One Day Trip “NAKHONNAYOK”

ถึงแดดจะร้อนแต่เราก็พร้อมที่จะออกไปลุยกิจกรรมที่โดนใจวัยเดินทางอย่างเรา เพื่อทำให้ทุกวันหยุดสนุกคุ้มค่าแบบ 100% อยู่เสมอ ทริปนี้เราเลยขออาสาพาทุกคนไปเที่ยวแบบ One Day Trip แต่ไม่จิ๊บๆ แนววันเดย์ เพราะเราจะไปเดินป่าล่าความสนุกจากท้องเขื่อน เคลื่อนตัวพายคายัก แล้วขึ้นมาพักก่อนไปต่อแบบไม่มีท้อในสนาม ATV พร้อมจบวันดีๆ ด้วยวิว 360 องศา กันที่จังหวัดนครนายก เมืองเล็กๆ ใกล้กรุงที่เดินทางง่ายแต่หลากหลายด้วยกิจกรรม บอกเลยว่านครนายกรอบนี้จะดีต่อใจ ท้าทายความร้อนแบบไม่แคร์ดวงอาทิตย์ด้วย 100PLUS เครื่องดื่มสุดฮิตของสายออกกำลังกาย เพราะตอบโจทย์ทั้งความอร่อย ซ่า สดชื่น ที่ช่วยฟื้นคืนทุกความเหนื่อยล้าให้กลับมาสดใส สดชื่น เพราะให้ประโยชน์กับร่างกายแบบเต็มๆ แถมน้ำตาลน้อยแต่อร่อยหนัก งานนี้จึงพร้อมลุยสู้แดด ให้ได้ไปต่อกับทุกกิจกรรม เอาล่ะเตรียมตัว Warm up กันให้พร้อมแล้วออกเดินทางไปมันส์กับ 4 Activities จาก 4 Locations พร้อมกันได้เลย

01 :: เขื่อนขุนด่านปราการชลฯ

เสียงประตูรถบานสุดท้ายที่ถูกปิดคือเสียงสัญญาณของการเริ่มต้นทริปนครนายกของพวกเราที่ดังขึ้น พวกเราใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางแรกของพวกเรานั่นก็คือ เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในโลก ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งและป้องกันการเกิดน้ำท่วมบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้านในช่วงฤดูฝน ก่อนจะกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดในทุกฤดูกาล และเมื่อมาถึงเขื่อนแห่งนี้สิ่งแรกที่พวกเรา ต้องทำคือการไปติดต่อเช่าเรือเที่ยวภายในเขื่อนซึ่งจะมีบูทเช่าเรืออยู่ไม่ไกลจากจุดจอดรถนั่นแหละ สนนราคาค่าเช่าเรือจะอยู่ที่ลำละ 1,500 บาท งานนี้ถ้ามาหลายคนก็ยิ่งคุ้ม  ออ ก่อนกระโดดลงเรือก็อย่าลืมเตรียมน้ำ อาหาร และขนมพอกรุบกริบไว้เป็นเสบียงระหว่างแล่นเรือกันเพลินๆ ด้วยล่ะ

แน่นอนว่าร้อนขนาดนี้งานน้ำอัดลมต้องมาแล้วล่ะ ยิ่งเย็น ยิ่งซ่า ยิ่งดีต่อใจ อ่ะๆ อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องน้ำตาลอันมหาศาลในน้ำอัดลม เพราะ 100PLUS เค้าพลิกโฉมน้ำอัดลมแบบเก่าๆ ที่ทำลายทุกสุขภาพให้กลายเป็นน้ำอัดลมเพื่อสุขภาพเป็นครั้งแรก พร้อมเครื่องหมายการันตีเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ที่นอกจากจะสดชื่นมากกว่าเคยแล้ว ยังมาพร้อมคุณค่าจากแร่ธาตุและเกลือแร่ที่มีประโยชน์แบบเต็มขวด จัดเต็มทั้งโซเดียมและโพแทสเซียม แต่น้ำตาลน้อย แคลอรี่ต่ำเพียง 50 กิโลแคลอรี่ต่อหน่วยบริโภค ให้ทุกกิจกรรมไปต่อได้แบบไม่มีสะดุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดแอคทีฟของคนรุ่นใหม่ที่ห่วงใยสุขภาพ ไม่ว่าจะออกไปเดินเล่นแบบฟินส์ๆ ที่เจเจ โดนเทจนเซไปหาทะเลที่ภาคใต้ สายนักวิ่งร้อยแรงม้าในทุกอีเว้นท์ หรือสายเที่ยวไปกินไปถ่ายรูปไปแบบเรา เจ้า 100PLUS ก็เป็นตัวช่วยที่เหมาะเจาะในวันที่อากาศร้อนและร่างกายสูญเสียน้ำและแร่ธาตุในระหว่างกิจกรรมได้อย่างดี ทีนี้งานหน้าถ้าจะไปไหนแต่อดใจไม่ไหวกับน้ำอัดลมก็อย่าลืมเลือกน้ำอัดลมเพื่อสุขภาพแบบ 100PLUS ติดตัวไปด้วยล่ะ

