“พูดถึงจังหวัดอยุธยา”
หลายคนมักนึกถึงวัดวาอาราม สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่คุณครูเคยพาไปทัศนศึกษาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้น ป.4 เราขอบอกตรงนี้เลยว่าใครที่มีภาพจำว่าอยุธยาจะต้องมาคู่กับวัด คิดใหม่ได้เลยเพราะอยุธยาเดี๋ยวนี้เค้ามีที่เที่ยวที่น่าสนใจเยอะมาก ซึ่งแน่นอนว่ามันเยอะพอที่จะทำให้ One Day Trip ของเราแพลนแน่นเอี๊ยดดได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นตลาดน้ำโบราณอโยธยา พิพิธภัณฑ์ของเล่นสมัยใหม่ Unseen Thailand อย่างเศียรพระในต้นไม้ รวมถึงร้านกาแฟชิคๆที่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมของจังหวัด
ท่ามกลางอากาศที่ร้อนขั้นสุดขีดของประเทศไทย ทริปนี้ขอสลัดภาพความเหนื่อย ปาดเหงื่อยืนโบกรถริมถนน เป็นขับเจ้า MG5 น้องใหม่สไตล์สปอร์ตที่มาพร้อมหลังคาซันรูฟออกไปเที่ยวดู
เรามาเปลี่ยนวิถีเที่ยวแบบเดิมเดิมให้มันดูคูลยิ่งขึ้นกับการขับรถชมโบราณสถานแบบเก๋ๆ ไปกัน
ทริปนี้เราออกเดินทางไม่เช้ามาก เพราะมั่นใจในถนนหนทางและเครื่องยนต์ Turbo 1.5 ลิตร 129 แรงม้า แถมด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดของ MG5 ที่ทำให้คนชอบตื่นสายแบบเราถึงที่หมายจังหวัดอยุธยาภายในเวลาชั่วโมงกว่าแบบชิล ๆ
ก่อนจะเมาท์เรื่องอยุธยาให้ฟัง ขอเล่าถึงความดีงามของเจ้า MG5 กันสักนิด MG5 เป็นรถที่ประหยัดน้ำมันกว่า เพราะรองรับ E85 แถมเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบรถสไตล์ Brit Dynamic แบบเราเรา หน้าตางามๆดูเรียบร้อยแต่แฝงไปด้วยดีไซน์เท่ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระโปรงหน้าแบบ V-shape ,ไฟหน้าแบบ Projector ที่มี Daytime running light และไฟท้ายโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตอีกด้วย
- วัดใหญ่ชัยมงคล
เราขับรถไปวัดเก่าแก่ของอยุธยาเป็นที่เเรกเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยและรับสิริมงคลกันก่อน วัดใหญ่ชัยมงคลเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาที่ได้รับการปฎิสังขรณ์ในสมัยพระนเรศวรมหาราช จุดเด่นของวัดที่เข้าไปแล้วต้องร้องว้าวคือเจดีย์องค์ใหญ่ม๊ากกกกก ภายในมีการค้นพบพระชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ หากใครที่สนใจเข้าไปดูต้องเดินขึ้นบันได ซึ่งมีความสูงชนิดที่ใครกลัวความสูงอาจจะต้องขอบาย
บริเวณรอบเจดีย์จะมีกำแพงแก้วล้อมรอบอยู่ ไม่ต้องมองหาไกลเพราะกำแพงแก้วก็คือบริเวณที่เป็นกำแพงก่ออิฐและมีพระพุทธรูปปางสมาธิประดิษฐานอยู่โดยรอบ
อีกจุดที่มาถึงแล้วต้องมากราบไหว้สักการะไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงวัดใหญ่ชัยมงคลคือ พระนอนศักสิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระไสยาส ปัจจุบันตัววิหารเหลือเพียงผนังที่ก่ออิฐปูนเท่านั้นเนื่องจากหลังคาไม้ได้ผุพังไปตามกาลเวลา
- วัดมหาธาตุ
