เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เผลอแปบเดียวก็ผ่านครึ่งปีไปแบบแทบไม่รู้สึกตัว แถมยังรู้สึกเหมือนเพิ่งจะเขียนแพลนเที่ยว แพลนชีวิตของปีนี้ไปเมื่อไม่กี่วัน แต่ก็ยังไม่ทันได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ยกเว้นทำแต่งาน งาน งาน จนหน้าดำคร่ำเคร่ง ชีวิตเซ็งผิวคล้ำ หน้าหมองมาครึ่งปี แต่มันก็ยังไม่สายที่จะหาความสดชื่น สดใสมาใส่ปุ๋ยให้ชีวิตมันฟรุ้งฟริ้งใสวิ้งกว่าเก่า ราวกับเพิ่งเริ่มปีใหม่ไปเมื่อวันก่อน
เอาล่ะอาศัยวันลาที่เหลือแบบกระท่อนกระแท่น หรือบางคนก็อาจจะเหลือบานตะไทเพราะไม่มีโอกาสจะได้ใช้ หนีลงใต้ไปสะบัดผ้าท้าแดดแล้วใส่บิกินี่วิ่งลงทะเลจนปะการังและปลาการ์ตูนต้องตาค้าง แต่อย่าลืมปกป้องดูแลผิวกายรีชาร์จตัวเองให้สวยสดงดงามทั้งกายและใจ สลัดให้หลุดจากคราบสาวที่ตึงเครียดจนส่งผลให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ เหี่ยว ย่น เต็มไปด้วยริ้วรอย ซึ่งเป็นฝันร้ายของสาวๆ ทุกคนแน่นอน แต่เราจะปฎิวัติซะใหม่เปลี่ยนผิวเสียเป็นผิวสวยอารมณ์ดีด้วยเคล็ดลับง่ายๆ แต่ได้ผลชะงัดนัก ส่วนจะเป็นที่ไหน จะมีเทคนิคอย่างไรขอความกรุณากดเลื่อนลงไปสองวิก็เฉลยละนะแก
และแล้วหวยก็มาออกที่ “พังงา” หนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ที่เรายังไม่เคยไปสัมผัส และที่สำคัญที่สุดพังงายังเป็นจังหวัดที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความสวยงามของท้องทะเลที่เต็มไปด้วยหมู่เกาะมากมาย ไหนจะหมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ รวมถึงเกาะน้อยใหญ่ที่เรียงรายอยู่ท่ามกลางท้องทะเลอันดามัน ซึ่งนอกจากความอุดสมบูรณ์ทางทะเลแล้วพังงายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายจุดด้วยกัน ทั้งน้ำตก ภูเขา ถ้ำ ย่านมืองเก่าชิคๆ ร้านกาแฟคูลๆ ที่ผสานเข้ากับความสงบ เรียบง่าย และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ได้อย่างลงตัว จะสมกับที่ได้รับการกล่าวขานว่าสวรรค์เมืองใต้ขนาดไหนต้องตามเราไปพิสูจน์
ขึ้นชื่อเรื่องท้องทะเลขนาดนี้ถ้าไม่ถอดผ้า แล้วใส่บิกินี่ก็จะเป็นการเสียมารยาทกับสถานที่มากเกินไปสินะ งานนี้เราเลยจัดเต็มทั้งชุดว่ายน้ำ หมวก พร้อบต่างๆ รวมถึงเสื้อผ้า หน้า ผม และผิว!!! เออเดะแก แกจะลงน้ำให้ปะการังตะลึงแล้วจะโผล่ขึ้นมาเป็นสาหร่ายเกยตื้น ผิวแห้ง กรอบ พัง และด่างไม่ด๊ายยยยยย ไม่งั้นคนตะลึงจะเป็นแกเองแน่นอน จำให้ขึ้นใจว่าต้องสวยทั้งก่อนและหลังลงน้ำ โอเคร๊ ดังนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับทุกทริปคือผลิตภัณฑ์ดูแลผิว M&C แบบยกเซต เหมาหมดยกลัง เพราะนอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันผิวจากแสงแดดแล้ว เราควรต้องดูแลผิวให้ชุ่มชื่นอารมณ์ดีและสีแทนสวยอย่างสุขภาพดี ซึ่งสิ่งที่เราชอบในความ M&C จนต้องพกติดกระเป๋าไปด้วยทุกทริป แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องคุณภาพของนางที่เลิศจริงไม่อิงนิยาย แถมกลิ่นหอมติดทน ทั้งยังมีส่วนผสมที่สกัดมาจากสารธรรมชาติล้วนๆ เป็นไงมงลงม้ะ มงลงงงงงงง
และความดีงามทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เกิดมาจากการที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว M&C นั้นช่างแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั่วๆ ที่ให้เพียงความชุ่มชื่น แต่ยังสามารถบำบัดผิวให้อารมณ์ดี(กว่าหน้าตา) จากสารสกัดธรรมชาติ และกลิ่นหอมระดับพรีเมี่ยมจากเมืองหลวงน้ำห
:: Day 1 ::
001 Baba Beach Club Phuket
ตีมของเราในครั้งนี้คือการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ดังนั้นเราจะท่องไว้ว่าไม่รีบ ไม่แน่น แต่เต็มอิ่มกับทุกกิจกรรม และทุกนาทีจะผ่านไปแบบมีคุณภาพ เมื่อท่องจนขึ้นใจก็ได้เวลาลากกระเป๋าเข้าเกตบินตรงจากดอนเมืองสู่ภูเก็ตในช่วงบ่ายอ่อนๆ พอเครื่องทะยานขึ้นฟ้า เราก็ปรับเบาะเอนเบาๆ เพื่อพักสายตาสักนิด ก่อนตื่นมาพร้อมกับแสงส้มอ่อนๆ ของดวงตะวันที่แทรกผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาในตัวเครื่องเพื่อเป็นสัญญาณบอกกับเราว่ากำลังจะถึงที่หมายในเวลาไม่กี่นาที หลังจากลงเครื่องรับกระเป๋ากันเสร็จเรียบร้อยพวกเราไม่รอช้า มุ่งหน้าไปทางพังงาโดยใช้เวลาเพียง 20 นาทีจากสนามบินภูเก็ตสู่โรงแรมเปิดใหม่แสนเก๋ ที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นชิโนโปตุกีส โดยศรีพันวา “ บาบาบีชคลับภูเก็ต”
ทั้งภูเก็ตและพังงาได้รับวัฒนธรรมการสร้างสถาปัตยกรรม ตึกรามบ้านช่องแบบจีน-โปรตุเกส บาบาบีชจึงหยิบเอาเอกลักษณ์อันโดดเด่นเหล่านี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโรงแรมให้มีซิกเนเจอร์โดยการใช้สี ( ชมพู-เทอควอยซ์ ) และการตกแต่งที่เล่นสายลายเส้น อันน่าดึงดูดใจ ชวนให้เราหยิบกล้องออกมาโพสท่าถ่ายรูปและกดชัตเตอร์แบบรัวๆให้ทั่วโรงแรม โดยมุมเด็ดที่พลาดไม่ได้ของโรงแรมต้องยกให้ประตูพระจันทร์ ที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ตามความเชื่อของชาวจีน และมุมภาพวาดด้านบนห้องอาหารที่ใครมาก็อดไม่ได้ที่จะเก็บภาพกลับไป
อีกหนึ่งมุมที่น่าสนใจจะอยู่ตรงด้านหน้าตรงชายหาดของโรงแรม ซึ่งจุดนี้จะเป็นดงเตยที่ทางโรงแรมดูแลไว้เป็นอย่างดี พอพระอาทิตย์ตกดินแสงอัสดงสีส้มทองจะทอดกระทบดงเตย สาดเงาลงบนพื้นทรายทำให้เกิดเป็นเงาสวยงามชวนตะลึง ซึ่งจุดนี้พีคมาก!!