เสบียงพร้อม กายพร้อม เรือพร้อม ก็เริ่มได้เลย .. ภายในเขื่อนขุนด่านปราการชลแห่งนี้ โดยปกติจะมีน้ำตกให้เรานั่งเรือไปเดินชมได้ถึงสามแห่งเลยทีเดียว แต่ในช่วงฤดูร้อนที่น้ำลดแบบนี้เราจะสามารถไปได้เพียงจุดเดียวนั่นคือ น้ำตกช่องลม ที่เป็นไฮไลท์หลักของเขื่อนแห่งนี้ได้เท่านั้น ซึ่งสำหรับเราก็ถือว่าคุ้มมากแล้วล่ะ หลังจากเรือจอดและนัดแนะเวลากับคุณลุงคนขับเรือเรียบร้อย พวกเราก็รีบกระโจนออกจากเรือและก้าวลงสู่พื้นหญ้านุ่มๆ ที่กว้างแบบสุดสายตา จนเกือบจะเผลอนึกไปว่าเรากำลังเดินอยู่ในต่างประเทศ แต่แสงแดดอันแรงกล้าและความร้อนแบบถึงพริกถึงขิงก็ช่วยให้เราตื่นจากจินตนาการได้เร็วขึ้น ตลอดระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรจากจุดจอดเรือจนถึงน้ำตกพวกเราใช้เวลาไปประมาณ 50 นาที ซึ่งไม่ได้เป็นเพราะความเดินยากหรือเส้นทางที่ลำบากใดๆ เลย อุปสรรคเดียวที่ทำให้เราใช้เวลานานขนาดนี้ก็คือ วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ทำให้ต้องหยุดถ่ายรูปแทบตลอดทางต่างหาก

ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็เหมือนกับว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่โลกอีกใบในทุกๆ ย่างก้าว ตั้งแต่ไปจนกลับ และแม้จะมีสายลมอ่อนอ่อนพัดตลอดเส้นทางแต่แดดที่จัดจ้านก็ทำให้เราเหงื่อออก จนเหมือนกับกับน้ำตกเคลื่อนที่อยู่เหมือนกัน แต่ถึงจะเสียเหงื่อขนาดไหน เมื่อเห็นจุดหมายแล้วไม่มีคำว่าเสียใจแน่นอน เพราะมันสวยคุ้มเกินค่าความเหนื่อยไปหลายเท่าตัว แล้วจุดหมายแรกของเราในวันนี้จึงจบลงแบบเบาๆ

02 :: ATV

วอร์มอัพกันไปแบบเบาๆ เราก็มาเริ่มต้นความสนุกแบบจริงจังกันต่อที่ ATV กับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่เต็มขั้นมากขึ้น และมีให้เลือกหลากหลายบนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ ไม่ว่าจะเป็นล่องแก่ง เพ้นท์บอล ปีนผาจำลอง ขับรถโกคาร์ต และขี่ ATV โดยทุกกิจกรรมของที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี จึงปลอดภัยหายห่วง หวยจึงมาออกที่รถ ATV ที่มีให้เช่าในราคาคันละ 500 – 700 บาท ตามแต่เส้นทางที่เราเลือก