ออกเดินทางกันต่อไปยัง วัดมหาธาตุ เพื่อตามหา Unseen Thailand ที่ทำให้วัดแห่งนี้โด่งดังไปทั่วโลกคือ เศียรพระพุทธรูปหินเนินทรายที่มีรากไม้ของต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่สวยงามแปลกตาจนชาวต่างชาติตื่นเต้นและแวะเวียนกันมาถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก
วัดมหาธาตุเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญที่สุดในอยุธยาเพราะนอกจากอันซีนที่กล่าวไปแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุกลางเมืองด้วย แต่น่าเสียดายที่วัดนี้ถูกทำลายลงหลังสงครามการเสียกรุงครั้งที่ 2
จุดที่น่าสนใจภายในวัดยังมีพระปรางค์ขนาดใหญ่ที่บริเวณรอบฐานจะมีรูปสัตว์หิมพานต์เรียงอยู่รอบๆ เช่น หงษ์ นกยูง กินนร ราชสีห์ เป็นต้น
“เจดีย์แปดเหลี่ยม” เจดีย์ที่แปลกตาเพราะว่าลดหลั่นกัน 4 ชั้น 8 เหลี่ยมนนับว่าเป็นองค์เดียวที่พบในอยุธยา นอกจากนี้ยังมีพระปรางค์ขนาดต่างๆตั้งเรียงรายอยู่โดยรอบ รงมถึงวิหารชุกชี และตำหนักพระสังฆราช
- ก๋วยเตี๋ยวป้าเล็ก
ซึมซับประวัติศาสตร์กันไปบางส่วนต้องขอแวะไปหาร้านฝากท้องกันที่ร้านดังของย่านนี้ เดินทางง่ายๆแค่ข้ามถนนมาจากฝั่งวัดมหาธาตุก็จะเจอร้านเล็กๆ ชื่อว่า ก๋วยเตี๋ยวป้าเล็ก ที่ขายดีอยู่คู่อยุธยามาเกือบสามสิบปี
แอบเม้าท์ก๋วยเตี๋ยวชามเล็กสมชื่อจริงๆ ทว่าคุณภาพไม่เล็กตามนะแกร ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหมู เนื้อต้นฉบับอยุธยา ของป้าแกนี่เด็ดมากเสิร์ฟปุ๊บแทบไม่ต้องปรุงเลย น้ำซุปอร่อยมาก ใครมาทานต้องมีสั่งสามชามเป็นอย่างต่ำแน่นอน อย่างเรานี่จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบสิบชามเลยจร้า
จบคาวก็เดินทางหาร้านของหวานกันต่อเลย ซึ่งคาเฟ่ที่เราแวะไปเติมความหวานกันหลังจากอิ่มก๋วยเตี๋ยวแล้วก็คือ Summer House Ayuttaya ว่าแต่ร้านอยู่แห่งหนใดขับวนไปมาแล้วงงมากกต้องขอเปิดจีพีเอสนำทางซะหน่อย แต่ยุคนี้ไม่ต้องเปิดจีพีเอสจากมือถือให้เปลืองแบตแล้ว ยิ่งเดินทางกับ MG5 ที่มาพร้อมระบบนำทางแล้วล่ะก็ อุ่นใจจร้าาา จีพีเอสของนางใช้งานง่ายมากแถมยังสั่งงานสะดวกด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พอกันทีกับการขับรถหลงวนไปมา 555555
ข้อดีของการมีหน้าจออัจฉริยะขนาดใหญ่คืออะไรรู้มั้ย? นอกจากเวลาเราขับรถไปมองทางไป เราจะเหลือบมองจีพีเอสที่มีพื้นที่เยอะขึ้น คือมันเต็มตาอ่ะพูดง่ายๆ รวมเทคโนโลยีที่เหมาะกับคนถอยรถไม่เก่งอย่างเรา! ถอยเลยพี่ ถอยเลยยาวไป ยาวปายยยย พ๊ออ MG5 นางมีกล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเตือนด้วยถอยได้ไม่ต้องกลัวชนแล้วแกร๊
ส่วนใครที่รักในเสียงเพลง แต่หนักใจกับคลื่นวิทยุที่ไม่เคยเปิดเพลงที่เราชอบสักที ยกโทรศัพท์ขึ้นมาค่ะจะเชื่อมต่อบลูทูธหรือจะเสียบ USB ก็สามารถเชื่อมต่อเปิดเพลงโปรดได้สบายใจ
- The Summer House Ayuttaya
ในที่สุดจีพีเอสก็นำทางเราผ่านถนนซับซ้อนจนมาถึงร้าน The Summer House อยุธยา ซึ่งเป็นร้านอบอุ่นน่ารักที่พึ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน ซึ่งบรรยากาศโดยรวมจัดว่าดีแถมมีที่นั่งทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์