อีกหนึ่งจุดที่พลาดไปจะเสียดายแย่ และถึงไม่ได้มาพักแต่ก็ควรมาแวะที่ห้องอาหารบาบาบีช เพราะเมนูพิซซ่าชีสของที่นี่เด็ดมากกกกเป็นอะไรที่ต้องห้ามพลาด โดยเคล็บลับก็มีไม่มากแค่ห้องอาหารอิมพอร์ทเชฟชาวอิตาลีที่อยู่ในวงการพิซซ่ามาเกือบตลอดชีวิตมารังสรรค์ความแซ่บให้ได้ทานก็เท่านั้นเอ๊ง ณ จุดนี้บอกเลยว่าแป้งนุ่มๆบวกกับกลิ่นหอมของชีสและความสดใหม่ของท้อปปิ้งเป็นความอร่อยติดปากจนยากจะลืมแถมราคายังเป็นมิตรอีกต่างหาก
:: Day 2 ::
เช้าวันใหม่อันสดใสซาบซ่าก็มาถึง ด้วยความตื่นเต้นและโหยหาการพักผ่อน เราจึงตื่นหลังไก่แปบนึงเพื่อเริ่มต้นวันแบบเฟรซๆ ด้วยการบำรุงผิวเบาๆ ด้วย M&C Light Blue Body Moisturizer ก่อนจะพกติดกระเป๋าออกไปตะลอนเที่ยวเมืองพังงากันทั้งวัน สำหรับตัวครีมแค่บีบออกมากลิ่นหอมของดอกไม้ผสานผลไม้อย่าง วานิลลา แบล็คเบอรี่ ดาร์คโกโก้ มัสค์ และแพทชูลี่ ก็ออกมาแตะจมูกให้สดชื่นกันแต่เช้า ซึ่งการบำรุงผิวด้วยส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติ ทั้งน้ำมันสวีตแมคคาเดเมีย น้ำมันโจโจ้บาร์ น้ำมันรำข้าว เชียร์บัตเตอร์ วิตามิน A และ C จะช่วยทำให้ผิวของเรานุ่มนวล เรียบเนียน กระชับผิวและป้องกันผิวชั้นนอกไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื่น พอบำรุงผิวเสร็จก็ตบท้ายด้วยการฉีดน้ำหอมที่มีกลิ่นผ่อนคลายเฉพาะตัวของ M&C เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ
002 ขนมจีนยายเปลี่ยน
เมื่อหอมจรุงฟุ้งกระจายด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว M&C เรียบร้อย ก็ได้เวลาทานอาหารเช้า เราเลือกร้านขนมจีนยายเปลี่ยน ร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พิจาราณาสองนาทีก็สั่ง 4 น้ำยารสเด็ด น้ำยา น้ำแกงปูม้า แกงไตปลา และแกงป่าขาไก่ ที่เสิร์ฟพร้อมผักสดและเครื่องเคียงกว่า 10 ชนิด กินพร้อมไข่ต้มอร่อยล้ำ ฟินลืม
003 ตลาดเก่าพังงา
นอกจากธรรมชาติที่เค้าว่าเด่นดังแล้วพังงายังโดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรมอีกด้วย เราจึงแวะมาที่ตลาดเก่าพังงาตะกั่วป่า แหล่งชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่งของ จ.พังงา อดีตแหล่งทำเหมืองแร่ดีบุก แร่สำคัญที่สร้างรายได้ให้กับพังงามากที่สุด ถนนในแถบนี้แม้จะป็นตลาดเก่าที่ดูมีความเจริญรุ่งเรื่องมากมายเพราะรายล้อมไปด้วยตึกราม บ้านช่อง รวมถึงวัดวาอารามและโรงเรียน โดยสถาปัตยกรรมหลักๆจะเป็นรูปแบบชิโนโปรตุกีส หรือจีนผสมโปรตุเกสอันชวนหลงใหล มองยังไงก็ไม่เบื่อ นอกจากเสน่ห์ของอาคารต่างๆและตัวเราเองแล้ว ชาวบ้านที่นี่ก็ยิ้มแย้มต้อนรับเราดีมาก ไม่ผิดจากที่เค้าบอกว่าคนใต้ใจดีเลยจริงๆ