ส่วนใครที่ขับรถไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะสามารถขับได้ทั้งมือเก่ามือใหม่ เพราะที่ต้องทำมีเพียงสตาร์ทรถแล้วบิดไปข้างหน้า ตะลุยทางแห้ง ทางน้ำ ลุยฟ้า ฝ่าฝุ่น เลาะป่า ฝ่าลำธาร ลุยบ่อโคลนกันตลบอบอวลตลอดระยะเวลาไปกลับ 8 กิโลเมตร กว่า 40 นาที งานนี้รับประกันความมันเกินพิกัดได้ทั้งเหงื่อและเสียงเฮตลอดเส้นทางแน่นอน เด็กเล่นได้ผู้ใหญ่เล่นดีสนุกขนาดนี้คราวหน้าหากมานครนายกห้ามพลาดเลยนะทุกคน

เตือนกันอีกสักนิดไม่ว่าจะฟิตขนาดไหน เพราะแสงแดดที่ร้อนเร่าเหมือนแทบจะเผาเอาโลกให้เป็นผง จะไปไหนทำกิจกรรมอะไรจำไว้ต้องพกน้ำติดตัวไว้จิบตลอดเวลา ยิ่งตอนทำกิจกรรมกลางแจ้งยิ่งต้องพกแล้วอย่าลืมหาจังหวะยก 100PLUS เข้าปากบ่อยๆ ด้วยล่ะ เพราะต่อให้เหนื่อยขนาดไหนแค่บิดฝาแล้วยกดื่มก็ฟินส์ทันที

03 :: อ่างเก็บน้ำวังบอน

ฝ่าดงพงไพรจนท้องชักจะร้องหิว พวกเราเลยพักหาอะไรใส่ท้องเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายก่อนไปต่อกิจกรรมยามบ่ายกันที่ อ่างเก็บน้ำวังบอน อ่างเก็บน้ำในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ช่วงรอยต่อระหว่างจังหวัดปราจีนบุรีที่สามารถมาพายเรือคายัค มาปิกนิกพักผ่อนหย่อนใจ หรือมากางเต็นแคมปิ้งค้างคืนกันแบบสบายๆ ได้อีกด้วย อิ่มท้องแล้วเราก็ขอย่อยอาหารด้วยการนั่งเล่น นอนเล่น เล่าเรื่องราวในชีวิตของแต่ละคนพอครื้นเครง จนแดดเริ่มร่ม ลมเริ่มพัดปลิวไสว ก็เป็นฤกษ์งามยามดีที่จะทำกิจกรรมเบาๆ ต่อไปนั่นก็คือการพายเรือคายัคในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้

ค่าเช่าเรือคายัคของที่นี่จะอยู่ที่ 50 บาทต่อชั่วโมง พร้อมเสื้อชูชีพ บอกเลยว่าชิวมาก ชิวสุดๆ ใครที่อยากหาอะไรทำแบบชิวๆ แต่ก็ไม่อยากแค่นั่งๆ นอนๆ เราแนะนำให้มาพายเรือในอ่างเก็บน้ำช่วงยามเย็นแบบนี้นี่แหละ เพราะสามารถพายได้แบบเรื่อยๆเปื่อยๆ พายไปพักไป ลอยตามน้ำไป ชี้นกชมไม้ ชมฟ้า ชมตัวเองได้แบบไม่มีเบื่อจริงๆ ลองนึกภาพสายลมเอื่อยที่พัดมาเรื่อยๆ พร้อมเสียงพูดคุยเฮฮาสนุกสนานของกลุ่มเพื่อนสนิท ทุกคนไม่สนใจเวลา ไม่สนใจโทรศัพท์มือถือ สนใจแต่เพียงภาพตรงหน้าและคนที่อยู่ด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่เกินคุ้มจริงๆ ที่จะเอาตัวเองมาอยู่ตรงนี้