ใครที่ชอบลมธรรมชาติก็นั่งเก้าอี้พับริมแม่น้ำเจ้าพระยาชิลชิลด้านนอกได้เลย
ส่วนใครนั่งได้แค่แอร์ก็ในร้านไปจร้า ซึ่งภายในร้านนางตกแต่งได้น่ารักอบอุ่นด้วยไฟโทนส้ม กำแพงอิฐโดยรอบ และยังมีเปียโนหลังโตที่วางไว้คู่กัน บรรยากาศแบบนี้มันช่างเหมาะแก่การมานั่งเมาท์มอยกับเพื่อนๆ หรือจัดเลี้ยงเป็นที่ซู๊ดดดดด
ทางร้านมีเมนูให้เลือกทานหลากหลายมากไม่ว่าจะของคาว ของหวาน มาครบแน่นอน แต่เราจะขอนำเสนอเมนูน่ารักของร้านอย่างสายไหมสีพาสเทลที่เสิร์ฟพร้อมวิปครีมสามรส หวานฟินนนเลย
พอสั่งมากินกับชาเขียวร้อน 10 10 10 ไปเลยจร้า
หลังจากอิ่มทั้งคาวอิ่มทั้งหวาน พวกเราขับรถเข้ามาในอุทยานประวัติศาสตร์อีกครั้ง โดยจุดประสงค์ก็คือมาขับรถชมวิวไปเรื่อยๆ อยุธยาเป็นเมืองที่เหมาะกับการขับรถเล่นรอบเมืองมาก ด้วยความที่อยุธยาเคยเป็นราชธานีเก่า จึงมีวัดวาอารามและโบราณสถานตั้งอยู่โดยรอบของจังหวัดให้ได้ชมกัน ซึ่งบางส่วนได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา การชมโบราณสถานที่หาพบได้ริมถนนเป็นอีกหนึ่งสเน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองเก่าอยุธยาเลยก็ว่าได้
และแน่นอนเราจะใช้หลังคาซันรูฟของMG5 ให้เป็นประโยชน์ด้วยการเปิดไปชมโบราณสถานแบบไม่ต้องเดินลงไปให้เหนื่อย ก็สามารถชมความงามและเก็บภาพความประทับใจได้แบบเก๋ๆ
- แลเพนียดช้าง
นอกจากริมข้างทางเราจะพบเห็นฝรั่งที่ดูจะดื่มด่ำกับการปั่นจักรยานท่ามกลางแสงแดดที่โซฮอตมากๆแล้ว เรายังพบเห็นช้างหลายเชือกที่กำลังแบกนักท่องเที่ยวชมเมืองราวกับเป็นไกด์ เราขับรถตามช้างไปเรื่อยๆ จนถึงแลเพนียดคล้องช้างที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆกับคุ้มขุนแผน แลเพนียดเป็นเหมือนที่พักผ่อนของน้องช้างและควาญช้าง จะมีโซนที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปให้อาหารและเก็บภาพน่ารักของน้องๆ ถ้าโชคดีมาตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ก็จะมีโอกาสได้ชมการแสดงโชว์และลอดท้องช้างเสริมสิริมงคลด้วยนะเออ
แลเพนียดช้างเป็นเส้นทางขับรถผ่านไปเพื่อไปยังพิพิธภัณฑ์ของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ เราจะเห็นว่าพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่เกิดขึ้นมากมาย จากคนที่รักในการสะสมไม่ว่าจะเป็นของเก่าของเก็บ รถโบราณ นาฬิกา รวมไปถึงของเล่น คุณยายของเราเองก็เป็นหนึ่งคนที่ชอบสะสมของเล่นมาตั้งแต่สมัยสาวๆ ทุกครั้งที่มาพิพิธภัณฑ์แล้วเจอของเล่นคุ้นตาเนี่ยจะประทับใจมากๆที่เจอคนชอบสะสมเหมือนกัน
- พิพิธภัณฑ์ของเล่นเกริกยุ้นพันธ์
พิพิธภัณฑ์ของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ ตามชื่อเลยคือมี รศ.เกริก ยุ้นพันธ์เป็นเจ้าของ ท่านได้เดินทางไปชมพิพิธภัณฑ์ของเล่นสังกะสีที่ญี่ปุ่นประทับใจก็เลยกลับมาเอาของสะสมวัยเด็กสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นแห่งแรกในประเทศไทย บรรยากาศเป็นอาคารสองชั้นสีฟ้าสดใส และร่มรื่นมีของเล่นตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงของเล่นสมัยใหม่อย่างเจ้าหนูอะตอม มุมิน อุลตร้าแมน รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ไทยสมัยก่อน
เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ 09.00-16.00 น เท่านั้นน้า
- Cafe’ Retreat
อีกหนึ่งร้านกาแฟที่เราขับรถตามจีพีเอสเข้ามาในถนนเล็กๆ ตอนแรกแอบตกใจว่าทำไมมีร้านกาแฟมาเปิดลึกลับขนาดนี้ และใครจะคิดว่าบ้านทรงไทยที่เราเสิร์ชหาข้อมูลจากกูเกิ้ลก่อนเดินทางมาแจะเป็นร้านกาแฟ บอกเลยร้านกาแฟเจ้านี้ฉีกภาพจำฉีกกฎความเป็นร้านกาแฟที่เคยเห็นมาตลอดชีวิต
และนี่แหล่ะคือการมาพักผ่อนที่แท้ทรู มองออกไปจากจุดที่เรานั่งเป็นบ่อบัวขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยสะพานที่ทอดถึงกันมีจุดให้นั่งพักผ่อนเป็นระยะ บวกกับห้องพักสไตล์ไทยๆที่ตั้งเนียนๆไป บรรยากาศร่มรื่นฟังเสียงน้ำ เสียงนกพักสายตาสีเขียวของต้นไม้รอบๆโคตรดีให้นั่งอยู่ที่นี่ทั้งวันยังได้
นอกจากที่นี่จะเป็นคาเฟ่ที่ให้เรารีทรีทจิตใจกันแล้วยังรีทรีตกายกันได้เพราะที่นี่เป็นที่พักด้วย เราสังเกตุเห็นเรือลำเล็กกลางบ่อบัว หันไปถามคุณป้าว่าหนูลงไปพายเรือได้ไหมคะ? ป้าบอกกเอาเลยจ้ะถ้าหนูพายเป็น5555555555 ป้าใจดีมากทำให้เราไม่ได้แค่อิ่มกับขนมนมเนยที่สั่งมาแต่อิ่มใจกับบรรยากาศดีๆที่นี่มาก
ด้านในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของใช้แบบไทยๆอย่างที่ปั่นน้ำแข็งไสโบราณ เครื่องปั้นดินผา
โซฟาและโต๊ะไม้เก่าๆที่แค่วางไว้เฉยๆก็ยังเท่ในบรรยากาศแบบนี้
ถามถึงของหวานขึ้นชื่อของร้านนี้คุณป้าแนะนำเค้กมะพร้าว ซึ่งไม่พลาดที่จะสั่งมาชิม อือหือกัดคำแรกนุ่มละมุนจนอยากสั่งเพิ่มอีก เอาเป็นว่ามาแล้วไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
- ตลาดน้ำอโยธยา
ตลาดน้ำอโยธยาอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มาถึงอยุธยาแล้วต้องห้ามพลาด เอาจริงคือพวกเรามาเดินหาของฝากติดไม้ติดมือไปฝากลุงป้าน้าอาพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหาย พอแล้ว!เยอะไป ออกจากคาเฟ่เราก็มุ่งหน้าไปต่อทันที ตามมาค่ะ มุ่งหน้าคว้าพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นของเราไปที่ตลาดน้ำอโยธยากันดีกว่า สำหรับจุดเด่นของที่นี่ก็คือ เป็นตลาดน้ำที่ล้อมไปด้วยระเบียงริมน้ำที่ให้นักท่องเที่ยวเดินซื้อของฝากและนั่งพักผ่อนหย่อน
ถ้าใครไปได้จังหวะก็จะได้ดูการแสดงประวัติศาสตร์ของที่นี่ที่จัดให้ชมกันทุกวัน
ใส่ด้วยเบญจรงค์สวยๆแบบนี้นึกว่าของหวาน ไม่ใช่จ้าผลไม้ดองเยอะแยะไปหมด เห็นแล้วก็เปรี้ยวปาก
และอีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่คือ บริการล่องเรือรอบตลาดที่มีพ่อหนุ่มแต่งตัวละม้ายคล้ายพี่ทหารสมัยอยุธยามาพายเรือให้เราชมรอบๆ
เอาหัวเป็นประกันว่าถ้าเข้าไปมาเดินที่ตลาดน้ำแห่งนี้มีอันได้ของฝากติดไม้ติดมือกันทักคนแน่นอน แต่ของฝากจะแน่นเบอร์ไหนก็ไม่ต้องกังวลนะพ่อแม่พี่น้อง รถเราใหญ่ เพราะเจ้า MG5 นอกจากห้องผู้โดยสารกว้างขวางนั่งสบายแล้ว ที่เก็บของของนางยังมีอีกเพียบทั้งลิ้นชักเก็บของใต้เบาะ เบาะหลังเรายังพับเก็บได้อีก แต่เอาจริงแค่ที่เก็บของหลังรถก็พอแล้ว 555555