แถมให้อีกนิดว่าวันอาทิตย์ที่นี่ยังมี walking street หรือถนนคนเดินที่เนืองแน่นไปด้วยสินค้าถิ่นและของใหม่จากชาวพังงา จะแวะชม แวะชิม หรือแวะช้อปก็ครบรสตั้งแต่สามโมงจนสองทุ่ม ยิ่งถ้ามาช่วงเทศกาลกินเจจะยิ่งว๊าวในว๊าวเพราะทุกบ้านจะพร้อมใจกันถือศีลกินเจ จุดประทัดกันสนั่นหวั่นไหวจนถนนเป็นสีแดงคล้ายพรม ยิ่งสร้างเสน่ห์ให้ที่นี่ไม่เหมือนกับที่ไหนๆมากกว่าเดิมไปอีก
004 Smo cafe’
หลังจากเดินสวยๆ ชมเมืองยิ้มแย้มและพูดคุยราวกับนางงามตอนนี้คอเริ่มแห้งผากใกล้เป็นผุยผง เราก็มาเจอกับคาเฟ่เล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในช่องว่างระหว่างตึกแถว รอเวลาเปิดอย่างเต็มตัวเร็วๆ นี้ ในย่านตลาดเก่าพังงา ด้วยความธรรมชาติแบบดิบๆ และความจริงใจของบาริสต้า ที่เชื้อเชิญให้เราเดินเข้ามานั่งจิบกาแฟหอม ๆ อ่านหนังสือเงียบ ๆ ได้แบบไม่ต้องจัดวางอะไรให้พิธีรีตรองมากมายนัก กลายเป็นมีมุมเก๋ๆ เรียบง่าย ไม่ประดิษฐ์ให้ได้เก็บรูปกลับไปอีกเพียบ
ร้านกาแฟที่ซ่อนตัวอยู่ในซอกอาคารแห่งนี้ แม้จะไม่ได้มีแอร์เย็นฉ่ำ หรือโซฟาแสนแพง แต่ความธรรมชาติ เรียบง่าย และเป็นกันเองนี้กลับเป็นเสน่ห์ดึงดูดที่มีพลังมากจริงๆ เราปฎิเสธไม่ได้เลยว่านี่อาจเป็นร้านกาแฟที่เราใฝ่ฝันจะมานั่งสักครั้ง ร้านที่เราสามารถแต่งตัวง่ายๆสบายๆ สั่งกาแฟผิดๆถูกๆ หรือสั่งไม่เป็นเลยแต่ยังได้รับการแนะนำอย่างดีจากบาริสต้า และรอยยิ้มกว้างเป็นของแถม ร้านกาแฟที่ให้ความรู้สึกเหมือนเราแวะเติมพลังที่บ้านเพื่อนก่อนออกเดินทางสู่จุดหมายต่อไป
ระหว่างนั่งชิวๆ รอกาแฟสูตรพิเศษที่แนะนำโดยบาริสต้าสุดน่ารัก ก็ขอใช้เวลานี้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการเพิ่มเติมความสวยและส่งกลิ่นหอมให้กับตัวเองสักหน่อย ด้วยแป้ง M&C ที่มีอณูแป้งละเอียดเนียนนุ่มขั้นสุด กลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แถมยังช่วยระงับเหงื่อ ผิวนุ่มมมม สบายตัว สบายกาย สบายใจทั้งจมูกเราและจมูกคนข้างๆ เดินเล่นจนเหงื่อออกแค่ไหนพกแป้งนี้ไว้ก็ไม่มีกลิ่นเหงื่อให้ต้องกังวล
005 บะหมี่พังงา-ตลาดขวางสาขาตะกั่วป่า
อีกหนึ่งร้านบะหมี่เก่าแก่ของพังงาอยู่ที่ตะกั่วป่า สวรรค์ของคนรักเส้นเพราะบะหมี่ที่นี่เป็นสูตรเฉพาะของทางเจ้าของร้าน เส้นเหนียวนุ่มเป็นเอกลักษณ์ ตัวเกี๊ยวและหมูแดงสีสันเป็นธรรมชาติไม่แดงจนนึกว่าตกถังสีผสมอาหารมา และยังมีหลายเมนูให้เลือกทั้งแบบแห้งแบบน้ำตามสไตล์ เช่น บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง บะหมี่ขาหมู เกี๊ยวขาหมู และเกี๊ยวทอดไว้ทานเล่นด้วย แต่ร้านนี้ต้องรีบมากันหน่อยนะ เพราะว่าขายดีมากช่วงบ่ายๆ ก็เริ่มหมดอดรับประทานนะจ้ะ
006 Memories Beach
