ณ ซัมเมอร์ที่อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครั้นจะปล่อยให้ชีวิตทนร้อนนอนเหงื่อไหลไคลย้อยอยู่บ้านก็คงไม่งามเท่าไหร่ และยิ่งใกล้ช่วงสงกรานต์แบบนี้ยิ่งควรหาทริปดี๊ด๊าออกไปเมินหน้าเชิด 45 องศาให้กับแดด ชวนก๊วนเพื่อนไปซอกแซกหาความชิลมาดับร้อนกันที่เมืองฮิตริมทะเลชายฝั่งภาคตะวันออกของประเทศอย่างจังหวัด “ระยอง” มาจ้ามาดูให้เห็นกันเต็มตาไปเลยว่าระยองรอบนี้ จะมีสถานที่น่าตามไปเช็กอินสุดคูลที่จะทำให้ร้องอู้หู้ววได้มากขนาดไหน บอกเลยว่าทริปนี้โดนใจสายชิค สายชิล สายแชะ สายโซเชียล และสายธรรมชาติอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าจะสายไหนนอกจากเช็กความพร้อมของตัวเองแล้ว เพื่อความมั่นใจอย่าลืมเช็กความพร้อมของรถคู่ใจในทริปด้วยล่ะ และในช่วงเทศกาลแห่งความสุขแบบนี้ Honda ใจดี จุดกิจกรรม Check Up Promotion Campaign ที่จะให้บริการตรวจเช็กสภาพรถเราฟรีถึง 25 จุดทั่วไทย พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจพิเศษมากมายไว้ต้อนรับช่วงหน้าร้อนนี้อีกด้วยจ้าทุกคน
รถพร้อม คนพร้อม ใจก็พร้อมเว่อร์ๆ ออกไปใช้วันหยุดเที่ยวจังหวัดระยองฉลองสงกรานต์สุดฮาเฮนี้กันเถอะ!!!!!
สำหรับใครที่ขับรถยนต์ Honda อยู่นั้น ยืนยิ้มแบบอุ่นใจได้เลยเพราะช่วงนี้เค้ามีบริการตรวจสภาพรถยนต์ถึง 25 รายการกับกิจกรรม “สงกรานต์อุ่นใจ ขับขี่ปลอดภัยกับฮอนด้า” ซึ่งสามารถแวะตรวจสภาพรถได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายนเลยจ้า และนอกจากตรวจเช็กสภาพรถฟรีแล้ว ยังมีโปรโมชันอื่นๆ ที่ร่วมกิจกรรมน่าสนใจอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจเช็กระยะฮอนด้าเพย์เซฟที่ได้ส่วนลดถึง 20% หรือจะเป็นส่วนลดยางรถยนต์มูลค่าสูงสุดถึง 800 บาท แถมยังผ่อนชำระค่าใช้จ่ายงานบริการ 0% นาน 4 เดือน หรือ 0% นาน 6 เดือน ได้อีกด้วย คุ้มค่าแบบนี้ว่าแล้วก็เลี้ยวรถเข้าศูนย์บริการฮอนด้าใกล้บ้าน ไปตรวจสภาพรถก่อนออกทริปซะหน่อยล่ะกัน ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ http://bit.ly/2YYCYgJ เลยนะแก
พอเลี้ยวรถเข้ามาที่ศูนย์บริการฮอนด้าเรียบร้อย ก็จะมีพนักงานมายืนยิ้มต้อนรับ จากนั้นก็อธิบายรายละเอียดต่างๆ ที่จะได้รับการตรวจสภาพครั้งนี้ให้เราฟัง ซึ่งพอฟังจบก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่างไป ส่วนเราก็แค่เดินสวยๆ มานั่งตากแอร์ จิบเครื่องดื่มเย็นชิลๆ รอไป สักพักพนักงานคนดีคนเดิมก็กลับมาแจ้งว่ารถพร้อมแล้ว ตรวจเช็กทุกอย่างอย่างดีละเอียดยิบ สามารถเอาไปขับบนท้องถนนได้อย่างปลอดภัยหายห่วงเลยจ้า บอกเลยว่า Honda เค้าใส่ใจเรื่องการตรวจเช็กดูแล และให้คำแนะนำดีมาก รู้สึกเลยว่าเราเป็นคนสำคัญของเค้าจริงๆ อะแก
01 : ถนนยมจินดา
หลังจากขับออกจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึงจุดหมายแรกที่มาระยองสิบครั้งแวะสิบครั้งนั่นก็คือ ถนนยมจินดา ถนนสายเก่าแก่ของเมืองระยองที่ทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำระยอง ซึ่งเมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นแหล่งการค้าที่สำคัญของจังหวัด ใครไปใครมาก็ต้องแวะมาจับจ่ายใช้สอยของใช้ที่นี่เป็นประจำ แต่ในปัจจุบันอาจไม่ได้มีร้านค้าคึกคักเหมือนแต่ก่อน แต่ก็กลายเป็นเรื่องเล่าของวันวานที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาคารบ้านไม้เก่าๆ ที่หาดูได้ยาก บอกเลยว่าใครชอบความคลาสสิกต้องประทับใจที่นี่แฮปปี้แน่นอน
ภายในถนนยมจินดานอกจากจะมีบ้านเรือนเก่าที่อนุรักษ์ไว้ให้พวกเราดูแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์เมืองระยองที่แสดงความเป็นมาของจังหวัดระยอง มีรูปถ่ายเก่าๆ ข้าวของเก่าๆ ที่น่าหลงใหลให้เราแวะเข้าไปชมอีกด้วยจ้า และใครที่เดินชมความเก่าแสนเก๋จนเหนื่อยก็ยังสามารถเลี้ยวเข้าร้านหาเครื่องดื่มเย็นๆ จิบคลายร้อนได้ตลอดทั้งถนน มีร้านค้าเปิดให้บริการอยู่หลายเจ้า อย่างร้านเด่นร้านดังอย่างราย็อง ก็มีเมนูให้เราเลือกไปดับร้อนหลากหลาย แต่ถ้าใครชอบครึกครื้นเดินไปชิมไปช้อปไป แนะนำให้มาเสาร์อาทิตย์เลยจ้า มีถนนคนเดินตั้งแต่เวลาหกโมงเย็นถึงสี่ทุ่ม แต่ถ้าชอบเงียบๆ มาดูวิถีชีวิตแบบเราให้มาวันธรรมดานะ
02 :: ปาฎี
เดินชมความเก่าสุดเก๋ของถนนยมจินดาไปแล้ว เราก็ขับรถไปต่อกับคาเฟ่ลึกลับสุดน่ารักที่เหมือนพาเราหลุดเข้าไปอยู่โลกของนิยาย ปาฎี เป็นร้านคาเฟ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านโมเดิร์นซิตี้แห่งเมืองระยองกัน เป็นร้านที่เรา recommended มากๆ สำหรับสาวสายหวานที่หลงรักสไตล์วินเทจ เพราะแค่ก้าวเข้ามาในบริเวณสวนของร้านก็ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายไปกับเสียงเพลง และอบอุ่นไปกับบรรยากาศสไตล์ English Cottage ที่มีการออกแบบดีไซน์เฉพาะตัว เน้นโทนสีขาวที่ให้ความรู้สึกนวลตา บวกกับต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ และดอกไม้หลากสียิ่งทำให้บรรยากาศมันดี๊ดีเกินที่จะบรรยายด้วยคำพูดจริงๆ นะแก
มุมต่างๆ ภายในร้านได้ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว ทั้งมุมชิงช้า มุมบ้านไม้ หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านต่างๆ รวมไปถึงการตกแต่งสวน เรียกได้ว่าส่วนใหญ่เป็นงานแฮนด์เมดแนววินเทจที่น่ารักเก๋ไก๋มากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าที่นี่จะมีคู่รักจับมือกันมาถ่ายพรีเวดดิ้งตลอด นอกเหนือจากความสวยงามของสถานที่แล้วร้านปาฎียังมีการขายสินค้าแฮนด์เมดกระจุกกระจิกน่ารักเหมาะกับสาวๆ ช่างฝันด้วยจ้า