04 :: เขาหล่นผจญภัย

ก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าเราก็พาตัวเองมายังโลเคชั่นสุดท้ายของวันที่ เขาหล่นผจญภัย ศูนย์กิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ที่มีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ ไม่ว่าจะเป็นปีนผา ขับเอทีวี ปั่นจักรยาน หรือแม้แต่เดินเล่นได้ทุกเวลาบนทางที่จัดไว้ให้ บนสะพานไม้ที่ลัดเลาะผ่านแนวเขา และทุ่งหญ้าที่จะมีสีสันเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แน่นอนว่ากิจกรรมที่เราเลือกคือการเดินเล่นจ้อกกิ้งผ่านแนวเขานี่ล่ะ เพราะเราอยากจะใช้เวลาชื่นชมธรรมชาติในช่วงยามเย็นแบบสบายๆ และหามุมถ่ายรูปแบบเก๋ๆ ไว้ลงโซเชียลเล่าเรื่องการเดินทางในครั้งนี้ ด้วยสภาพของพื้นที่โดยรอบที่เป็นป่าและภูเขาทำให้แต่ละช่วงมีวิวที่สวยงามแตกต่างกันไป บ้างก็เป็นต้นไม้เขียวชอุ่ม บางก็เป็นทุ่งหญ้าสีทองสลับกับหินก้อนใหญ่เหมาะแก่การไปยืนทำเท่ แอคท่าเก๋ๆ หรือแอคติ้งทำเหมือนเดินชมวิวแบบเผลอๆ กับเพื่อนคู่หูก็ดูลุยๆ ชิคๆ ก็ได้เหมือนกัน

ถึงทางเดินจะไกล แต่ก็ไม่ต้องหวั่นไปเพราะหากมัวแต่ถ่ายรูปจนเริ่มเหนื่อยหรือเมื่อยขาตึงแขนจากกิจกรรมที่ทำมาทั้งวัน ที่นี่เค้าก็มีมุมเก้าอี้ไม้ไผ่ที่จัดไว้ให้นั่งอย่างดิบดี แถมยังเป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปที่สวยไม่น้อยไปกว่ามุมไหน เหมาะทั้งกับการมานั่งจริง นั่งเล่น นั่งถ่ายรูป นั่งดื่ม 100PLUS ดับกระหาย มีแรงเมื่อไหร่แล้วค่อยไปต่อ

จุดสุดท้ายเราบอกได้เลยว่าใครแรงยังเหลือควรไปต่อให้สุดสะพาน เพราะเขาจะมีจุดชมวิวแบบ 360 องศา ให้แกได้เห็นเมืองนครนายกแบบเต็มตาไปจนเส้นขอบฟ้าที่อยู่ไกลๆ พร้อมกับดวงอาทิตย์ที่กำลังจะร่ำลาเราไปพร้อมกับแสงสีส้มอ่อนๆ เป็นกิจกรรมปิดท้ายวันที่อยากจะขอต่อเวลาไปเรื่อยๆ เลยล่ะ

และหนึ่งวันของเราก็จบลงแบบคุ้มค่า ครบรส ทั้งความสุข ความสนุก ความชิว ความตื่นเต้น เราเชื่อว่าคนเรามีเวลามากพอแน่นอนสำหรับการใช้ชีวิต มันอยู่ที่ว่าเราทุ่มเทกับมันมากพอรึเปล่า เราเลือกที่จะทำมันหรือเก็บไว้เป็นความฝัน เลือกที่จะไปต่อหรือหยุดอยู่แค่นั้น เลือกอะไรที่ดีกว่าหรืออะไรที่เดิมๆ ชีวิตมีทางเลือกเสมอ แม้แต่น้ำอัดลมที่เคยเป็นเครื่อมดื่มที่ทำให้เสียสุขภาพก็ยังมี 100PLUS เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีน้ำตาลน้อย แคลอรี่ต่ำ แถมมีแร่ธาตุและเกลือแร่ให้เรามีแรงไปต่อในทุกกิจกรรมที่เราเลือก เลือกน้ำอัดลมเพื่อสุขภาพเลือก 100PLUS เลือกวันหยุดครั้งหน้า แกต้องเลือกแล้วล่ะว่าอยากจะซ่าได้สุขภาพ และซ่าสดชื่นทุกกิจกรรม #เพราะชีวิตยังต้องไปต่อ หรืออยู่เฉยๆ เพื่อฝันกลางวัน