เติมพลังกันเรียบร้อยพร้อมมุ่งหน้าสู่จุดหมายอันสำคัญของเราในทริปนี้ นั่นคือการไปนอนอาบแดดดี๊ด๊าริมหาดลับของพังงาแบบไม่ต้องเขินสายตาใคร เพราะคนส่วนใหญ่ที่มาที่นี่เป็นฝรั่งเกือบทั้งหมด เพราะหาดนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทยมากนัก! การเดินทางก็แสนง่ายแค่ขับรถเลยโรงแรม JW Mariotte นิสนึงสังเกตุซ้ายมือให้ดีๆ จะเห็นกระดานโต้คลื่นตั้งอยู่ เลี้ยวตรงเข้าไปอีก 4 กิโลเมตร ถนนทางเข้าก็จะมีความเป็นหลุมเป็นบ่อเล็กน้อยถึงปานกลาง จนคิดว่าข้างในมันจะมีอะไรฟะ ถ้าไม่ใช่เพราะคำบอกเล่าของเจ้าของโฮสเทลมังกี้ไดร์ฟว่ามีทีเด็ดของดีอยู่ในนี้คงนอนตีพุงกันอยู่ที่โฮสเทล ขับไปเรื่อยๆจะเริ่มเห็นดงใบบอนยักษ์สูงท่วมหัวอยู่ริมสองข้างทาง เป็นการต้อนรับว่าเราใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ตรงนี้เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปเก๋ๆ คูลๆ ฟีลวันนึงฉันเดินเข้าป่าก็มากจ้า
หลังจากเดินเข้าป่าผ่านดงใบบอนและก้าวลงจากรถ เราก็ได้พบหน้ากับ Memories beach หรือชื่อเดิมที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่าหาดประการัง หาดลับที่เต็มไปด้วยกระดานโต้คลื่น ฝรั่งผิวแทน บิกินี่ แสงแดด เกลียวคลื่น และไอทะเล เป็นหาดที่ชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่มาฝึกวิชาโต้คลื่น เพราะคลื่นที่นี่ค่อนข้างแรง บางช่วงแรงมากพอที่จะเล่นเซิร์ฟได้อย่างเมามันส์ และกลายเป็นแหล่งโต้คลื่นที่ดีอันดับต้นๆ ของไทยแถม รู้มาว่าดาราฮอลลีวู้ดบางคนก็แอบมาพักผ่อนกันที่นี่ด้วย
แสงแดดอ่อนๆ กระทบผิวกำลังดี เหมาะแก่การจะนอนอ่านหนังสือให้พอผ่านตาสักบทสองบท และใช้เวลาที่เหลือนั่งมองสิ่งต่างต่างรอบตัวบนหาดแห่งนี้ ขอบอกเลยว่าตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ยังรู้สึกว่าผิวชุ่มชื่นอยู่เพราะ Moisturizer ที่ผสมน้ำมันธรรมชาติของ M&C Light blue เชื่อเถอะว่าผิวสวยสุขภาพดีต้องมาจากผิวอารมณ์ดี จะขาวอมชมพู ขาวเหลือง หรือแทนๆ โกลวๆ ก็ปังได้หมดนะเหวย
เสน่ห์ของที่นี่คงเป็นความตั้งใจของทุกคนที่มาเล่นเซิร์ฟบอร์ด ไม่ว่าจะระดับบีกินเนอร์ไปจนถึงโปรเฟสชั่นนอลชายหาดแห่งนี้ก็ยินดีต้อนรับสาวๆ แก่นกะโหลก น่ารัก เซกซี่ ผิวดีอย่างเราจะพลาดได้อย่างไร ก็จ่ายค่าสอนไปเบาๆแค่ 700-1000 บาทได้ครูมาสอนพร้อมแถมกระดาน แล้วก็ต้องรีบขอลองสักหน่อย โดยถือคติที่ว่าล้มไม่ว่าแต่ท่าต้องสวย เรื่องเรียนเรื่องรองแต่ภายสวยๆต้องมาก่อน หลังจากเพลิดเพลินกับการล้มคะมำหน้าคว่ำแต่ได้ภาพสวยๆ มาจนเป็นที่พอใจ ก็ถึงเวลาเพลิดเพลินกับความบันเทิงบนหาดแห่งนี้กันต่อ เพราะเมื่ออาทิตย์เริ่มลดแรงสาดแสงก็เป็นเวลาที่บาร์เทนเดอร์และนักท่องเที่ยวจะพร้อมใจกันกินดื่มแบบชิวๆ หรือขยับแข้งขากัยอีกนิดหน่อยกับวอลเลย์บอลชายหาด และกลับมานั่งพักจิบจินโทนนิค ชมการควงกระบองไฟในยามค่ำคืน