หมุนตัว 185 องศา พร้อมรัวชัตเตอร์แบบไม่ยั้งไปแล้ว ก็ได้เวลาเดินสวยๆ เลิศๆ ไปสั่งขนมนมเนยมาทาน ซึ่งเมนูของร้านนี้จะเน้นเป็นขนมโฮมเมดทำด้วยใจ เหมาะกับสายเฮลตี้ที่ชอบทานเครื่องดื่มจากน้ำผลไม้นานาชนิด ตกแต่งด้วยดอกไม้ปลอดสารพิษจากในสวน เสิร์ฟมาพร้อมตะกร้าสานคงคอนเซ็ปความวินเทจไว้อย่างลงตัว มาที่นี่รับรองได้ว่าแกจะต้องกลับไปพร้อมรอยยิ้มแน่นอน
03 :: เขาแหลมหญ้า
ตกหลุมรักร้านปาฎีแบบปาใจให้รัวๆ ไปแล้ว ยามเย็นแดดเริ่มร่มลมเริ่มพัดเรามาเช็คอินกันต่อที่ เขาแหลมหญ้า สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีบ้านสีขาวและมีแบ๊กกราวด์เป็นวิวทะเล มองเห็นเกาะเสม็ดอยู่ไกลๆ ที่นี่เป็นภูเขาเตี้ยๆ ที่ถูกปกคลุมด้วยป่าละเมาะ บางเดือนก็จะมีทุ่งหญ้าสีทองขึ้นมาให้ถ่ายรูปเล่น เราเชื่อว่าหลายคนคงเคยมาเที่ยวที่นี่กันบ้างแล้ว แต่น่าจะมีบางคนที่ยังไม่เคยเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติและความงามของแสงสุดท้ายที่หน้าผาหิน ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนเดินไปนั่งปล่อยใจให้เซกับทะเลแล้วเอนตัวดูพระอาทิตย์ตกดินไปพร้อมกัน ไปจ้าาาา!!!
พอถึงที่หมาย จ่ายค่าเข้าชมตามอัตราค่าบริการของอุทยานเรียบร้อย ให้ขับรถไปจนสุดทางจะเจอลานจอดรถที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างดี หลังจากนั้นก็เริ่มเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติริมฝั่งกัน ตลอดทางเราก็จะได้เห็นทั้งป่าไม้ ภูเขา และทะเล ระบบนิเวศริมฝั่งและตามโขดหิน ทางเดินล่าสุดที่เราไปคือดี มีสะพานไม้ให้ข้ามไม่ต้องปีนป่ายให้เหนื่อยใจ แถมเดินไม่ไกลก็มาถึงจุดชมพระอาทิตย์ตกที่เขาเรียกกันว่าแหลมพรหมเทพสองกันแล้วว หากยืนบนเนินหินก็จะเห็นวิวทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาตัดกับเส้นขอบฟ้า เฮ้ยแก!!! มันสวยมาก ฟันธงเลยว่าถ้าได้มาแกต้องฟินไม่ผิดหวังแน่นอน
ข้อแนะนำสำหรับคนที่อยากมาชมพระอาทิตย์ตก คือแกควรพกไฟฉายนำทางมาด้วยเผื่อตอนกลับมืดมากจะได้มีไฟไว้คอยส่องทางเดิน นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีลานกางเต็นท์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการอยากใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยมีจุดกางเต้นท์ให้กางหลายจุดเป็นสัดส่วน พร้อมห้องน้ำที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศมานอนฟังเสียงคลื่นกระทบหาดก็สามารถเข้าไปจองเต็นท์ล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ของอุทยานเลยจ้า
04 :: Whitebeam Cafe & Co-working space
