหลายมื้อ
011 Raohe St. Night Market
อีกหนึ่งเสน่ห์ยามค่ำคืนของไทเปที่พลาดไม่ได้ก็คงเป็นไนท์มาเก็ต ที่มีให้เลือกเดินอยู่หลายที่ แต่ที่ยืนหนึ่งในใจเราคงต้องยกให้ Raohe St. Night Market ที่เมื่อเราก้าวเท้าย่างเข้าประตูตลาดเข้าไป หัวใจเราก็พองโตเพราะตลอดสองข้างทางความยาวประมาณ 600 เมตร ไม่ว่าจะจะหันซ้ายหรือขวา เราก็จะพบกับทั้งอาหารคาวหวานเรียงรายให้จัดหนักจัดเต็มหลายร้อยร้าน อีกทั้งที่นี่ก็ยังมีทั้งร้านดูดวง ฮวงจุ้ย ร้านเสื้อผ้า และตู้คีบตุ๊กตา เอาไว้ละลายทรัพย์ และเป็นตัวช่วยย่อยหลังจากอิ่มจนแทบกลิ้งกลับโรงแรม สำหรับเราที่นี่เป็นอีกหนึ่งตลาดกลางคืนแนะนำที่ควรมาเก็บเมื่อมาไต้หวัน
012 Chiang Kai Shek Memorial Hall
สุดท้ายท้ายสุดถ้าไปสนามหลวงแล้วไม่ไหว้วัดพระแก้วถือว่าผิดฉันท์ใด มาไทเปไม่ได้ไปอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค Chiang Kai Shek Memorial Hall ก็ถือว่าผิดฉันท์นั้น เพราะนี่คืออนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1976 เพื่อยกย่องอดีตประธนาธิบดีเจียงไคเช็ค แล้วยังมี Concert Hall กับ National Theater ที่กว้างขวางอลังการ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมความสวยงามด้านในได้ อ้อ!!! เพื่อเพิ่มความคูลก็ต้องห้ามลืมถ่ายรูปตรงซุ้มประตูตรงทางเข้า กับอาคารสีขาวขาวหลังคาน้ำเงินเข้มที่มีรูปปั้นท่าน เจียง ไคเช็ค อยู่ด้านในด้วยล่ะ แม้จะเป็นสถานที่ที่ดูเป็นทางการหน่อย แต่มุมถ่ายรูปก็ดีไม่ต่างกับที่อื่น ๆ ในไต้หวันเลย
แม้ว่าที่เสนอมาจะยังไม่ใช่ทั้งหมดของไต้หวันที่ควรต้องไป เพราะที่นี่ยังมีของดีอีกมากมายให้เก็บเกี่ยวความสุขแบบจุก ๆ เที่ยวทั้งปีก็ไม่ครบไม่จบได้หรอก แต่เราคิดว่าหากมีโอกาสจะไปเซย์ฮัลโหลครั้งแรกทั้งทีอย่างน้อยก็ต้องมี 12 สถานที่นี้แหละอยู่ในแพลน และเชื่อไหมว่าต่อให้ไปจนครบทั้งหมดนี้ แกจะต้องอยากกลับไปซ้ำอีกหลาย ๆ ทีไม่มีเบื่อ ถ้าเป็นไปได้ เราเองก็อยากไปทุกที่ซ้ำให้ครบทุกฤดู พวกแกก็พร้อมที่จะเช็คอินเฟิร์สไทม์แอทไต้หวันกันแล้วใช่มั้ย มีครั้งแรกก็ต้องมี 2 3 4 5 เรื่อยๆ แบบเราแน่นอน