สนุกกันแบบหน้าท้องเกร็ง กล้ามเนื้อแกร่ง ก็ถึงเวลาชำระล้างร่างกาย ริมชายหาดให้อารมณ์ไมอามี่บีชสุดๆ เพราะเค้ามีฝักบัวสำหรับนักท่องเที่ยวและห้องน้ำส่วนตัวด้านหลังไว้บริการ เรารีบคว้า Shower Gel M&C Light Blue ที่พกติดกระเป๋ามาด้วยไปอาบน้ำล้างตัวทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ครีมอาบน้ำอันนี้ดีงามมาก เพราะนอกจากจะไม่ทำลายน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวที่เราทาไปเมื่อเช้าแล้ว ส่วนผสมก็ได้จากสารสกัดชนิดบริสุทธิ์เข้มข้นจากต้นวิทซ์ฮาเซล บำรุงและเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวช่วยกระตุ้นการสร้าง Elastin และ Collagen ใต้ผิวหนังทำให้ผิวกระชับ แถมยังล้างออกง่ายสดชื่นสุดๆ
ถ้าพังงาเป็นเป้าหมายของการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ Memories beach ก็คือความทรงจำอันแสนสดชื่นที่จะปลุกความซุกซนของเด็กสาวของเราให้กลับมามีจิตวิญญาณขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ต้องทน จิกส้นสูง สวมสูท ทำหน้าเข้ม หรือยิ้มแบบปลอมๆให้กับสิ่งรอบตัว ให้โลดแล่นอีกครั้งหนึ่ง แต่มาเยือนสวรรค์เมืองใต้ทั้งที ถ้าไม่ออกไปกลางทะเลก็เหมือนมาไม่ถึง พรุ่งนี้เราจึงจองทริปดำน้ำที่หมู่เกาะสุรินทร์เอาไว้เพื่อพิสูจน์ด้วยตาตัวเองว่าสวรรค์นั้นมีจริงรึเปล่า
:: Day 3 ::
007 หมู่เกาะสุรินทร์
แม้จะงัวเงียเล็กน้อยที่ต้องตื่นเช้ามาสองวันติด แต่เมื่อเราได้เห็นท้องฟ้าสีคราม หมู่ต้นไม้สีเขียวเข้ม และความใสราวกับกระจกของท้องทะเล สมองของเราก็ว่างเปล่า ดวงตาได้แต่จับจ้องไปที่พื้นน้ำ และคิดกับตัวเองเบาๆว่าถ้าสวรรค์สวยงามแบบนี้ ตอนตายคงไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ใครจะเชื่อว่า ณ ท้องทะเลอันห่างไกลผู้คน ยังมีหมู่บ้านของชาวมอร์แกนหรือชาว Surin Gypsea Island ตั้งอยู่ ณ หุบเขาที่โอบล้อมไปด้วยทะเลแห่งนี้ด้วย
เกาะสุรินทร์มีเกาะสำคัญทั้งหมด 5 แห่ง คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะไข่(เกาะตอรินลา) เกาะกลาง (เกาะปาจุมบา) และเกาะรี(เกาะสต๊อก) แหล่งธรรมชาติใต้ท้องทะเลอันแสนสมบูรณ์ที่มีทั้งแนวปะการังน้ำตื้นอันสมบูรณ์สวยงามเป็นอันดับต้นๆของไทย ปลาการ์ตูนสีสันสดใสและปะการังต่างๆ อย่างปะการังผักกาด ปะการังสมอง ปะการังนิ้วมือ ปะการังเขากวาง ปะการังอ่อน ดอกไม้ทะเล ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาผีเสื้อ จุดดำน้ำตื้นที่นี่จึงมีปลานีโมเยอะมากๆ และหากใครที่พกดวงมามากพอก็อาจจะโชคดีพบสัตว์ทะเลหายากอย่างเต่าทะเล ฉลามวาฬด้วย