เช้าวันที่สองของทริป พอเช็คเอาท์ออกจากที่พัก เราก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังโลเคชั่นที่จะทำให้สายคาเฟ่ทั้งหลายต้องหลงรัก Whitebeam café& Co-working space เป็นคาเฟ่ที่แค่เห็นแว๊บแรกก็เหมือนหลุดออกมาจาก Pinterest ยังไงยังงั้นเลยแก ร้านออกแบบสไตล์มินิมอลคุมโทนด้วยสีขาวให้ความรู้สึกสบายตา เพิ่มความอบอุ่นด้วยโทนสีไม้จากเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในมี 2 ชั้น มีหลายมุมให้เลือกนั่ง ชั้นบนเป็น Co-working Space ที่เหมาะกับการมาชิลทำงาน ทานขนม จิบกาแฟ เม้ามอยหอยสังข์เป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญร้านเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ถ้าแกได้มาเช็กอินถ่ายรูปอัพลงโซเชียลก่อนใครละก็รับรองว่ายอดไลก์ต้องถล่มทลายแน่นอน
นอกจากร้านคุมโทนดีงามแล้ว ในส่วนของเมนูก็เลิศไม่แพ้กันจ้า มีทั้งอาหารคาวหวาน เครื่องดื่ม กาแฟ เบเกอรี่ไว้ให้เลือกทานหลากหลายมาก เมนูเด่นๆ ก็จะมี Coconut Espresso ที่เป็นการรวมกันระหว่างกาแฟ Espresso เข้มข้นใช้เมล็ดจากปางขอน จังหวัดเชียงราย มีความหอมละมุนพอดี ผสานด้วยความหวานของมะพร้าวน้ำหอมพร้อมเนื้อมะพร้าวนุ่มๆ กรุบๆ เป็นแก้วที่ให้ทั้งพลังงานและความสดชื่นไปพร้อมๆ กันเลยละแก ถ้าใครไม่ถนัดสายกาแฟก็มีเครื่องดื่มอื่นๆ ให้เลือกอีกเยอะมาก ทุกเมนูที่เราลองคือการันตีเลยว่าดีจริงๆ แถมราคาก็ยังสบายกระเป๋า จะสั่งหลายแก้วมาถ่ายรูปก็ไม่รู้สึกผิด
05 :: หาดแสงจันทร์
ถ้ามาระยองแต่ไม่ไปทะเลก็คงจะเหมือนมาไม่ถึง โลเคชั่นต่อไปเราเลยขอปักหมุดแล้วขับ Honda มุ่งหน้าไปต่อไม่รอแล้วนะ .. ไปกันที่ หาดแสงจันทร์ อีกหนึ่งหาดของจังหวัดที่สวยงามไม่แพ้หาดดังอย่างหาดแม่รำพึงเลย ชายหาดที่นี่จะค่อนข้างเงียบสงบผู้คนไม่พลุกพล่าน เหมาะสำหรับมาพักผ่อนนั่งปิกนิกนั่งชิล และเนื่องจากคลื่นลมที่ค่อนข้างแรงจึงมีการสร้างแนวหินที่เรียกว่า เขื่อนหินทิ้ง เพื่อมากั้นและป้องกันการกัดเซาะของคลื่นลมยาวไปตลอดแนวชายฝั่ง โดยสร้างเป็นรูปโค้งเว้าเหมือนเกือกม้าสลับกับรูปตัวทียาวไปจนสุดถนน ถ้าเรามองจากมุมสูงจะเห็นถึงความแปลกตาและสวยงามแนวหาดนี้ ใครสายชิล ชอบขับรถชมวิวก็สามารถขับรถลัดเลาะเลียบชายหาดแสงจันทร์นี้ได้เลย หรือจะจอดแวะพักรถแล้วมาเดินเล่นอวดชุดพลิ้วๆ ริมหาด ถ่ายรูปแบบปังๆ สักสี่ห้าแอ๊ค แล้วนั่งโหลดรูปคิดแคปชั่นเก๋ๆ อย่าง I Sea You, You Sea Me ไว้ลงโซเชียลก็ดีงามมไม่แพ้กันจ้า
ความดีงามที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือทริปนี้เราเดินทางกับ New Honda HR-V รุ่นEL ที่ภายในกว้างขวางสะดวกสบายมาก มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน มาพร้อมเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่สามารถปรับพับได้ถึง 3 รูปแบบทั้ง Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode เพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากขึ้นไม่ว่าจะวางแนวนอน แนวยาวหรือของสูงๆ ก็ใส่ได้หมด จะใส่จักรยานไว้มาปั่นริมทะเลยังได้เลยแก