- Sala Ayuttaya
พักหลังเราเป็นนักท่องเที่ยวที่ค่อนมามาทางสายกิน ดังนั้นทริปนี้เราจะไม่ยอมจบที่ของฝากจากอยุธยาแน่นอน ไหนๆเพจเราขึ้นชื่อเรื่องของกิน จนทุกวันนี้จะเปลี่ยนเป็นจะกินไปไหนอยู่แล้ว ฮะฮ๋า เราก็จะนำเสนอร้านเด็ด ร้านกาแฟกันอยู่ตลอด อีกหนึ่งร้านที่เราตั้งใจว่าจะมาให้ได้คือ ศาลาอยุธยา
ศาลาอยุธยาขึ้นชื่อเรื่องความสวยความเก๋ของสถาปัตยกรรม การตกแต่งทั้งภายในภายนอกที่โมเดิร์นแบบดิบๆรวมถึงโลเคชั่นพื้นที่ที่ตรงข้ามกับวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาคือดีงามมาก ฝรั่งมังค่าก็เยอะแยะเพียบไปหมด (ชอบเลยอาหารตาเพียบ)
ต้องขอบอกว่าศาลาอยุธยาเหมาะมากกับบรรยากาศยามเย็น นั่งไขว้ห้างทานดินเนอร์ชมวิวฝั่งวัดพุทไธสวรรย์ อาหารของที่นี่จะบริการเครื่องดื่มและอาหารไทยหลายชนิด เมนูต้มยำกุ้งแม่น้ำก็จัดเต็มมาตัวใหญ่สมราคา อาหารรสชาติดีถูกปากทั้งคนไทยและต่างประเทศ
กุ้งตัวโตๆ กับยำทะเลรวมชามใหญ่ที่แซ่บกำลังพอดี
มุมยอดฮิตของที่นี้ออกแบบให้คล้ายกับกำแพงเมืองในอยุธยา มีความเป็นกรุงเก่าและความเก๋เมื่อแสงตกกระทบ และในส่วนของห้องพักคือโมเดิร์นม๊ากกกกกกกชอบม๊ากกก มีความคลีน ขาวสะอาดสบายตาจนอยากนอนแช่ในพูลวิลล่า เป็นอีกหนึ่งที่พักเก๋ๆ ที่แนะนำให้ลองมาเช็คอิน
เราใช้เวลาทั้งวันเช้ายันเย็นได้คุ้มค่ามากๆที่อยุธยา การมาพักผ่อนของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันบางคนชอบที่จะขับรถดูนู้นดูนี่เปิดกระจกเปิดซันรูฟรับลมไปเรื่อยๆ บ้างก็ลงไปเช็คอินเที่ยวหลายๆที่ ทำตัวกลมกลืนกับชุมชน หรือไปนั่งจิบกาแฟเย็นๆสักแก้วก็พอ อยุธยาเป็นตัวเลือกที่ดีมากใกล้กรุงเทพไปกีทีก็ไม่เบื่อ ทุกครั้งที่ได้กลับมาเที่ยวอยุธยาเหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนกลับไปชมความสวยงามและ สเน่ห์ของบ้านเมืองสมัยไทยสมัยก่อนที่กลายเป็นมรดกโลกที่มีคุณค่า และยังมีสถานที่ใหม่ๆเกิดขึ้นรอคนรุ่นใหม่อย่างเราตลอดเวลา
เล่าความประทับใจของการเที่ยวอยุธยาไปแล้ว ขอเล่าถึงความประทับใจใน MG5 กันสักนิด นอกจากความดีงามในการออกแบบทั้งสองสไตล์คือดูเรียบง่ายแบบหนุ่มสาวออฟฟิศและสไตล์สปอร์ตที่แถมหลังคาซันรูฟมาให้เปิดรับลมกันเล่นๆเนี่ย เหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างเราที่ค่อนข้างมีหลายคาแรกเตอร์ แล้ว MG5ยังเป็นรถที่โดดเด่นในด้านการควบคุมสมรรถนะทั้งที่ใช้เครื่องยนต์แบบ Turbo 1.5 ลิตร 129 แรงม้า แต่ระบบความปลอดภัยก็มาควบคู่กันคือจัดเต็มทั้งระบบที่ช่วยในการยึดเกาะถนนและการทรงตัว, ดิสก์เบรก 4 ล้อ, ระบบตัวถังนิรภัยFSF ที่ไม่ว่าเราจะออกทริปซิ่งไปไหน ระบบความปลอดภัยของเค้าบวกกับไอแฮฟสติก็ช่วยให้เราขับขี่แบบเท่ๆคูลๆและยังช่วยให้ปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น
ทริปดีดีก็ต้องคู่กับรถดีดี คลิกที่นี่ มันถึงจะเป็นทริปที่ฟินแบบนี้ไงแกร๊ !!