การเดินทางไปเกาะสุรินทร์สามารถเดินทางได้ทั้งจากภูเก็ต และเขาหลัก พังงา เพื่อขึ้นเรือที่ทับละมุ หากเดินทางมาจากภูเก็ตก็ต้องใช้เวลานานสักหน่อย ประมาณสามชั่งโมงจากตัวเมืองถึงท่าเรือ แต่หากพักที่เขาหลักจะใช้เวลาเพียง 15-30 นาทีเท่านั้น เกาะสุรินทร์นั้นมีมากมายหลายทัวร์ให้เลือกใช้บริการ แต่ครั้งนี้เราสองคนเลือกใช้บริการของ Love Andaman ที่บริการเลิศเลอจนต้องบอกต่อ เริ่มตั้งแต่มีรถไปรับหน้าที่พัก บริการอาหาร ขนมนมเนยจัดเต็มทั้งก่อนลงเรือ ในเรือ อาหารกลางวัน จนกลับมาก็ยังมีให้กินกันตลอดทริป ที่สำคัญไกด์และลูกเรือทุกคนน่ารักมากเป็นกันเองมาก พร้อมที่จะให้ข้อมูลและช่วยเหลือเราเสมือนเคยรู้จักกันมาก่อน เรียกได้ว่าจ่ายเงินปุ้บก็อยู่สวยๆรอบริษัทจัดการให้ทุกอย่าง ขอแค่หิ้วกระเป๋าและขึ้นเรือเป็นอันจบพิธี ส่วนการเดินทางไปหมู่เกาะเกาะสุรินทร์จะใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาทีโดยประมาณ เพราะฉะนั้นลงเรือปั๊ปก็ขอโบกมอยซ์เจอไรซ์เซอร์จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว M&C Light Blue เซตเดิมอีกสักรอบเพื่อเพิ่มความมั่นใจและเฉิดฉายใต้พระอาทิตย์ที่ร้อนแรงปานสปอต์ไลท์สิบห้าดวง
จุดเด่นของเกาะสุรินทร์คือทุกอย่าง!!! ตั้งแต่ขอบฟ้ายันผืนน้ำ ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสกับสีมรกตของน้ำทะเลที่ตัดกันและเชื่อมกันผ่านแสงของดวงอาทิตย์ แค่มองออกไปก็สบายตาสบายใจจนอยากดำดิ่งท่ามกลางความอัศจรรย์ตรงหน้า และวันนี้เราจะดำน้ำกันทั้งหมด 3 จุดคือ อ่าวแม่ยาย อ่าวสัปะรด อ่าวบอน และแวะกินข้าวกลางวันที่อ่าวช่องขาด (ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์) กระซิบไว้เลยว่าสวย ปัง อลังการทุกจุด
และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เปรียบเสมือนเป็นโลโก้ประจำหมู่เกาะสุรินทร์ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ หมู่บ้านมอร์แกน หมู่บ้านเล็กๆบนเกาะกลางทะเล ที่ทุกคนใช้นามสกุลเดียวกันทั้งหมดคือ กล้าทะเล นามสกุลที่ได้รับพระราชทานโดยสมเด็จย่า ชาวมอร์แกนที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายเหล่านี้ เป็นดังผู้พิทักษ์ท้องทะเลเพราะทะเลคือบ้านของพวกเค้า ดังนั้นเราจึงจะเห็นเด็กตัวเล็กๆ วิ่งขึ้นบกลงน้ำกันแบบไม่เกรงกลัว เพราะท้องทะเลไม่ได้ต่างกับบนฝั่งเลยสำหรับชาวกล้าทะเล ส่วนเราสวมชูชีพวนไป