แถมยังมีตัวช่วยที่ทำให้เราขับง่ายสบายขึ้นและคำนึงถึงความปลอดภัยสุด อย่างระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Honda LaneWatch ที่ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้าง โดยใช้กล้องจับภาพ และแสดงผลผ่านหน้าจอให้เราเห็น ไม่ต้องมาคอยนั่งชะโงกตัวเอี้ยวซ้ายทีขวาทีอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ CTBA เพื่อช่วยป้องกันและลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุได้ด้วย บอกแล้วดีในดีเป็นอีกทริปที่มั่นใจตลอดการเดินทางจ้า
ต่อ ต่อ .. ยามเย็นถึงค่ำบริเวณหน้าหาดแสงจันทร์จะคึกคักเต็มไปด้วยร้านอาหารทะเล ที่ตั้งเรียงรายยาวไปตลอดสองข้างทาง มีให้เลือกทั้งแบบนั่งทานปูเสื่อพร้อมโต๊ะญี่ปุ่นและร่มผ้าใบในราคาไม่แพง หรือจะนำเสื่อมาเองแล้วสั่งอาหารจากร้านหน้าหาดมาทานก็ย่อมได้ อาหารส่วนใหญ่ที่ขายจะเป็นประเภทอาหารทะเล จิ้มจุ่ม ปลาเผา อาหารอีสานแซ่บนัว บอกเลยว่าเป็นการนั่งทานอาหารริมทะเลที่เย็นสบายมากๆ
06 :: จุดชมวิวเมืองระยองเขาโบสถ์
แน่นอนว่าทุกทริปเราต้องมีเที่ยวเอาใจสายกรีนอย่างน้อยสักหนึ่งที่ และจังหวัดระยองตอนนี้นางก็มีจุดชมวิวที่เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่จ้า จุดชมวิวเมืองระยองเขาโบสถ์ ตั้งอยู่บนยอดเขาโบสถ์ อำเภอเมืองระยอง โดยก่อสร้างเป็นสะพานแขวนสีเขียว ขึงด้วยลวดสลิง ตัวพื้นเป็นพื้นไม้กลมกลืนกับธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถมองเห็นวิวภูเขาตัดกับขอบท้องฟ้าและเหล่าต้นไม้สีเขียวในบรรยากาศลมเย็นสบายตลอดวัน ยอมรับว่าจุดนี้ถ้าใครมีอาการกลัวความสูง อาจจะขาสั่นได้เล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ก็มีรั้วรอบขอบกั้นให้เราเดินชมวิวอย่างปลอดภัยหายห่วงจ้า การเดินทางมาจุดชมวิวนี้ง่ายมากแค่เซิร์ช Google Map ว่าเขาโบสถ์เท่านั้น แล้วก็ขับตามทางมาได้เลย ที่สำคัญรถจอดถึงที่นะแก ไม่ต้องกลัวว่าต้องไต่เขาขึ้นมาเหมือนจุดชมวิวอื่นๆ นับว่าเป็นอีกจุดที่น่าสนใจที่จะทำให้เรามีความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ไม่น้อยเลยละ
จบแล้วอย่าง Happy ending สำหรับทริประยองฉลองสงกรานต์ที่ครองใจเราไปในทันที ถือว่าเป็นอีกทริปที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ถึงแม้จะไม่ได้ไปที่ไกลๆ เหมือนทริปอื่น แต่เราก็ได้ออกเดินทางไปทำความรู้จักกับจังหวัดระยองในสถานที่ต่างๆ ที่ต่างจากเดิม ได้นั่งเล่น ได้เดินชิล ได้หยิบกล้องออกเก็บภาพความประทับใจกลับไป และสำหรับใครที่มีแพลนเดินทางในช่วงตลอดเดือนนี้อย่าลืมไป Check-Up ตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ เชื่อเราเถอะ เช็กไว้ก่อนเพื่อความชัวร์และมั่นใจ ยังไงทุกการเดินทางความปลอดภัยก็ต้องมาเป็นอันดับแรกนะจ๊ะทุกคน