ชาวมอร์แกนหรือยิปซีแห่งท้องทะเล พวกเค้ามีภาษาเป็นของตัวเอง แต่ก็มีบางส่วนที่สามารถพูดภาษาไทยได้ และมาเป็นลูกเรือของบริษัท love Andaman หาเงินเพื่อเลี้ยงชีพและครอบครัว แต่โดยปกติชาวมอร์แกนก็จะดำรงชีพหากินด้วยการหาของป่า เช่น เผือก มัน มาประกอบอาหารแบบพอเลี้ยงชีพได้สำหรับในครอบครัว และเมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยียนพวกเค้าก็มีการวาดรูป แกะสลักไม้ ขายกำไร สร้อยคอเล็กๆน้อยๆเป็นรายได้เสริมอีกทางหนี่งด้วย เด็กๆและชาวบ้านที่นี่จะยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี เข้ามาทักทายพูดคุยกับแขกผู้มาเยือนเสมอ แนะนำว่าถ่ายรูปได้แต่อยากให้ขออนุญาติกันก่อนสักนิด จะได้ไม่ล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของพวกเค้ามากนัก เราใช้เวลาเดินรอบหมู่บ้านเพื่อชมวิถีชีวิตและความสวยงามของทะเลพังงาสักพัก ก่อนบอกลาเพื่อขึ้นเรือเเละกลับมายังท่าเรือทับละมุเพื่อเดินทางต่อไปยังสนามบิน
ทริปเพิ่มพลังชีวิต และฟื้นฟูร่างของเราในครั้งนี้ก็จบลงอย่างสวยงาม บรรลุเป้าหมายของการเดินทางแบบครบถ้วน พร้อมแล้วที่จะกลับไปอวดผิวสวยใส และไฟในการทำงานอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมลุยกับครึ่งปีหลัง แถมยังเพิ่มเติมคือความหวังและความสนุกสนานที่จะใช้ชีวิตให้มีชีวาต่อไปกับโลกแห่งการทำงาน ก่อนจะย้ำเตือนตัวเองอีกครั้งว่า เราจะต้องได้พบกันใหม่ในทุกๆ ปีอย่างแน่นอน ณ สวรรค์แดนใต้แห่งนี้
ย้ำกันอีกครั้งว่าผิวสวยที่แท้ทรูไม่จำเป็นต้องผิวขาวเสมอไป ผิวแทนก็สวยสุขภาพดีได้เพราะผิวสวยต้องมาจากผิวที่อารมณ์ดี ได้รับการบำบัดและบำรุงด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อผิวสวยที่แท้จริงยาวนาน ถ้าบำรุงอย่างสม่ำเสมอด้วยเซตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว M&C Light Blue เซตนี้เหมาะมากสำหรับพกพาไปเที่ยว เพราะมีทั้ง Shower gel, Body moisturizer, Talcum powder, Natural soap และน้ำหอมที่มีกลิ่นสดชื่นเฉพาะตัว ช่วยปลอบประโลมทุกสภาพผิวให้ผ่อนคลาย แถมขนาดและปริมาณกำลังดีพร้อมหยิบออกมาบำรุงผิวได้ทุกที่ คิดดูว่ามาทะเลเจอแดดเผาน้ำเค็มกัดผิว แต่ผิวชั้นก็ยังคงสวยงามเพราะมีตัวช่วยดี จะเข้าซัมเมอร์อีกไม่ไกล เหมาะมากนะที่จะต้องมีไว้สักชุดนึง สาวๆคนไหนสนใจและอยากมีผิวสุขภาพดีหาซื้อได้ทางนี้เลย กดที่นี่ และ ที่นี่ เชื่อเราเถอะว่าการออกเดินทางมันดีต่อใจ คุ้มค่าในทุกมิติ แม้อาจต้องมีเสียตังนิดหน่อย สอยเวลาเราไปบ้าง แต่ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีบนโลกใบนี้ แต่สิ่งไหนจะคุ้มค่ากับเงินและเวลาที่เสียไปของเรามากที่สุดเราต้องเลือกเอง สุดท้ายถ้าเก็บอากาศดีๆแบบนี้กลับบ้านไม่ได้ ขอเก็บผิวสวยแทนสุขภาพดีด้วย M&C กลับไปละกัน
มีโปรร้อนผ่าวมาแนะนำสำหรับการสั่งซื้อ :
Promotion : Lotion & Shower Gel ราคาพิเศษ 350 บาท
Timing: 12 July – 30 Sep 18
Channel: จะเที่ยวไปไหน : Promotion Code >> MNC0682